คำศัพท์แพทย์
ภาษาอังกฤษว่า
flatulence (
อาการท้องอืด[1][2])ใช้ในวรรณกรรมแพทย์โดยมีความหมายว่า "
ลมใน
กระเพาะอาหารและ
ลำไส้ที่ขับออกผ่าน
ทวารหนัก" หรือ "ลักษณะหรือภาวะที่มีลมในกระเพาะอาหารหรือลำไส้"
[3]โดยคำว่า
flatulent ก็ "กำหนดโดยหรือมีผลเป็น
แก๊สที่เกิดในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร ซึ่งน่าจะทำให้ท้องอืดเนื่องจากการย่อยอาหาร"
[4]รากศัพท์ภาษาอังกฤษมาจากคำ
ละตินว่า
flatus ซึ่งแปลตามศัทพ์ว่า "ลมพัด ลมผาย"
[5]และ
ราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายว่า "๑. ลมเรอ ๒. ลมผาย"
[6]อนึ่ง คำว่า flatus ก็เป็นศัพท์แพทย์โดยหมายถึงแก๊สที่เกิดในกระเพาะหรือลำไส้ด้วย
[7]อย่างไรก็ดี แม้คำจะมีความหมายเช่นนี้ แต่แก๊สในกระเพาะลำไส้โดยส่วนหนึ่งก็เป็น
อากาศภายนอกที่กลืนเข้าไป และดังนั้น ลม/แก๊สเช่นนี้จึงไม่ได้เกิดเพียงในกระเพาะลำไส้เท่านั้นการศึกษาทาง
วิทยาศาสตร์เนื่องกับการแพทย์ในเรื่องนี้เรียกว่า
flatology[8]การผายลมในกระเพาะและลำไส้ออกทางทวารหนักเป็นเรื่องปกติ แม้จะมีปริมาณและบ่อยครั้งต่างกันมากในระหว่างบุคคลต่าง ๆ และลมที่ผายก็จะเหม็นอย่างเป็นกลิ่นเฉพาะโดยเป็นปกติด้วยเหมือนกัน แม้จะเหม็นน้อยมากไม่เท่ากันลมจะดำเนินไปสู่ทางทวารหนักโดยอาศัยการบีบตัวอย่างพิเศษของกล้ามเนื้อลำไส้ส่วนเสียงตดมีเหตุจากการสั่นของกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนักด้านใน และบางครั้งเกิดจากแก้มก้นที่ปิดอยู่ทั้งเสียงและกลิ่นเนื่องจากการผายลมอาจเป็นเรื่องน่าอายหรือเรื่องตลกใน
วัฒนธรรมต่าง ๆมีอาการ 4 อย่างหลัก ๆ เนื่องกับแก๊สในลำไส้ คือ เจ็บปวด/ท้องอืด/ท้องพอง ลมในกระเพาะลำไส้มากเกิน ตดเหม็นมาก และกลั้นตดไม่ได้อนึ่ง การเรอก็รวมอยู่ด้วยในเรื่องนี้
[9]คือปกติมนุษย์ขับแก๊สส่วนเกินออกจากร่างกายได้ 2 ทาง คือ การขับออกทางปาก (เรอ) และการขับออกทาง
ทวารหนัก (ผายลม หรือตด) หากแก๊สนั้นไม่ขับออกมาจะทำให้สะสมไว้ใน
ทางเดินอาหาร แล้วทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ปวดมวนในท้อง และเกิดอาการท้องอืดตามมา