การศึกษาทางคลินิก ของ สแตติน

จากข้อมูลการศึกษาทางคลินิกหลายการศึกษาที่มีในปัจจุบันให้ผลสนับสนุนข้อเท็จจริงที่ว่าการใช้ยากลุ่มสแตตินมีผลลดอุบัติการณ์การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าวสูง ซึ่งรวมไปถึงการลดอัตราการเสียชีวิตจากการเกิดความผิดปกติดังกล่าวด้วย การศึกษาที่สำคัญที่ให้ข้อมูลยืนยันถึงประสิทธิภาพของสแตตินในการเป็นยาป้องกันปฐมภูมิ (primary prevention) ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่ การศึกษา WOSCOPS, AFCAPS / TEXCAPS, HPS และ JUPITER ส่วนการศึกษาที่ให้ข้อมูลยืนยันถึงประสิทธิภาพของสแตตินในการเป็นยาป้องกันทุติยภูมิ (secondary prevention) ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่ การศึกษา 4S, LIPID และ CARE และการศึกษาที่ให้ผลสนับสนุนถึงประสิทธิภาพของการใช้สแตตินร่วมกับยาลดไขมันในกระแสเลือดชนิดอื่น ได้แก่ การศึกษา ACCORD study และ LIPID SHARP ซึ่งรายละเอียดของแต่ละการศึกษาดังแสดงในตารางต่อไปนี้[41][42][43][44][45][46][47][48][49]

ชื่อย่อ
การศึกษา
ชื่อ
การศึกษา
ระยะเวลา
ศึกษา
ยาที่ใช้
ในการศึกษา
กลุ่มตัวอย่างวารสาร
ที่ตีพิมพ์
จำนวน
กลุ่มตัวอย่าง
ผลการศึกษา
4SScandinavian
Simvastatin
Survival Study
5 ปีซิมวาสแตติน
  • ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ผู้ป่วยที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
Lancet[41]4444
  • อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) ลดลง 30%
  • อัตราการเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial infarction) ลดลง 42%
LIPIDLong term
Intervention
with Pravastatin
in Ischemic Disease
6 ปีปราวาสแตติน
  • ผู้ป่วย unstable angina
  • ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial infarction)
NEJM[42]9014
  • อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) ลดลง 22%
  • อัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ (coronary heart disease) ลดลง 24%
  • จำนวนผู้ป่วยที่ต้องได้รับการใส่อุปกรณ์ขยายหลอดเลือดหัวใจลดลง 20%
  • จำนวนการเกิดอาการของโรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular events) ลดลง 29%
  • จำนวนการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (stroke) ลดลง19%
CARECholesterol
And Recurrent
Events
5 ปีปราวาสแตติน
  • ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (myocardial infarction)
NEJM[43]4159
  • จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดลดลง 23%
  • จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ, กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดลดลง หรือผู้ที่ต้องได้รับการใส่อุปกรณ์ขยายหลอดเลือดหัวใจลดลง 24%
  • จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือโรคหลอดเลือดสมองลดลง 24%
WOSCOPSWest Of
Scotland
Coronary
Prevention
Study
5 ปีปราวาสแตติน
  • ระดับคอเลสเตอรอล ≥ 252 mg/dl
  • ไม่มีประวัติการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
NEJM[44]6595
  • อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) ลดลง 22%
  • จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลง 32%
  • จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 28%
  • จำนวนการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดลดลง 31%
TEXCAPSAir Force/Texas
Coronary
Atherosclerosis
Prevention
Study
5 ปีโลวาสแตติน
  • มีระดับไขมันในเลือดสูงผิดปกติ
  • ไม่เป็นโรคที่มีความสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดแข็ง
American Journal
of Cardiology[45]
6605
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 37%
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเป็นครั้งแรกลดลง 40%
  • จำนวนการเกิด unstable angina ลดลง 32%
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุการณ์ที่จะต้องได้รับการใส่อุปกรณ์ขยายหลอดเลือดลง 33%
HPSHeart Protection
Study of cholesterol
lowering with
simvastatin
5 ปีซิมวาสแตติน
  • มีระดับคอเลสเตอรอลผิดปกติ
  • มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจสูง
  • ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
Lancet[46]20,536
  • อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) ลดลง 13%
  • อัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 18%
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 24%
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดลดลง 37%
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองลดลง 25%
  • จำนวนผู้ที่ต้องได้รับการใส่อุปกรณ์ขยายหลอดเลือดหัวใจลดลง 24%
JUPITERJustification
for the Use of
Statins in Primary
Prevention:
An Intervention
Trial Evaluating
Rosuvastatin trial
2 ปีโรสุวาสแตติน
  • ระดับ LDL < 130 mg/dl
  • ไม่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • hsCRP > 2 mg/dl
NEJM[47]17,802
  • อัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ (all-cause mortality) ลดลง 20%
  • ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง, หรือเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 50%
ACCORD LIPIDAction to
Control Cardiovascular
Risk in Diabetes
Lipid Trial
5 ปีซิมวาสแตติน
ฟีโนไฟเบรต
  • ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
NEJM[48]5518
  • คามเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง หรือเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยที่มีระดับไตรกลีเซอรได์ในเลือดสูงกว่า 204 mg/dl หรือมีระดับ HDL น้อยกว่า < 34 mg/dl ลดลง 31%
SHARPStudy of
Heart and
Renal Protection
5 ปีซิมวาสแตติน
อีเซทิไมบ์
  • ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
Lancet[49]9270
  • การเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ, ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง, หรือความจำเป็นที่จะต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อขยายหลอดเลือดลดลง17%