เมนูนำทาง
สิงโตกลอกตา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์สิงโตกลอกตาเป็นกล้วยไม้ที่มีการเติบโตแบบ Sympodial เช่นเดียวกับ กล้วยไม้สกุลหวาย สกุลคัทลียา มีเหง้าและลำลูกกล้วย ซึ่งต่างกันแล้วแต่ชนิด มีทั้งชนิดที่มีลำลูกกล้วยขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ บางชนิดลำลูกกล้วยตั้งตรง บางชนิดนอนราบไปกับเหง้า มีใบที่ปลายลำลูกกล้วยหนึ่งหรือสองใบแล้วแต่ชนิด มีตั้งแต่ใบเล็กมากจนถึงใบค่อนข้างใหญ่ ดอกมีทั้งดอกเดี่ยวและดอกช่อ ก้านช่อดอกเกิดที่ฐานของลำลูกกล้วย บางชนิดเกิดที่ข้อของเหง้า ดอกมีตั้งแต่ขนาดเล็กมากจนถึงค่อนข้างใหญ่ ลักษณะดอกและสีสันสวยงามแตกต่างกันแล้วแต่ชนิด[4]
คือลำต้นที่แท้จริงของสิงโตกลอกตา ปรากฏข้อและปล้องเด่นชัด ทอดเลิ้อยไปตามกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่หรือก้อนหิน ผลิรากเพื่อดูดซับอาหารและยึดเกาะบนสิ่งที่อาศัย เหง้ามีจุดเจริญที่ปลายยอด(apical meristem) จะทำหน้าที่สร้างหน่อใหม่เมื่อถึงฤดูที่เหมาะสม สามารถเจริญเป็นหน่อใหม่ได้มากว่า 1 หน่อพร้อมๆกันขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นและสภาพภูมิอากาศในแต่ละปี เหง้ายังเป็นส่วนที่ช่วยสร้างลำลูกกล้วย ซึ่งมีระยะห่างแต่ละละแตกต่างกันไป บางชนิดมีเหง้าทอดยาวจนเห็นลำลูกกล้วยยาวต่อกันคล้ายโซ่ บางชนิดเหง้าสั้นๆและมีลำลูกกล้วยขึ้นติดกันเป็นกอ
เป็นส่วนที่พองออกมาขึ้นอยู่ระหว่างเหง้ากับใบ มีหลายขนาดมีหน้าที่เก็บน้ำและสร้างอาหาร ลำลูกกล้วยมีอายุได้หลายฤดูกาลแตกต่างกันไปตามชนิด แต่เมื่อผ่านไปหลายปีจะเริ่มเหี่ยวแห้งในที่สุดบางชนิดนั้นอาจมีอายุมากกว่า 10 ปีก่อนที่จะแห้งเหี่ยว
สิงโตกลอกตาทุกชนิดผลิใบที่ปลายสุดของลำลูกกล้วย บางชนิดลำลูกกล้วยลดรูปผลิใบที่ปลายลำเป็นปมเล็กๆ เช่น สิงโตมรกต(B. xylophyllum) และมีเพียงไม่กี่ชนิดที่ใบปรากฏอยู่บนเหง้า คือ สิงโตแคะภูหลวง จำนวนใบ มีใบเพียง 1 หรือ 2 ใบเท่านั้น ส่วนมากมีเพียงใบเดียว แผ่นใบอวบหนา แข็ง และมีอายุนานหลายฤดูกาลหลุดล่วง ลำลูกกล้วยเกือบทุกลำจึงเห็นใบอยู่ที่ปลายลำซึงพบเห็นได้มาก เช่น สิงโตสยาม สิงโตรวงข้าว สำหรับชนิดที่มีสองใบมีเพียง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสิงโตใบพายและกุ่มสิงโตขนตา (Section Pleiophyllus) ซึงมีแผ่นใบบาง อ่อนนุ่ม และมีอายุเพียงฤดูเดียว โดยผลัดใบเมื่อข้าสู่ฤดูแล้ง ใบแก่ก่อนหลุดล่วงเป็นสีเหลืองหรือแดง จึงไม่พบใบที่ปลายลำใบ เช่น สิงโตเชียงดาว ( B. albibracteum ) สิงโตก้านหลอด ( B. capillipes ) เป็นต้น รูปทรงใบ ส่วนมากเป็นกลุ่มใบรูปรี (elliptic series) ได้แก่ ใบรูปทรงกลม ( globose ) ใบรูปขอบขนาน (oblong) ใบรูปแถบ ( linear) และมีเพียงส่วนน้อยที่เป็นกลุ่มใบรูปไข่(ovate series) และรูปไข่กลับ(obovate) สีสัน จะขึ้นอยู่กับถิ่นอาศัย สิงโตกลอกตาที่อาศัยอยู่ในที่โล่งแจ้งมีแดดจัดจะมีใบสีเหลือง หรือสีเหลืองอมน้ำตาลหรือบางครั้งอาจมีสีม่วงแดง ส่วนชนิดที่อาศัยอยู่ในที่ร่มจะมีใบสีเขียวสด
ออกที่โคนลำลูกกล้วย หนึ่งลำมีทั้งดอกเดี่ยวและหลายๆดอกในช่อเดียวกัน มีทั้งช่อดอกสั้นและยาว ในประเทศไทยช่อดอกที่มี 4-8 ช่อ พบได้เพียงชนิดเดียวคือ สิงโตทองผาภูมิ ลักษณะของช่อดอกนั้นมีหลายแบบดังนี้
มีส่วนประกอบเหมือนกับกล้วยไม้ชนิดอื่น คือมีกลีบเลี้ยง กลีบดอก กลีบปาก และเส้าเกสร แต่เนื่องจากเป็นกล้วยไม้สกุลใหญ่จึงมีรูปทรงของดอกที่หลากหลายและแปลกตากว่ากล้วยไม้สกุลอื่นที่พบในไทย
คือส่วนที่เป็นรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ( Inferior ovary) ถัดจากส่วนที่เป็นก้านดอก ในขณะดอกตูมหรือเริ่มบาน ส่วนของรังไข่จะมองเห็นได้ยากและไม่สามารถแยกออกได้ชัดเจนแต่หลังจากที่ดอกได้รับการผสมเกสรแล้ว ส่วนที่เป็นรังไข่จะพัฒนาและโตขึ้นเป็นฝักที่เห็นได้ชัดเจน ขนาดของฝักจะแตกต่างกันตามขนาดของดอก [5]
เมนูนำทาง
สิงโตกลอกตา ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ใกล้เคียง
สิงโต สิงโต นำโชค สิงโตกลอกตา สิงโตในมุทราศาสตร์ สิงโตอินเดีย สิงโตบาร์บารี สิงโตทะเล สิงโตแหลมกู๊ดโฮป สิงโตขาว สิงโตมาไซแหล่งที่มา
WikiPedia: สิงโตกลอกตา http://orchidok.blogspot.com/p/bulbophyllum-orchid... http://www.cafeorchids.com/webboards/971929/%E0%B8... http://orchid1234.comyr.com/14_(Bulbophyllum).htm http://nichaorchid.com/webboard/index.php?topic=26... http://www.panmai.com/Orchid/Bulb/bulb.shtml http://www.orchidphotos.org/images/orchids/species... http://student.nu.ac.th/samunprithai/thailandorchi... http://dnfe5.nfe.go.th/ilp/occupation/45205/45205-...