ความเป็นมาของสิงโตกลอกตา ของ สิงโตกลอกตา

LM Aubert Du Petit-Thouars

สิงโตกลอกตามีประวัติการศึกษามายาวนานกว่า 200 ปี เริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา สิงโตกลอกตาเป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่มีมากกว่า 2000 ชนิด ส่วนมากจะมีการกระจายพันธุ์กว้างมากในเขตร้อน ซึ่งเป็นเขตที่ยากลำบากต่อการเข้าสำรวจและทำการศึกษา นอกจากนี้กระบวนการศึกษาทางพฤกษศาสตร์ยังเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน มีขั้นตอนต่างๆในการพิสูจน์มากมายเพื่อระบุว่านั่นคือกล้วยไม้สิงโตกลอกตาชนิดใด และมีลักษณะเช่นไร ชนิดไหนได้รับการตั้งชื่อแล้วชื่อไหนเป็นการตั้งชื่อซ้ำซ้อนกัน ไปจนถึงการตั้งชนิดใหม่ ในปัจจุบันมีการศึกษากล้วยไม้สกุลสิงโตกลอกตายังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เรารู้จักกล้วยไม้สกุลนี้ อย่างเป็นทางการเมื่อLouis-Marie Aubert du Petit-Thouarsนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ตีพิมพ์ ผลงานของเขาใน Histoire particulire des plantes orchides recueillies dans les troisles australes de France, de Bourbon et de Madagascar เมื่อปี1822 โดยเขาได้ตั้งชื่อ Genus กล้วยไม้นี้โดยเป็นภาษาละติน ว่า Bulbophyllum ซึ่งแปลความได้ว่า หัวและใบ (referring to the pseudobulbs on top of which the leaf is growing ) และในวารสารนี้ได้บรรยายถึง Bulbophyllum ไว้จำนวน 17 species ด้วยกัน ในกาลต่อมาเราได้ค้นพบ Bulbophyllum(Bulb.) เพิ่มขึ้นอีกมากมาย นักพฤกษศาสตร์ประมาณการณ์กันว่า เราน่าจะมีกล้วยไม้ ในสกุลนี้มากกว่า 1,200 species ซึ่งเท่ากับว่ามันเป็นสกุลกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้เรา ยังสามารถพบ Bulbophyllum ในเกือบทุกภูมิภาคของโลก เว้นแต่ส่วนที่เป็นน้ำแข็งเท่านั้น[2]