ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ของ Nepenthes_rajah

คลิก [แสดง] ดูรายละเอียดทางพฤกษศาสตร์ของ Nepenthes rajah.

รายละเอียดทางพฤกษศาสตร์: ลำต้น: โดยทั่วไปทอดนอนหรือทอดชูยอด ไม่เลื้อยไต่ เนื้อหยาบ หนา 15–30 mm ยาว ≤6 m (ทั่วไป ≤3 m) มีสีเหลืองถึงเขียว เป็นปล้องรูปทรงกระบอก ≤20 cm ใบ: คล้ายแผ่นหนัง มีก้านใบสั้น มีสีเหลืองถึงเขียว ขอบเป็นคลื่น แผ่นใบรูปขอบขนานตามยาว ยาว 25–80 cm กว้าง 10–15 cm, ลักษณะกลมและมียอดแบบก้นปิด, ฐานกลม, สอบเรียวไปทางก้านไป สายดิ่ง/มือจับต่อออกจากใต้ใบห่างจากยอด 2–5 cm ก้านใบมีร่องเล็กตามยาว, มีปีก ยาว ≤15 cm lหนา ≤1 cm, ขยายที่โคน, กาบหุ้มรอบลำต้น 3/4 ของเส้นรอบวง มีเส้นใบ 3–4 เส้นตามยาว (อาจมีได้ถึง 5) แต่ละข้าง โดยแยกออกจากส่วนฐานของเส้นกลางใบ วิ่งขนานในส่วนนอกเกินครึ่งของแผ่นใบ, เส้นใบรูปขนนกวิ่งเอียงทแยงไปทางขอบใบ มีลักษณะขุระไม่เรียบเสมอในส่วนนอกของแผ่นใบ สายดิ่ง/มือจับยาวพอ ๆ กับใบ คือยาว ≤50 cm หนา 5–6 mm เมื่อใกล้แผ่นใบ, หนา 10–25 mm เมื่อใกล้กับหม้อ, โค้งลง, มีสีเหลืองถึงแดง, จะเข้มขึ้นเมื่อใกล้กับหม้อ หม้อ: รูปคนโทถึงทรงรีสั้น, สูง 20–40 cm กว้าง 11–18 cm, ภายนอกมีสีแดงถึงม่วง, ผิวภายในมีสีเขียวมะนาวถึงม่วง, มีปีกเป็นชายครุย 2 ปีกวิ่งจากฐานถึงปาก จะกว้างขึ้นและเป็นชายครุยมากขึ้นเมื่อใกล้ปาก กว้าง 6–25 mm เมื่ออยู่ใต้ปาก, ส่วนชายครุยยาว ≤7 mm แต่ละส่วนมีขนาด 2–4 mm มีต่อมที่ตลอดพื้นผิวภายในหม้อ ประมาณ 300–800 ต่อม/cm², ต่อมอยู่ในส่วนล่าง (ส่วนย่อยอาหาร) มีขนาดใหญ่ ส่วนบนสูงจากกึ่งกลางขึ้นไปเรียบลื่น ปากราบถึงเฉียง, ความยาวด้านหน้าของหม้อเป็น 1/2 ถึง 2/5 ของด้านหลัง, ปากยืดไปทางฝาหม้อไปในคอยาว 2.5–4 cm เพอริสโตม (ปาก) แผ่ออก กว้าง 10–15 mm ทางด้านหน้า กว้าง 20–50 mm ไปทางฝาหม้อ, คล้ายเปลืกหอยแครง, เพอริสโตมที่ยืดที่อยู่ภายในไปในแผ่นที่ตั้งฉากกว้าง 10–20 mm, สันแต่ละส่วนมีขนาด 0.5–1 mm ที่ส่วนใน, 1–2 mm ที่ส่วนขอบนอก, เป็นฟันแยก, ฟันของขอบในมี 2 - 4 อันตลอดความยาว ฝาเป็นรูปไข่ถึงรูปขอบขนาน, ส่วนปลายมล, ฐานเป็นรูปหัวใจ, ยาว 15–25 cm กว้าง 11–20 cm รูปโค้งมีสันวิ่งยาวตลอดฝาตรงกลาง เส้นสันมีขนาดครึ่งนึงของฐานล่าง สันสูง 5–10 mm จากฐาน กว้าง 3–8 mm, ไม่มีรยางค์ ผิวใต้ฝาปกคลุมไปด้วยต่อมบนสันตลอดความกว้างปาก ส่วนต่อมที่เหลืออื่น ๆ ก็จะลู่เข้าหา เดือยยาว ≤20 mm, ไม่มีกิ่ง, ขึ้นจากสันหลังของหม้อใกล้กับฝาหม้อ, หนาราว ๆ 2 mm ที่ฐาน, สอบเรียว ไม่ค่อยจะสร้างหม้อกลางและหม้อบน, รูปกรวย, เล็กกว่า, สีจืดกว่า; ปกติมีสีเหลือง, ปีกถูกลดขนาดกลายเป็นสัน ช่อดอกตัวผู้: ช่อกระจะยาว, ก้านดอกยาว 20–40 cm, หนาราว ๆ 10 mm ที่ฐาน, ราว ๆ 7 mm ที่ส่วนยอด, รูปทรงกระบอก, สีเหลืองเขียวถึงส้ม, แกนกลางยาว 30–80 cm, ทำมุมและเป็นร่อง, สอบเรียว ก้านดอกส่วนล่างยาว 20–25 mm, มี 2 ดอก, เอียงดอกหนึ่งสูงกว่าอีกดอกที่เอียงสั้นกว่า ไม่มีใบประดับ ดอกมีสีน้ำตาลอ่อนถึงเหลือง, ส่งกลิ่นหอมแรง กลีบรวมรูปรีถึงรูปขอบขนาน, ยาว ≤8 mm, มล, สีม่วงองุ่น เส้าเกสรแข็งยาว 3–4 mm, อับเรณูใน 1 ของ 1 1/2 เป็นวงรอบ ช่อดอกตัวเมีย: ทั่วไปคล้ายช่อดอกตัวผู้, แต่กลีบรวมลู่แคบ ผลมีก้านดอกย่อยสั้นยาว 10–20 mm, หนาพอ ๆ กัน, สอบเรียวเล็กน้อยทั้งหัวและท้าย, สีส้มน้ำตาล, ลิ้นกว้าง 2.5–4 mm เมล็ดรูปเส้นด้ายยาว 3–8 mm, นิวเคลียสมีรอยย่นเล็กน้อย สิ่งปกคลุม: ทุกส่วนถูกปกคลุมด้วยขนยาว, ร่วงง่าย, สีขาวหรือน้ำตาลเมื่อยังมีอายุน้อย, เมื่อโตเต็มที่จะเรียบเกลี้ยง ลำต้นมีขนกางยาวสีน้ำตาลเมือยังเล็ก, และเรียบเกลี้ยงหลังจากนั้น หม้อมีขนสีน้ำตาลกางยาวหนาแน่นเมื่อยังเด็ก, เมื่อหม้อโตขึ้นจะมีบาง ๆ หรือไม่มีเลย ช่อดอกปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลหนาแน่นเมื่อยังเล็ก, หลังจากนั้นจะมีเพียงบาง ๆ ในส่วนล่าง, สิ่งปกคลุมจะติดทนในส่วนบนก้านดอกและบนวงกลีบรวม, รังไข่มีขนแนบชิดหนาแน่น, ผลจะมีขนเล็กน้อยถึงไม่มีเลย อื่น ๆ : สีของตัวอย่างในพิพิธภัณฑ์พืชมีสีน้ำตาลเข้มมากบ้างน้อยบ้าง[11][14]

หม้อล่างและหม้อบนของต้นที่โตเต็มที่

Nepenthes rajah เป็นไม้เลื้อยเหมือนกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่นในสกุล ลำต้นทอดยาวไปบนดิน และจะยึดเกี่ยวเพื่อดึงตัวสูงขึ้น เมื่อเจอวัตถุที่สามารถค้ำจุนมันได้ ลำต้นหนา (≤30 มิลลิเมตร) ยาวประมาณ 3 เมตร และอาจยาวได้ถึง 6 เมตร[15] N. rajah ไม่สร้างไหลเหมือนหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่น แต่จะแตกกอแทน เมื่อมีอายุมากขึ้น

ใบ

ใบถูกสร้างขึ้นมาตลอดลำต้นด้วยระยะห่างที่เท่า ๆ กัน และยึดติดกับลำต้นไว้ด้วยก้านใบที่ยาวลู่ไปตามใบจรดสายดิ่ง ปลายสายดิ่งจะมีตุ่มนิ่ม ๆ เล็ก ๆ เมื่อถูกกระตุ้นทางสรีรวิทยาก็จะพัฒนาจนกลายเป็นกับดัก ด้วยเหตุนี้หม้อนั้นพัฒนามาจากใบไม่ใช่ดอกอย่างที่เข้าใจกัน แผ่นใบมีสีเขียวเหมือนกับใบไม้ทั่วไป

ลักษณะของโล่ (หลุม) บนใบของ N. rajah

ใบของ N. rajah มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เหมือนหนัง ขอบใบพริ้วเป็นคลื่น มีลักษณะคล้ายโล่ตรงบริเวณสายดิ่งเชื่อมต่อกับข้างใต้แผ่นใบ ก่อนที่จะถึงปลายใบ ลักษณะนี้พบใน N. rajah เด่นชัดกว่าหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่น และยังพบใน N. clipeata อีกด้วย อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ลักษณะเฉพาะที่พบใน 2 ชนิดนี้เท่านั้น ในหม้อข้าวหม้อแกงลิงหลาย ๆ ชนิดที่โตเต็มที่ก็จะแสดงลักษณะนี้ออกมาเหมือนกันเพียงแต่ไม่เด่นชัดเท่า ๆ นั้น สายดิ่งจะเชื่อมต่อตรงจุดห่างจากปลายใบประมาณ 5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 50 เซนติเมตร[14] มีเส้นใบ 3 - 5 ยาวขนานตามยาวไปกับแผ่นใบและเส้นใบย่อยยาวไปจรดขอบใบ ใบเป็นรูปหอกยาวประมาณ 80 เซนติเมตร กว้างประมาณ 15 เซนติเมตร

หม้อ

หม้อของหม้อข้าวหม้อแกงลิงทุกชนิดมีลักษณะพื้นฐานที่เหมือนกันคือประกอบได้ด้วยตัวหม้อ มีฝาหม้ออยู่ด้านบนที่คอยป้องกันน้ำฝนตกลงไปเจือจางของเหลวในหม้อ มีวงแข็งเป็นมัน หรือที่เรียกว่าเพอริสโตมล้อมรอบทางเข้าไปสู่ตัวหม้อ (ยกเว้นหม้อบนของ N. inermis ที่ไม่มี) มีปีกเป็นคู่ยาวไปตลอดด้านหน้าหม้อของหม้อล่างสันนิษฐานว่าไว้ให้แมลงไต่จากพื้นมาสู่ปากหม้อ แต่ปีกจะลดขนาดลงหรือหายไปเมื่อกลายเป็นหม้อบน สำหรับแมลงที่บินได้ที่เป็นเหยื่อหลักของหม้อบน

หม้อล่าง

N. rajah ก็เหมือนกับชนิดอื่น ๆ ในสกุล ที่ผลิตหม้อขึ้นมา 2 ชนิด หม้อล่างโดยทั่วไปมีขนาดใหญ่ มีสีสันมากกว่าหม้อบน เป็นรูปไข่ ในหม้อล่างสายดิ่งจะอยู่ด้านหน้าของหม้อด้านเดียวกับปากและปีก จากตัวอย่างที่เก็บได้หม้ออาจมีขนาดสูงถึง 40 เซนติเมตร สามารถจุน้ำได้ถึง 3.5 ลิตร[5] และภายในบรรจุไปด้วยน้ำย่อยถึง 2.5 ลิตร แม้ว่าโดยสว่นมากแล้วจะมีไม่เกิน 200 มิลลิลิตร[16] N. rajah อาจมีหม้อล่างใหญ่ที่สุดในสกุล คู่แข่งของมันก็เห็นจะมีเพียง N. merrilliana, N. truncata และ N. rafflesiana ไจแอนท์ฟอร์มเท่านั้น หม้อจะพบวางเอนกอยู่บนพื้นไม่ก็อยู่รอบ ๆ วัตถุที่สามารถค้ำยันมันไว้ได้ สีภายนอกของมันมีสีแดงถึงม่วง ส่วนภายในมีสีเขียวมะนาวถึงม่วง ตัดกับส่วนอื่นของต้นที่มีสีเขียวเหลือง หม้อล่างของ N. rajah สามารถแยกจากหม้อของหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่นบนเกาะบอร์เนียวได้ง่าย[17]

หม้อบนที่หาดูได้ยาก

เมื่อต้นโตเต็มที่ก็จะสร้างหม้อบน ที่เล็กกว่ารูปกรวยและสีสันน้อยกว่าหม้อล่าง สายดิ่งจะอยู่ด้านหลังของหม้อ หม้อบนที่แท้จริงควรเป็นเช่นนั้น แต่หม้อบนของ N. rajah กลับไม่ค่อยได้เห็นนัก เพราะลำต้นของมันไม่เคยยาวเกิน 1-2 เมตร ก่อนจะแห้งและกลายเป็นรากให้หน่อใหม่ที่แตกขึ้นมา[18]

เป็นเพราะหม้อล่างและหม้อบนมีความแตกต่างทางด้านรูปร่างลักษณะ ตามความสามารถที่ดึงดูดและจับเหยื่อต่างชนิดกัน มันจึงไม่มีหม้อกลาง

เพอริสโตมของ N. rajah มีลักษณะพิเศษเป็นจักกว้างที่ขอบ มีแดงดึงดูดใจ มีสันแคบสั้นบนเพอริสโตม มีฟันที่ปลายที่ขอบเส้นด้านในตลอดรอบปาก ปีกทั้งคู่ยาวจากสายดิ่งไปสุดใต้ปาก

ฝาหม้อของ N. rajah มีขนาดใหญ่ที่สุดในสกุล ซึ่งเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของชนิดนี้ มีรูปไข่และมีสันหนาคล้ายกระดูกงูเรือผ่าตรงกลางยาวตลอดฝา มีเดือยเดี่ยวยื่นออกมาด้านหลังฝายาวประมาณ 20 มิลลิเมตร[4]

N. rajah มีต่อมน้ำหวานขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ทั่วทั้งหม้อ ซึ่งต่างจากชนิดอื่น ๆ ทำให้ง่ายต่อการจดจำ ในผิวของหม้อ จะมีต่อมทั้งหมดอยู่ 300 - 800 ต่อม/ตารางเซนติเมตร[11]

ช่อดอกของ N. rajah

ดอก

เราสามารถจะเห็นดอกของ N. rajah ได้ตลอดทั้งปี ดอกจำนวนมากจะถูกสร้างขึ้นบนช่อดอกที่เกิดจากบริเวณส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกนั้นจะมีขนาดประมาณ 80 - 120 เซนติเมตร[4][5] แต่ละดอกของ N. rajah จะอยู่บนก้านดอกย่อย (ก้านคู่) หรือเป็นช่อดอกที่เรียกว่า "ช่อกระจะ" (ตรงข้ามกับช่อแยกแขนงที่มีก้านดอกย่อยหลายดอก) สีเหลืองออกน้ำตาล มีกลิ่นหอมแรง กลีบเลี้ยงเป็นรูปไข่ถึงสี่เหลี่ยมผืนผ้าและยาวน้อยกว่า 8 มิลลิเมตร[4] N. rajah มีดอกแบบดอกแยกเพศอยู่ต่างต้นเหมือนหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่น ฝักมีสีน้ำตาลส้ม ยาว 10 - 20 มิลลิเมตร (ดูรูป)

ลักษณะอื่น ๆ

  • ระบบรากของ N. rajah จะยาวและแผ่ขยายออกไปกว้างมาก แม้ว่ามันจะเป็นระบบรากที่ตื้นเหมือนหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่น ๆ ก็ตาม
  • ทุกส่วนของจะพบขนสีขาวเมื่อต้นไม้ยังมีอายุน้อย แต่ขนเหล่านี้จะหายไปและเปลี่ยนเป็นขนแข็ง (indumentum) แทน
  • สีของหม้อที่แห้งหรือตัวอย่างทางวิทยาศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์พืชที่เก็บมาจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม (ดูรูป).
  • มีความแตกต่างน้อยมากในจำนวนประชาการของ Nepenthes rajah ตามธรรมชาติ และด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีรูปแบบหรือความหลากหลายอื่น ๆ ที่ถูกบันทึกไว้ ยิ่งไปกว่านั้น N. rajah ยังไม่มีชื่อพ้อง[19]ไม่เหมือนกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่น ๆ ที่มีความหลากหลายมากกว่า

แหล่งที่มา

WikiPedia: Nepenthes_rajah http://homepage.univie.ac.at/christian.puff/AS_Bor... http://borneoexotics.com/aspx/guides.aspx http://www.borneoexotics.com/Species%20Data/rajah.... http://www.captiveexotics.com/rajah.htm http://www.cpjungle.com/nucraj.htm http://www.cpzine.com/article.aspx?cid=13&y=2002&m... http://www.discover.com/issues/oct-01/features/fea... http://www.omnisterra.com/botany/cp/pictures/nepen... http://www.plantswithattitude.com/rajah.html http://www.scarnivores.com/showphotos.asp?id=N%7C~...