การอนุมัติ ของ โทซินาเมแรน

เป็นการเร่งด่วน

ในวันที่ 2 ธันวาคม 2020 สำนักงานควบคุมผลิตภัณฑ์การแพทย์และดูแลสุขภาพ (Medicines and Healthcare products Regulatory Agency, MHRA) แห่งสหราชอาณาจักรได้ให้อนุมัติวัคซีนอย่างชั่วคราวโดยทำอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญเช่นโรคระบาดทั่วตามอำนาจกฎหมายที่ให้ในปี 1968[13]เป็นประเทศแรกที่อนุมัติวัคซีนนี้ และประเทศตะวันตกแรกที่ให้อนุมัติเป็นการฉุกเฉินแก่วัคซีนโควิด[13][60][61]เป็นวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอแรกที่อนุมัติให้ใช้ในมนุษย์[60]แม้การตัดสินใจให้อนุมัติที่เร็วแบบนี้ก็ถูกวิจารณ์โดยผู้เชี่ยวชาญบางท่าน[62]

บุคคลแรกที่ได้รับวัคซีนในวันที่ 8 ธันวาคม 2020 เป็นหญิงวัย 90 ปี[63]จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม ผู้อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักร 521,594 รายได้รับวัคซีนโดยเป็นส่วนของโปรแกรมให้วัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศโดยร้อยละ 70 มีอายุ 80 ปีหรือยิ่งกว่า[29]

ในเดือนธันวาคมต่อมา ประเทศต่าง ๆ ต่อไปนี้ได้เร่งอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทครวมทั้ง บาห์เรน[64]แคนาดา[5][65]ชิลี[66]คอสตาริกา[67]เอกวาดอร์[66]อิรัก[68]อิสราเอล[69]จอร์แดน[70]คูเวต[71]เม็กซิโก[72]โอมาน[73]ปานามา[74]กาตาร์[75]ซาอุดีอาระเบีย[28][76]สิงคโปร์[77]สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[78]สหรัฐ[8]และสหรัฐ[8]

องค์การอนามัยโลกก็ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนนี้เป็นการฉุกเฉินเมื่อปลายเดือนธันวาคมแล้ว[79]

องค์การอาหารและยาสหรัฐระบุว่า การอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน (emergency use authorization, EUA) เป็น "กลไกที่อำนวยการทำให้มีและการใช้วิธีแก้ปัญหาทางแพทย์รวมทั้งวัคซีน ในช่วงความฉุกเฉินทางสาธารณสุข เช่น การระบาดทั่วของโควิด-19 ในปัจจุบัน"[80]เมื่ออนุมัติให้ใช้วัคซีนเป็นการฉุกเฉินแล้ว ผู้พัฒนาวัคซีนก็ยังต้องดำเนินการทดลองระยะที่ 3 ต่อไปเพื่อบูรณาการข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิศักย์ของวัคซีน โดยในที่สุดก็จะยื่นคำขออนุมัติแบบเต็ม[80][81][82]ในวันที่ 14 ธันวาคม คณะที่ปรึกษาเรื่องแนวปฏิบัติสร้างภูมิคุ้มกันแห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (Centers for Disease Control and Prevention, CDC) ก็แนะนำให้อนุมัติใช้วัคซีนนี้สำหรับคนที่อายุ 16 ปีหรือยิ่งกว่า[83][84]

ให้ใช้ทั่วไป

วันที่ 19 ธันวาคม สำนักงานควบคุมผลิตภัณฑ์การรักษา (Swissmedic) แห่งสวิตเซอร์แลนด์ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนนี้อย่างเต็มตัว โดยทำภายในสองเดือนที่ได้รับคำขอ และระบุว่า วัคซีนผ่านเกณฑ์ความปลอดภัย ประสิทธิศักย์ และคุณภาพอย่างสมบูรณ์นี่เป็นการอนุมัติตามกระบวนการปกติ เพราะสวิตเซอร์แลนด์ไม่มีการอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน[1][85]วันที่ 23 ธันวาคม บุคคลแรกที่ได้รับวัคซีนในประเทศเป็นหญิงอายุ 90 ปี[86]เป็นปฐมฤกษ์ของการให้วัคซีนเป็นจำนวนมากในยุโรปแผ่นดินใหญ่[87]

วันที่ 21 ธันวาคม คณะกรรมการเวชภัณฑ์สำหรับใช้ในมนุษย์ (Committee for Medicinal Products for Human Use) ของสำนักงานการแพทย์ยุโรป (EMA) แนะนำการให้อนุมัติวัคซีนนี้เพื่อวางตลาดอย่างมีเงื่อนไขโดยมีตราสินค้าว่า Comirnaty[2][88][89]ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปก็ตกลงยอมรับในวันเดียวกัน[88][90]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โทซินาเมแรน http://www.fosunpharma.com/en/news/news-details-38... http://www.globenewswire.com/news-release/2020/12/... http://www.pfizer.com/news/press-release/press-rel... http://www.ema.europa.eu/ema/index.jsp?curl=/pages... http://www.clinicaltrials.gov/ //pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/summary/summary.cgi?sid... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28807998 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30638957 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32109011 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32273591