อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน (Alexander Hamilton) เกิดในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 1755 และเสียชีวิตในวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1804 เป็น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลหนึ่งใน
คณะผู้ก่อตั้งของประเทศสหรัฐ (The Founding Fathers)
นักเศรษฐศาสตร์ นักปรัชญาการเมือง เขาเป็นคนเรียกให้มีการประชุมที่เมืองฟิลาเดลเฟีย (the Philadelphia Convention) อันเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งประเทศใหม่ เป็นนักกฎหมายรัฐธรรมนูญคนแรก เป็นคนเขียน
เอกสารของพวกอเมริกันนิยม (Federalist Papers) และเป็นผู้ตีความเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญที่สำคัญ (Constitutional interpretation) แฮมิลตันเสียชีวิตเนื่องจากการดวลปืนกับ อะรอน เบอร์ (Aaron Burr) ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 1804อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน เกิดที่เมือง Nevis และได้รับการศึกษาในเขตที่เรียกว่า “
นิวอิงแลนด์” ซึ่งเป็นเขตตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐในปัจจุบัน เป็นเขตที่ชาวอังกฤษมาก่อตั้งชุมชน
อาณานิคมใหม่ขึ้นในทวีปอเมริกาเขาเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครร่วมรบในสงคราม
การปฏิวัติอเมริกา ที่ชาวอาณานิคมได้ยืนหยัดขบถไม่ยอมอยู่ในอำนาจการปกครองของอังกฤษอีกต่อไป โดยแฮมิลตันสมัครเป็นทหารพราน (Militia) และได้เติบโตในวงการทหาร ได้รับเลือกให้เป็นนายพันกองทหารปืนใหญ่ และได้เป็นนายทหารอาวุโสช่วยงาน (aide-de-camp) ของนายพล
จอร์จ วอชิงตัน ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ในการสู้รบในสงครามปฏิวัติ เป็นผู้นำกองทหารในการสู้รบใหญ่ 3 ครั้ง ในการเข้ายึดเมือง Yorktown และเมื่อสงครามได้ยุติลง เขาได้กลับเข้ามาทำงานด้านนิติบัญญัติให้กับ
รัฐนิวยอร์ก และเป็นชาวนิวยอร์กคนเดียวที่ลงนามในการประชุมใหญ่ที่เมือง
ฟิลาเดลเฟียเมื่อนายพลจอร์จ วอชิงตันได้รับเลือกเป็น
ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ เขาได้รับบทบาทเป็น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีบทบาทอย่างสูงในคณะรัฐมนตรีของวอชิงตันในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของวอชิงตัน เขาได้ผลักดันให้เกิดนโยบายภาครัฐของรัฐบาลกลางใหม่ๆ โดยเขายกย่องระบบการเมืองของประเทศอังกฤษ แฮมิลตันเน้นการมีรัฐบาลกลางที่เข้มแข็ง และนั่นหมายถึงต้องมีอำนาจทางการทหาร แต่ยังอยู่ภายใต้รัฐสภา (U.S. Congress) เขาต้องการให้มีระบบดูแลหนี้ของรัฐบาลกลาง โดยให้รัฐแต่ละรัฐ ต้องมีบทบาทหน้าที่และรับผิดชอบด้านการจัดเก็บภาษีและจัดส่งสู่ส่วนกลางจำนวนหนึ่ง เขาสร้างระบบธนาคารกลาง และการกำหนดภาษีขาเข้าและภาษีเหล้าในราวปี ค.ศ.1792 แนวร่วมแฮมิลตัน และกลุ่มของเจฟเฟอร์สัน-เมดิสัน ได้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแนวนโยบาย แฮมิลตันเน้นความเข้มแข็งของรัฐบาลกลาง (Federalist Party) และฝ่าย เจฟเฟอร์สัน-เมดิสัน เป็นพรรคเน้นสาธารณรัฐประชาธิปไตย (Democratic-Republican Party) ที่ไม่ต้องการขยายบทบาทของรัฐบาลกลาง และให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยในแบบที่ไม่มีกษัตริย์ในช่วงการเลือกประธานาธิบดีคนที่สอง หลังจากยุควอชิงตัน เขาเลือกบุคคลที่เป็นคู่แข่งในพรรค Federalist คือ
จอห์น แอดัมส์ ทำให้กลุ่ม Federalist มีฐานสนับสนุนเหนือกลุ่มของ
โธมัส เจฟเฟอร์สัน ซึ่งทำให้ฝ่ายเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับรัฐบาลกลางได้มีอำนาจในการบริหารประเทศต่อมา และเมื่อต้องมีการเลือกประธานาธิบดีสมัยต่อมาในปี ค.ศ. 1800 ผู้รับการเสนอชื่อสำคัญ 2 คนมีคะแนนเท่ากัน คือ เจฟเฟอร์สัน และ อารอน เบอร์ แม้ฝ่าย Federalist ของเขาได้พ่ายแพ้ไปแล้ว แต่เขาก็ใช้อิทธพลหันมาหนุนให้กับเจฟเฟอร์สัน จึงทำให้เจฟเฟอร์สัน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี และ อารอน เบอร์ ทีมีคะแนนรองลงมาได้เป็นรองประธานาธิบดี โดยเห็นว่าระหว่างผู้รับการเลือกตั้งสองคนนี้เจฟเฟอร์สันเป็นคนที่ดีกว่า หรือจะว่าเลวหรือเป็นอันตรายต่อกลุ่มของเขาน้อยกว่าในช่วงปี ค.ศ 1801 เมื่อเขาหมดบทบาทใน
รัฐบาลกลาง แฮมิลตันได้หันมาก่อตั้งหนังสือพิมพ์เป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่ม Federalist ที่มีชื่อว่า New-York Evening Post. ในช่วงดังกล่าว ได้มีการกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้งระหว่างเขาและรองประธานาธิบดี อารอน เบอร์ จนในที่สุดมีการท้าดวลปืนกัน ซึ่งเป็นผลให้เขาได้รับบาดเจ็บหนักและเสียชีวิตในวันต่อมา หลังจากสงครามในปี ค.ศ. 1812 กับประเทศอังกฤษ ฝ่ายที่เป็นปฏิบักษ์ของเขาในยุคต่อมา ก็หันมาใช้นโยบายของเขา คือสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบรัฐบาลกลาง คนเหล่านี้ได้แก่ เมดิสัน และ อัลเบิร์ต กัลแลติน มีการจัดทำโปรแกรมของรัฐบาลกลางขึ้น อันได้แก่ การให้มีธนาคารแห่งชาติ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง การมีระบบภาษี การมีกองทัพบก กองทัพเรือที่ดำเนินการโดยรัฐบาลกลาง และแนวนโยบายที่เขาเสนอก็ยังมีบทบาทต่อมาจนถึงรัฐบาลสหรัฐในยุคปัจจุบัน