โทซินาเมแรน
โทซินาเมแรน

โทซินาเมแรน

บทความนี้ใช้ระบบคริสต์ศักราช เพราะอ้างอิงคริสต์ศักราชและคริสต์ศตวรรษ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งโทซินาเมแรน (อังกฤษ: Tozinameran เป็นชื่อระหว่างประเทศที่ไม่มีเจ้าของ คือ INN, อังกฤษ: Pfizer-BioNTech COVID-19 vaccine)[12]หรือมีชื่อรหัสว่า BNT162b2 หรือบางทีเรียกอย่างสามัญว่า "วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค" และมีตราสินค้าว่า Comirnaty เป็นวัคซีนโควิด-19 ที่บริษัทไบโอเอ็นเทคร่วมมือกับไฟเซอร์พัฒนาขึ้นเป็นวัคซีนโควิด-19 แรกที่ได้อนุมัติจากองค์การควบคุมของรัฐที่เข้มงวดทั้งเพื่อใช้เป็นการฉุกเฉิน[13][14]และเพื่อใช้โดยทั่วไป[11]วัคซีนใช้ฉีดเข้าในกล้ามเนื้อเป็นวัคซีนอาร์เอ็นเอที่ประกอบด้วยเอ็มอาร์เอ็นเอที่ดัดแปลงนิวคลีโอไซด์ (Nucleoside-modified messenger RNA หรือ modRNA) ให้เข้ารหัสโปรตีน spike ที่กลายพันธุ์ (mutated) ของไวรัสโควิด-19 (SARS-CoV-2) แล้วหุ้มด้วยอนุภาคนาโนที่เป็นลิพิด (lipid nanoparticle)[15][16]วัคซีนจะให้สองครั้งโดยห่างกัน 3 สัปดาห์[17][18][19]สมรรถภาพการป้องกันการเป็นโรคอย่างรุนแรงในเด็ก หญิงมีครรภ์ และผู้มีภูมิคุ้มกันเสียหายยังไม่ชัดเจน ระยะเวลาที่ป้องกันโรคได้ก็ยังไม่ชัดเจนด้วย[19][20][21]การทดลองทางคลินิกได้เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน 2020โดยเมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน 2020 วัคซีนก็ได้ทดสอบกับคน 40,000 คนแล้ว[22]การวิเคราะห์ผลการทดลองในระหว่าง (interim analysis) แสดงว่า วัคซีนมีประสิทธิศักย์ (efficacy) เกินร้อยละ 90 เพื่อป้องกันโรคภายใน 7 วันหลังได้โดสที่สอง[18][19]ผลข้างเคียงสามัญที่สุดก็คือเจ็บปวดเล็กน้อยจนถึงปานกลางที่จุดฉีด ล้า และปวดศีรษะ[23][24]จนถึงเดือนธันวาคม 2020 รายงานผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ปฏิกิริยาภูมิแพ้ ก็มีน้อยมาก[upper-alpha 1]และยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงระยะยาว[26]ในเดือนธันวาคม 2020 วัคซีนนี้กำลังประเมินเพื่ออนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน (emergency use authorization ตัวย่อ EUA) เป็นจำนวนมากโดยองค์กรควบคุมของรัฐต่าง ๆ ทั่วโลกที่ต้องอนุมัติเป็นการฉุกเฉินก็เพราะยังทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 อยู่ โดยผลปฐมภูมิต่าง ๆ ของวัคซีนจะเฝ้าสังเกตไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2021 และผลทุติยภูมิจนถึงเดือนมกราคม 2023[17]สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกที่อนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน[26]ประเทศอื่น ๆ ก็ทำเช่นกันในอาทิตย์ต่อ ๆ มา[4][27][28]จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม ประชาชนชาวอังกฤษเกินกว่าครึ่งล้านคนก็ได้รับวัคซีนแล้วโดยเป็นส่วนของโปรแกรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ[29]บริษัทไบโอเอ็นเทคเป็นผู้พัฒนาวัคซีนในเบื้องต้น แล้วต่อมาจึงร่วมมือกับบริษัทไฟเซอร์ในเรื่องการพัฒนา โลจิสติกส์ การลงทุน การทดลองทางคลินิก และการผลิตทั่วโลก[30] ยกเว้นประเทศจีนที่บริษัท Fosun Pharmaceutical ได้ซื้อใบอนุญาตผูกขาดในการผลิตและแจกจำหน่ายโดยเป็นส่วนของการลงทุนในบริษัทไบโอเอ็นเทค[31][32]ไบโอเอ็นเทคเองจะแจกจำหน่ายวัคซีนในเยอรมนีและตุรกี[33]ไฟเซอร์ระบุในเดือนพฤศจิกายน 2020 ว่า จะผลิตวัคซีนได้ 50 ล้านโดสทั่วโลกในปลายปี 2020 และอีก 1,300 ล้านโดสในปี 2021[19]โดยได้รับการสั่งซื้อล่วงหน้ามีมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 94,000 ล้านบาท) ให้ส่งวัคซีนไปยังสหรัฐ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา เปรู และเม็กซิโก[34]การแจกจำหน่ายและเก็บวัคซีนเป็นเรื่องท้าทายทางโลจิสติกส์เพราะวัคซีนต้องเก็บในอุณหภูมิระหว่าง -80 และ -60 องศาเซลเซียส[35]จนกระทั่ง 5 วันก่อนจะฉีด[34][35]

โทซินาเมแรน

PubChem SID
ช่องทางการรับยา ฉีดในกล้ามเนื้อ
เลขทะเบียน CAS
โรคที่เป็นข้อบ่งชี้ โควิด-19
มวลต่อโมล ~1388 kDa
สถานะตามกฏหมาย
  • CA: อนุมัติให้ใช้ชั่วคราว [4][5]
  • UK: อนุมัติให้ใช้อย่างมีข้อแม้และชั่วคราว [6][7]
  • US: ยังไม่อนุมัติให้ใช้ทั่วไป (อนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน - EUA )[8][9][10]
  • EU: แพทย์สั่งเท่านั้น [2]
  • CH: แพทย์สั่งเท่านั้น[1][11]
รหัส ATC
DrugBank
ชนิด เอ็มอาร์เอ็นเอ
ชื่ออื่น BNT162b2, Pfizer-BioNTech COVID-19 Vaccine
ข้อมูลทะเบียนยา
UNII
ชื่อทางการค้า Comirnaty[1][2]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โทซินาเมแรน http://www.fosunpharma.com/en/news/news-details-38... http://www.globenewswire.com/news-release/2020/12/... http://www.pfizer.com/news/press-release/press-rel... http://www.ema.europa.eu/ema/index.jsp?curl=/pages... http://www.clinicaltrials.gov/ //pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/summary/summary.cgi?sid... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28807998 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30638957 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32109011 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32273591