เมนูนำทาง
สารยับยั้งกำเนิดหลอดเลือด การควบคุมอาศัยปัจจัยนอกร่างกายองค์ประกอบอาหารมนุษย์ที่สามัญ ก็มีฤทธิ์ยับยั้งกำเนิดหลอดเลือดอย่างอ่อน ๆ และดังนั้น จึงได้เสนอใช้ในการป้องกันกำเนิดหลอดเลือด คือป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็งผ่านการยับยั้งกำเนิดเส้นเลือดโดยเฉพาะก็คือ อาหารต่อไปนี้มีสารยับยั้งในระดับสำคัญ และได้เสนอให้เป็นส่วนของอาหารสุขภาพเพื่อประโยชน์นี้และอื่น ๆ
การวิจัยและพัฒนาในเรื่องนี้โดยมากเป็นไปเพื่อการรักษามะเร็งที่ดีขึ้นเนื้องอกจะไม่สามารถใหญ่กว่า 2 มม. โดยไม่มีเส้นเลือดงอกใหม่นักวิทยาศาสตร์หวังว่า การยุติการงอกของเส้นเลือดจะกำจัดวิธีที่เนื้องงอกสามารถได้สารอาหารแล้วแพร่กระจายต่อไป
นอกจากใช้เป็นยารักษามะเร็ง ยายับยั้งกำเนิดหลอดเลือดยังได้ตรวจสอบเพื่อเป็นสารต้านความอ้วน เพราะเส้นเลือดในไขมันยังจะไม่โตเต็มที่ และดังนั้น จึงสามารถทำลายได้ด้วยยา[29]สารยับยั้งการเกิดหลอดเลือดยังใช้รักษาจุดภาพชัดเสื่อมแบบเปียกโดยระงับฤทธิ์ของ VEGF สารยับยั้งสามารถทำให้หลอดเลือดผิดปกติในจอตาหดลง และทำให้เห็นได้ดีขึ้น เมื่อฉีดยาเข้าไปในวุ้นตาโดยตรง[30]
สารยับยั้ง | กลไก |
---|---|
bevacizumab (Avastin) | จับกับ VEGF |
itraconazole | ยับยั้งปฏิกิริยาฟอสโฟรีเลชันของหน่วยรับ คือ VEGFR, ยับยั้งกระบวนการ glycosylation, การส่งสัญญาณผ่าน mTOR, การเพิ่มจำนวนและการย้ายที่ของของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง, การเกิดช่อง lumen, และกำเนิดหลอดเลือดที่เกี่ยวกับเนื้องอก[31][32][33] |
carboxyamidotriazole | ยับยั้งการเพิ่มจำนวนและการย้ายที่ของของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
TNP-470 (เป็นสารแอนะล็อกของ fumagillin) | |
CM101 | ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันออกฤทธิ์ |
IFN-α (interferon alpha) | ลดการแสดงออกของตัวกระตุ้นกำเนิดหลอดเลือด และยับยั้งการย้ายที่ของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
IL-12 (interleukin 12) | กระตุ้นการสร้างสารยับยั้งกำเนิดหลอดเลือด |
platelet factor-4 | ยับยั้งตัวกระตุ้นกำเนิดหลอดเลือด |
suramin | |
SU5416 | |
thrombospondin | |
สารต้าน VEGFR | |
สเตอรอยด์ต้านกำเนิดหลอดเลือด + เฮพาริน | ยับยั้งการแตกสลายของเยื่อฐาน |
Cartilage-Derived Angiogenesis Inhibitory Factor | |
matrix metalloproteinase inhibitors | |
angiostatin | ยับยั้งเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรงไม่ให้เพิ่มจำนวนและชักนำให้เกิดอะพอพโทซิส |
endostatin | ยับยั้งการย้ายที่ การเพิ่มจำนวน และการรอดชีวิตของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
2-methoxyestradiol | ยับยั้งการเพิ่มจำนวนกับการย้ายที่ของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง และชักนำให้เกิดอะพอพโทซิส |
tecogalan | ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
tetrathiomolybdate | ทำให้เกิดคีเลชันกับทองแดงซึ่งยับยั้งการงอกหลอดเลือด |
thalidomide | ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
thrombospondin | ยับยั้งการย้ายที่ การเพิ่มจำนวน การยึดเซลล์ และการรอดชีวิตของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
prolactin | ยับยั้ง bFGF และ VEGF |
สารยับยั้ง αVβ3 | ชักนำให้เกิดอะพอพโทซิสของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
linomide | ยับยั้งการย้ายที่ของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง |
ramucirumab | ยับยั้ง VEGFR2[34] |
tasquinimod | ไม่ชัดเจน[35] |
ranibizumab | ยับยั้ง VEGF[36] |
sorafenib (Nexavar®) | ยับยั้ง kinases |
sunitinib (Sutent®) | |
pazopanib (Votrient®) | |
everolimus (Afinitor®) | |
ผ่านการจับกับหน่วยรับ คือ VEGFR และหน่วยรับ VEGF อื่น ๆ ในเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง VEGF สามารถจุดชนวนการตอบสนองของเซลล์หลายอย่าง เช่น โปรโหมตการอยู่รอดของเซลล์ ป้องกันอะพอพโทซิส เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง cytoskeleton ซึ่งทั้งหมดล้วนโปรโหมตกำเนิดหลอดเลือดBevacizumab (ชื่อการค้า Avastin) ดักจับ VEGF ให้อยู่ในเลือด ลดการจับของ VEGF กับหน่วยรับของมันซึ่งมีผลลดการทำงานในวิถีกำเนิดหลอดเลือด ดังนั้น จึงยับยั้งการงอกหลอดเลือดใหม่ในเนื้องอก[8]
หลังจากการทดลองทางคลินิกหลายระยะในปี 2004 ยา Avastin ก็ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ กลายเป็นยาต้านกำเนิดหลอดเลือดแรกที่วางขายในตลาดแม้ต่อมาองค์การจะได้ถอนอนุมัติให้ใช้ยารักษามะเร็งเต้านมเมื่อปลายปี 2011[37]
แม้ยาต้านกำเนิดหลอดเลือดจะมีฤทธิ์ในการรักษา แต่ก็สามารถเป็นอันตรายเมื่อใช้ไม่ถูกต้องตัวอย่างหนึ่งก็คือ thalidomideซึ่งเป็นยาที่ให้กับหญิงมีครรภ์เพื่อรักษาอาการแพ้ท้องแต่เมื่อกินยาต้านกำเนิดหลอดเลือด ทารกในครรภ์จะไม่สามารถสร้างหลอดเลือดได้อย่างสมควร ดังนั้น จึงยับยั้งพัฒนาการที่สมควรของแขนขาและระบบหลอดเลือดในปลายคริสต์ทศวรรษ 1950 และต้นทศวรรษ 1960 เด็กเป็นพัน ๆ เกิดออกมาพิการ โดยเฉพาะแขนขาพิการ (phocomelia) เนื่องจากการใช้ยา thalidomide[38]
ตามงานศึกษาปี 2004 cannabinoids ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ในกัญชา สามารถระงับการงอกเส้นเลือดใหม่ใน gliomas (เนื้องอกสมอง) ที่ปลูกใต้ผิวหนังของหนู โดยยับยั้งการแสดงออกของยีนที่จำเป็นเพื่อสร้าง VEGF[39]
อาการเลือดออกเป็นผลข้างเคียงที่จัดการได้ลำบากที่สุด โดยเป็นผลตามธรรมชาติของฤทธิ์ยาBevacizumab ได้แสดงว่า เป็นยาที่มีโอกาสมากสุดในการก่อภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับเลือดออกแม้กลไกของสารต้าน VEGF ที่ทำให้เลือดออก จะซับซ้อนและยังไม่เข้าใจอย่างสมบูรณ์แต่สมมติฐานที่ได้การยอมรับมากที่สุด ก็คือ VEGF อาจโปรโหมตการรอดชีวิตของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรง และความแข็งแรงของหลอดเลือด ดังนั้น การยับยั้งมันจึงอาจลดสมรถถภาพในการฟื้นสภาพของเซลล์เนื้อเยื่อบุโพรงที่เสียหาย[40]
งานศึกษาปี 2009 แสดงว่า มีการเพิ่มความดันโลหิตโดยเฉลี่ย 8.2 mm Hg บน และ 6.5 mm Hg ล่างภายใน 24 ชม. แรกที่คนไข้ได้ยา sorafenib ซึ่งเป็นยายับยั้งวิถีการทำงานของ VEGF สำหรับผู้ที่ได้ยาเป็นครั้งแรก[41]
เพราะยาออกฤทธิ์ต่อหลอดเลือด จึงมักมีผลข้างเคียงต่อกระบวนการเกี่ยวกับหลอดเลือดนอกจากการตกเลือดและความดันโลหิตสูง ผลข้างเคียงที่สามัญน้อยกว่ารวมทั้งผิวหนังแห้งและคัน อาการที่มือเท้า (คือ มีส่วนบวมนิ่มที่ผิวหนัง บางครั้งพร้อมกับอาการพองที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า) ท้องร่วง ล้า และเม็ดเลือดต่ำยายับยั้งกำเนิดหลอดเลือดอาจรบกวนการหายแผล และทำให้แผลเปิดหรือเลือดออกถึงน้อยครั้ง แต่ลำไส้ก็อาจทะลุได้ด้วย[40]
เมนูนำทาง
สารยับยั้งกำเนิดหลอดเลือด การควบคุมอาศัยปัจจัยนอกร่างกายใกล้เคียง
สารยับยั้งกำเนิดหลอดเลือด สารยับยั้งเอซีอี สารยับยั้งโปรตีเอสชนิดพึ่งโปรตีนแซด สารยับยั้งการนำเซโรโทนินโดยเฉพาะไปใช้ใหม่ สารที่ยับยั้งการสังเคราะห์โปรตีน สายัณห์ สัญญา สารัช อยู่เย็น สารพันปัญหาวุ่นวาย ของยัยแวมไพร์ขี้จุ๊ สารกันเลือดเป็นลิ่ม สายัณห์ จันทรวิบูลย์แหล่งที่มา
WikiPedia: สารยับยั้งกำเนิดหลอดเลือด http://www.cancernetwork.com/prostate-cancer/conte... http://www.spandidos-publications.com/or/article.j... http://www.cancer.gov/cancertopics/factsheet/Thera... http://www.fda.gov/newsevents/newsroom/pressannoun... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2361714 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2756980 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2781774 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2842052 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3206167 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/10625665