สถานะอนุรักษ์ ของ Nepenthes_rajah

มีความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์

Nepenthes rajah ถูกจัดอยู่ในสถานะมีความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์ (EN – B1+2e) ในสิ่งมีชีวิตที่ถูกคุกคามบัญชีแดงโดยสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) [1] อยู่ในรายการที่ 1 ส่วนที่ 2 ของพระราชบัญญัติสงวนพันธุ์สัตว์ป่าและพืชพันธุ์ของประเทศมาเลเซียในปี ค.ศ. 1997[57] และในบัญชีที่ 1 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์ (CITES) [58] ซึ่งเป็นข้อห้ามระดับนานาชาติเรื่องการซื้อขายแลกเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่มีรายชื่อในบัญชีที่นำออกมาจากป่าหรือได้มาโดยมิชอบโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เพราะความนิยมในหมู่ผู้สะสม ต้นไม้จำนวนมากยังถูกลักลอบนำออกมาจาป่าอย่าผิดกฎหมาย ถึงแม้ว่าหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้จะสามารถพบได้ในบริเวณอุทยานแห่งชาติกีนาบาลูเท่านั้น ความนิยมของมันในช่วงปี ค.ศ. 1970 นำไปสู่ การถูกบรรจุในบัญชีที่ 1 ของไซเตสในปี ค.ศ. 1981.[59] ร่วมกับ N. khasiana นอกจาก 2 ชนิดนี้ หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดที่เหลือมีรายชื่ออยู่ในบัญชีที่ 2

ในอนาคตอันใกล้ของ N. rajah จะมีการลดระดับลงเป็นสภาวะ"สิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (VU) " หรือในบัญชีอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติจัดให้อยู่ในสภาวะ "สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์ (LR (cd) ) " [60] ตามข้อตกลงของศูนย์ติดตามผลการอนุรักษ์ (WCMC) และภายใต้องค์การนี้ได้พิจารณา N. rajah เป็น"สิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์"ด้วยเช่นกัน ซึ่งหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้แต่เดิมถูกจัดเป็น"สิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (V) "โดย IUCN ในบัญชีสิ่งมีชีวิตที่ถูกคุกคามเบื้องต้น ค.ศ 1994

ถึงแม้ว่า N. rajah จะมีการกระจายตัวที่แคบ[61] แต่มันก็ไม่ใช่สถานที่ที่หายากที่จะมันจะสามารถขึ้นได้และประชาการไม่ถูกจำกัดด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว และอยู่ในที่ห่างไกลของอุทยานแห่งชาติกีนาบาลู ยิ่งกว่านั้น N. rajah มีใบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ยากจะตบตาศุลกากรโดยการตัดหม้อออกเมื่อถูกส่งออกอย่างผิดกฎหมาย

การมาถึงของการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหรือเทคโนโลยีการสืบพันธุ์ภายนอก (in vitro) ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้มีการผลิตพืชชนิดต่าง ๆ ออกมาจำนวนมากและมีราคาขายที่ต่ำ (ประมาณUS$20-$30 ในกรณีของ N. rajah) การขยายพันธุ์แบบภายนอก (In vitro) เป็นการเพาะพันธุ์ต้นไม้จากเซลล์ที่ได้จากต้นแม่ (ทั่ว ๆ ไปเป็นเมล็ด) เทคโนโลยีนี้ช่วยกำจัดนักสะสมที่ตั้งใจจะไปรัฐซาบะฮ์เพื่อเก็บต้นไม้ออกมาอย่างผิดกฎหมายให้หมดไป ทำให้ความต้องการไม้จากป่าลดลงอย่างรวดเร็ว[62]

ร็อบ แคนต์ลีย์ (Rob Cantley) นักอนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงและนักโฆษณาให้เลือกซื้อหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่มาจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ได้ประเมินสถานะของต้นไม้ในป่าดังนี้:[63]

หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้โตในค่านิยมย่อยที่ชัดเจนอย่างน้อย 2 ข้อ หนึ่งคือถูกปกป้องด้วยอำนาจจากอุทยานแห่งชาติของรัฐซาบะฮ์ อีกหนึ่งโตในที่สาธารณะที่มีข้อห้ามที่เข้มงวดปราศจากการอนุญาต อย่าไรก็ตาม มีการปฏิเสธโดยค่านิยมของบางคนที่รู้มาก และบริเวณที่มีการลาดตระเวณน้อย ต้นไม้และถิ่นที่อยู่ที่ถูกทำลายโดยมาเกิดจากนักท่องเที่ยวที่ไม่มีความรับผิดชอบมากกว่านักสะสมพืชพันธุ์ ในเร็ว ๆ นี้ Nepenthes rajah จะกลายเป็นต้นไม้ธรรมดาสำหรับปลูกเลี้ยงเป็นผลมาจากความหาง่ายและราคาที่ไม่แพงจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ฉันเชื่อว่าในวันนี้การเก็บไม้จากป่าเพื่อการค้าจะเหลือน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม N. rajah สำหรับในเชิงพานิชย์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อนั้นมีขนาดต้นที่เล็กและมีด้วยกัน 4 แบบ เป็นแม่แบบที่ได้มาจากสวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิวในลอนดอน อังกฤษ

การเก็บไม้ออกจากป่าอย่างผิดกฎหมายไม่ใช่เป็นภัยคุกคามชนิดเดียวเท่านั้น เอลนีโญหรือสภาพอากาศที่ผิดเพี้ยนในปี ค.ศ. 1997/98 มีผลรุนแรงต่อหม้อข้าวหม้อแกงลิงบนภูเขากีนาบาลู[64] ช่วงเวลาที่แห้งแล้งก่อให้เกิดการลดลงของประชากรในธรรมชาติอย่างรุนแรง เกิดไฟป่า 9 จุดในอุทยาน กินพื้นที่ 25 ตารางกิโลเมตรและเกิดกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่ ระหว่างเกิดเอลนีโญ ต้นไม้จำนวนมากถูกย้ายไปที่สถานอนุบาลของอุทยานเป็นการชั่วคราวเพื่อรักษามันไว้ ในภายหลังมันถูกย้ายไปสวนหม้อข้าวหม้อแกงลิงในเมซีเลา (Mesilau) (ดูต่อด้านล่าง) แต่มันกลับเป็นเจตนาร้ายแทน N. rajah เป็นหนึ่งในจำนวน 2-3 ชนิดที่ล้มตายลง การกระทำเช่นนี้ได้ส่งผลดีน้อยมากกับพืชพวกนี้ ต่อมาอันโบะว์ กุนซาลัม (Ansow Gunsalam) ได้สร้างสถานอนุบาลถาวรใกล้กับสถานีเมซีเลาที่ทำการของอุทยานแห่งชาติกีนาบาลูเพื่อปกป้องพืชที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในพื้นที่ รวมถึง N. rajah ด้วย

ต้นไม้ที่สวนถูเขากีนาบาลู

การกระจายตัวในวงแคบ

Mesilau Nature Resortที่เปิดใหม่ ใกล้ ๆ กับสนามกอล์ฟข้างหลังหมู่บ้านของ Kundasang เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ตามธรรมชาติได้อย่างแน่นอน[65] ที่นี่มี N. rajah นับโหลขึ้นใกล้กับจุดสูงสุดของพื้นที่ ทั้งต้นเล็ก ๆ และโตเต็มที่ หม้อมีขนาดใหญ่พอใช้ สูงประมาณ 35 เซนติเมตร ต้นไม้พวกนี้ที่นี่มีอายุมากกว่า 100 ปี สถานที่นี้มันถูกเรียกว่า "เส้นทางศึกษาธรรมชาติ Nepenthes rajah " เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 16:00 น.ประชากรส่วนมากของหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้มักเกิดในส่วนที่ห่างไกลของอุทยานแห่งชาติกีนาบาลูและยากที่นักท่องเที่ยวจะเข้าถึง[65] นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวที่อุทยานสามารถเจอ N. rajah ที่แสดงในสถานอนุบาลที่อยู่ติดกับ "สวนภูเขา" ที่สำนักงานใหญ่อุทยานแห่งชาติกีนาบาลู[66]

สถานที่อื่น ๆ ในธรรมชาติที่เป็นที่นิยมที่สามารถพบ N. rajah มีที่ราบสูงมาเร เพเร (Marai Parai) แม่น้ำเมซีเลา ทางตะวันออกใกล้ ๆ ถ้ำเมซีเลา ส่วนบนของแม่น้ำโกโลปิสและด้านตะวันออกของภูเขาทามบูยูกอน[67]

แหล่งที่มา

WikiPedia: Nepenthes_rajah http://homepage.univie.ac.at/christian.puff/AS_Bor... http://borneoexotics.com/aspx/guides.aspx http://www.borneoexotics.com/Species%20Data/rajah.... http://www.captiveexotics.com/rajah.htm http://www.cpjungle.com/nucraj.htm http://www.cpzine.com/article.aspx?cid=13&y=2002&m... http://www.discover.com/issues/oct-01/features/fea... http://www.omnisterra.com/botany/cp/pictures/nepen... http://www.plantswithattitude.com/rajah.html http://www.scarnivores.com/showphotos.asp?id=N%7C~...