เทคโนโลยีที่ใช้ในวัคซีนเป็นเอ็มอาร์เอ็นเอที่ดัดแปลงนิวคลีโอไซด์ (modRNA) ซึ่งเข้ารหัสโปรตีน spike ซึ่งพบที่ผิวของไวรัสโควิด-19 เพื่อกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันตอบสนองเมื่อประสบกับโปรตีนของไวรัส[48]

วัคซีนแคนดิเดต BNT162b2 ได้เลือกมาจากบรรดาวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีคล้าย ๆ กันของบริษัท[17][48][45]ก่อนจะเลือก ไบโอเอ็นเทคและไฟเซอร์ได้ทำการทดลองระยะที่ 1 ในเยอรมนีและสหรัฐ และบริษัท Fosun ก็ได้ทำในจีน[16][49]แล้วพบว่า วัคซีนนี้ปลอดภัยกว่าวัคซีนแคนดิเดต 3 อย่างอื่น ๆ ของบริษัท[49]

ลำดับยีน

โทซินาเมแรนมีลำดับ modRNA เป็นนิวคลีโอไทด์ยาว 4,284 ตัวโดยมีมวลโมเลกุลที่ประมาณ 1,388 kDa (กิโลดอลตัน)[50][51]ลำดับไม่มี uridine residues เพราะได้แทนที่ด้วย 1-methyl-3′-pseudouridine[51]ลำดับประกอบด้วย

• 5′ cap[upper-alpha 2] หนึ่งส่วน
• 5′ untranslated region[upper-alpha 3] หนึ่งส่วนที่เป็นลำดับยีนอนุพัทธ์ของยีน "Hemoglobin, alpha 1" ในมนุษย์
• ลำดับยีนแบบย่อสุดที่เข้ารหัสลำดับยีนโปรตีน spike ของไวรัสโควิด-19 (เบส 55-3,879) รวมทั้ง signal peptide[upper-alpha 4] หนึ่งส่วนที่เบส 55-102 และมีการทดแทน proline สองตำแหน่ง (K986P และ V987P โดยกำหนดเป็น "2P") ซึ่งทำให้โปรตีนมีรูปร่างที่กระตุ้นสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์ (neutralizing antibodies)[15][56]
• three prime untranslated region[upper-alpha 5] หนึ่งส่วนที่เบส 3,880-4,174 ซึ่งรวมยีน AES และ mtRNR1 เพื่อเพิ่มการแสดงออกของโปรตีนและเพิ่มเสถียรภาพของเอ็มอาร์เอ็นเอ[57]
• poly (A) tail หนึ่งส่วนที่ประกอบด้วยเรซิดิวอะดีโนซีน 30 เรซิดิว, 10-nucleotide linker sequence และเรซิดิวอะดีโนซีนอื่นอีก 70 เรซิดิว อยู่ที่เบส 4,175-4,284[51]

ส่วนประกอบ

นอกเหนือจากโมเลกุลเอ็มอาร์เอ็นเอ วัคซีนมีส่วนประกอบ (ส่วนเติมเนื้อยา) ที่ไม่ออกฤทธิ์ดังนี้[58][3][6]

ส่วนประกอบ 4 อย่างแรกเป็นลิพิดซึ่งประกอบกับ modRNA แล้วกลายเป็นอนุภาคนาโน (nanoparticle)ส่วน ALC-0159 เป็น polyethylene glycol conjugate (คือลิพิดแบบ PEGylated)[59]

วัคซีนบรรจุในขวดที่ใช้ฉีดได้หลายโดสโดยมีสีขาวหรือออกขาว ๆ ปลอดเชื้อ ไร้สารกันบูด เป็นสารแขวนลอยแช่แข็ง เพื่อใช้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ[9][10]โดยต้องละลายจนถึงอุณหภูมิห้องแล้วทำให้เจือจางด้วยน้ำเกลือธรรมดาก่อนจะฉีด[10]