การตรวจสอบโหราศาสตร์ ของ โหราศาสตร์กับวิทยาศาสตร์

โหรมักจะหลีกเลี่ยงคำทำนายที่ตรวจสอบได้ คือจะกล่าวคำคลุมเครือที่หลีกเลี่ยงการพิสูจนว่าเป็นเท็จได้[17]:48-49ในหลายศตวรรษที่มีการทดสอบ การทำนายทางโหราศาสตร์ไม่เคยแม่นยำกว่าเรื่องบังเอิญ[2]วิธีการอย่างหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบโหราศาสตร์เชิงปริมาณก็คือผ่านการทดลองแบบอำพรางซึ่งเมื่อทดสอบคำทำนายที่เฉพาะเจาะจงของโหร เช่นโดยการทดสอบที่จะกล่าวต่อไป เรื่องที่ทำนายเหล่านั้นก็จะพิสูจน์ว่าไม่เป็นจริง[1]และการทดลองทางโหราศาสตร์ที่มีกลุ่มควบคุมทั้งหมดที่เคยทำ ล้วนแต่ล้มเหลวที่จะแสดงผลบวก[15]:24


การทดลองของคาร์ลสัน

ไฟล์:DrShawnWebLowRes-1.jpgชอน คาร์ลสัน เป็นนักฟิสิกส์ที่ใช้การทดลองแบบอำพรางสองฝ่าย (double-blind) เพื่อทดสอบโหราศาสตร์ ดังที่ตกลงกันโดยคณะโหรและคณะนักฟิสิกส์ เป็นการทดลองที่สรุปว่า โหรที่ทำนายโดยใช้แผนภูมิการเกิด ไม่ได้ทำนายได้ดีกว่าเรื่องบังเอิญ

การทดสอบของนักฟิสิกส์ ดร.ชอน คาร์ลสัน ที่เป็นการทดลองแบบอำพรางสองฝ่าย (double-blind) ที่โหร 28 คนตกลงที่จะจับคู่แผนภูมิการเกิด (natal chart) กับบทวิเคราะห์ลักษณะบุคลิกภาพทางจิตวิทยาที่ทำโดยการทดสอบแบบ California Psychological Inventory เป็นการทดสอบโหราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดการหนึ่ง[23][24]และผลงานทดลองได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์ที่มีความเชื่อถือสูงคือ เนเจอร์[10]:67การอำพรางทั้งสองด้าน เป็นการปิดไม่ให้ทั้งโหรและผู้ดำเนินการทดลองรู้ว่า แผนภูมิการเกิดและบทวิเคราะห์ทางจิตวิทยา เป็นของใครต่อของใคร เป็นวิธีกำจัดความเอนเอียงที่อาจจะเกิดได้ในการทดลอง[10]:67

ทั้งกลุ่มนักฟิสิกส์และกลุ่มโหรตกลงยอมรับกฏเกณฑ์การทดลองก่อนจะทำ[1]องค์กรโหราศาสตร์คือ คณะกรรมการงานวิจัยโลกและจักรวาลแห่งชาติ (National Council for Geocosmic Research) เป็นผู้เสนอโหรหลายคนให้เป็นผู้ให้คำแนะนำ และช่วยให้มั่นใจว่า การทดสอบยุติธรรม[24]:117[25]:420โหรเหล่านั้นยังเลือกโหรอื่น 26 คนเพื่อการทดสอบ โดยโหรอีก 2 คนที่เหลือเป็นอาสาสมัคร[25]:420โหรมาจากทั้งยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาโหรเป็นผู้ช่วยเลือกหลักโหราศาสตร์แบบ natal astrology (โหราศาสตร์การเกิด) เพื่อการทดสอบ[25]:419ผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร เนเจอร์ ในปี ค.ศ. 1985 พบว่า การทำนายโดยใช้หลักโหราศาสตร์อย่างที่ว่าไม่ได้ดีกว่าความบังเอิญ และการทดสอบ "พิสูจน์สมมติฐานทางโหราศาสตร์ว่าเป็นเท็จอย่างชัดเจน"[25]

งานของดีนและเค็ลลี่

แผนภูมิโหราศาสตร์คำนวณสำหรับวันที่ 1 มกราคม 2543 ณ เวลา 00:00:01 (EST) ในนครนิวยอร์ก (074W00'23", 40N42'51")

นักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นอดีตโหรเจ็ฟฟรี่ ดีน และนักจิตวิทยาไอแวน เค็ลลี่[26]ทำการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ ที่วัดตัวแปรทางประชาน ทางพฤติกรรม และทางสรีระ มากกว่า 100 ตัว แต่ไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่สนับสนุนโหราศาสตร์[27]มีการทดสอบต่อไปอีก กับโหรที่มั่นใจในหลักของตน 45 คน ผู้มีประสบการณ์เป็นโหรโดยเฉลี่ย 10 ปี และผู้รับทำนายอีก 160 คน (จากกลุ่มที่มีให้เลือก 1198 คน) โดยเลือกเอาแต่คนที่มีบุคคลิกลักษณะต่าง ๆ แบบสุด ๆ ดังที่วัดโดยใช้คำถามตรวจสอบบุคลิกภาพแบบ Eysenck Personality Questionnaire[27]:191โหรทำนายได้แย่กว่าวิธีการทำนายโดยใช้อายุ และแย่กว่าผู้ทำนายในกลุ่มควบคุม 45 คนที่ไม่ได้ใช้แผนภูมิการเกิดอย่างสิ้นเชิง[27]:191[28]

การทดสอบอื่น ๆ

มีงานวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) ที่วิเคราะห์งานศึกษา 40 งานประกอบด้วยโหร 700 คน และใช้แผนภูมิการเกิด 1,000 แผ่นงานศึกษา 10 งานจากนั้น มีโหรกว่า 300 คนเข้าร่วม โหรต้องเลือกบทความทำนายให้เข้ากับแผนภูมิ โดยบทความที่เข้าจะรวมอยู่กับที่ไม่เข้า 3-5 บทความเมื่อบทความไม่แสดงวันที่และตัวช่วยแบบชัดเจนอื่น ๆ โดยรวมแล้ว ไม่ปรากฏกว่าโหรต่าง ๆ จะเลือกแผนภูมิใดแผนภูมิหนึ่งโดยเฉพาะ คือโหรเลือกแผนภูมิที่ไม่เหมือนกัน[27]:190

ในงานศึกษา 10 งาน ที่โหรจะเลือกการทำนายราศีที่ตนรู้สึกว่าแม่น โดยมีการกำหนดแผ่นที่ "ถูก" แต่โหรก็ไม่สามารถเลือกให้ดีได้กว่าบังเอิญ[10]:66-67

ในงานศึกษาที่ตรวจดูคน 2011 คู่ที่เกิดภายในเวลา 5 นาทีเดียวกัน เพื่อจะดูว่ามีผลต่อวิถีชีวิตหรือไม่ ก็ไม่ปรากฏว่ามี[10]:67

นักสังคมศาสตร์เชิงปริมาณคนหนึ่งตรวจดูข้อมูลสำมะโนประชากรของคน 20 ล้านคนในประเทศอังกฤษและเวลส์ เพื่อจะดูว่า ราศีมีผลต่อการแต่งงานหรือไม่ ก็ไม่ปรากฏว่ามี[10]:67

ปรากฏการณ์ดาวอังคาร

ปรากฏการณ์ดาวอังคาร (Mars effect) ที่นายมิเชล โกเคลอน ค้นพบ แสดงความชุกชุมของการเกิดของนักกีฬาที่มีชื่อเสียง 570 คน เทียบกับตำแหน่งประจำวันของดาวอังคาร โดยมีจุดชุกชุมที่สุดที่ภาค 1 และ 4[29]

ในปี ค.ศ. 1955 นักโหราศาสตร์[30]และนักจิตวิทยา มิเชล โกเคลอน กล่าวว่า แม้ว่าตนจะไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนนิมิตทางโหราศาสตร์ต่าง ๆ เช่นราศี และมุมดาวในแผนภาพการผูกดวงโหราศาสตร์ แต่เขาก็ได้พบสหสัมพันธ์ระหว่างโคจรประจำวันของดาวเคราะห์ กับความสำเร็จในอาชีพ (เช่นแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักกีฬา นักแสดง นักเขียน จิตรกร เป็นต้น) ซึ่งโหราศาสตร์ปกติสัมพันธ์กับดาวเคราะห์[29]สิ่งค้นพบที่รู้จักดีที่สุดของเขาเป็นตำแหน่งของดาวอังคารในแผนภูมิการเกิด (natal chart) ของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องที่ต่อมารู้จักกันว่า ปรากฏการณ์ดาวอังคาร (Mars effect)[31]:213ต่อมามีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส 7 ราย พยายามทำซ้ำงานศึกษานี้ แต่ก็ไม่พบหลักฐานทางสถิติอะไรเลย[31]:213-214แล้วโทษผลที่พบว่าเป็นผลจากความเอนเอียงโดยการเลือก (selective bias) ของนายโกเคลอน และกล่าวหาเขาว่า พยายามที่จะชักชวนให้พวกเขาเพิ่มหรือลบนักกีฬาบางคนออกจากงานศึกษาของพวกเขา[32]

ส่วนอดีตโหรเจ็ฟฟรี่ ดีนเสนอว่า ผลที่พบอาจเกิดจากการแจ้งวันเกิดของผู้ปกครอง ไม่ใช่เป็นปัญหาในงานศึกษาคือผู้ปกครองส่วนน้อยจำนวนหนึ่งอาจจะเปลี่ยนเวลาแจ้งเกิด เพื่อให้มีแผนภูมิการเกิดทางโหราศาสตร์ที่ดีตรงกับอาชีพที่ต้องการเพราะว่า กลุ่มตัวอย่างมาจากสมัยที่ความเชื่อทางโหราศาสตร์เป็นเรื่องสามัญกว่าปัจจุบันและนายโกเคลอน ก็ไม่พบปรากฏการณ์ดาวอังคารในกลุ่มประชากรหลังจากนั้น ซึ่งเป็นสมัยที่แพทย์พยาบาลเป็นผู้บันทึกข้อมูลการเกิดนอกจากนั้น ยังปรากฏอีกด้วยว่า จำนวนการเกิดในช่วงเวลาทางโหราศาสตร์ที่ไม่เป็นมงคล ต่ำกว่าปกติ ซึ่งเป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่ชี้ว่า ผู้ปกครองเป็นผู้เลือกวันที่เวลาการเกิดตามความเชื่อของตน[24]:116

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: โหราศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ http://astrology-and-science.com/ http://www.badastronomy.com/bad/misc/astrology.htm... http://www.beliefnet.com/story/63/story_6346_1.htm... http://www.nature.com/nature/journal/v467/n7319/fu... http://scx.sagepub.com/content/early/2010/12/04/10... http://www.sciencedaily.com/releases/2010/12/10120... http://www.sixtysymbols.com/videos/declination.htm http://journal.telospress.com/content/1974/19/13.s... http://www.theguardian.com/science/the-lay-scienti... http://www.washingtonpost.com/wp-srv/aponline/2001...