กระแต (
อังกฤษ: Treeshrews, Banxrings
[1]) เป็น
อันดับของ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กอันดับหนึ่ง ใช้ชื่ออันดับว่า Scandentia กระแต มีลักษณะโดยรวมคล้ายกับ
กระรอก ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ใน
อันดับสัตว์ฟันแทะ (Rodentia) รวมทั้งมีพฤติกรรมความเป็นอยู่ที่คล้ายกัน หากแต่กระแตมีปากยื่นยาวกว่ากระรอก มีฟันเล็กหลายซี่ ไม่ได้เป็นฟันแทะ แบ่งออกเป็นฟันตัด 4 ซี่ ที่ขากรรไกรบน และ 6 ซี่ที่ขากรรไกรล่าง สามรถเขียนเป็นสูตรได้ว่า 2.1.3.3 3.1.3.3 {\displaystyle {\tfrac {2.1.3.3}{3.1.3.3}}}
[2] จึงไม่สามารถที่จะกัดแทะ
ผลไม้หรือไม้เปลือกแข็งอย่างกระรอกได้ และมี
นิ้วที่ขาคู่หน้า 5 นิ้ว ที่เจริญและใช้ในการหยิบจับได้ดี เหมือนเช่นสัตว์ใน
อันดับไพรเมต (Primate) หรืออันดับวานร กระแตมีขนปกลุมลำตัว
สีเขียวหรือ
สีน้ำตาลเหมือนกระรอก มีหางยาวประมาณ 12-19
เซนติเมตรกระแต นั้นหากินทั้งบนพื้นดิน โคน
ต้นไม้ และบนต้นไม้ กินได้ทั้ง
พืช และสัตว์เล็ก ๆ อย่าง
แมลง หรือ
หนอน เป็นอาหาร โดยมากจะหากินในเวลา
กลางคืน และอาศัยอยู่ตามลำพังเพียงตัวเดียว แต่บางครั้งก็พบอยู่ด้วยกัน 2-3 ตัว เป็นฝูงเล็ก ๆ ออกลูกครั้งละ 2-3 ตัว โดยที่ก็ตกเป็นอาหารของสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่กว่า เช่น
ชะมด หรือ
อีเห็น,
แมวป่า หรือนกล่าเหยื่อ อย่าง
เหยี่ยว หรือ
อินทรี ด้วย กระแต กระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปใน
ป่าทวีปเอเชียแถบ
เอเชียใต้และ
เอเชียอาคเนย์ มีทั้งหมด 19
ชนิด 5
สกุล แบ่งออกได้เป็น 2
วงศ์ (ดูในตาราง)
[3] พบในประเทศไทย 5 ชนิด คือ
กระแตเหนือ (Tupaia belangeri) และ
กระแตใต้ หรือกระแตธรรมดา (T. glis),
กระแตเล็ก (T. minor),
กระแตหางขนนก (Ptilocercus lowii) และ
กระแตหางหนู (Dendrogale murina)
[4]เดิม กระแตเคยถูกจัดรวมอยู่อันดับเดียวกับ
อันดับสัตว์กินแมลง (Insectivora) เช่น
หนูผี แต่ปัจจุบันได้ถูกแบ่งออกเป็นอันดับต่างหาก และกระแตถูก
สันนิษฐานว่ามีบรรพบุรุษร่วมกันกับอันดับไพรเมตด้วย ด้วยมีนิ้วที่เท้าหน้าคล้ายคลึงกัน โดย
วิวัฒนาการแยกออกจากกันใน
ยุคอีโอซีนตอนกลาง[5] [6]