หมายเหตุ ของ การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์

  1. ราชวงศ์ผู้ปกครอง (อังกฤษ: Reigning houses, Ruling houses) คือราชวงศ์ที่ดำรงสถานะเป็นพระประมุขแห่งรัฐอธิปไตยหนึ่งแห่งขึ้นไป
  2. พระเจ้าจอร์จที่ 1 เสวยราชย์ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งบริเตนใหญ่ด้วยราชสันตติวงศ์ของพระราชมารดา โซเฟียแห่งฮาโนเวอร์ ซึ่งสืบราชสันตติวงศ์มาจากพระเจ้าเจมส์ที่ 6 และที่ 1
  3. ราชบัลลังก์แห่งอารากอนและคาสตีลถูกรวมเข้าด้วยกันภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮับส์บูร์ก เมื่อจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ขึ้นเสวยราชบัลลังก์ของทั้งสองอาณาจักรด้วยราชสันตติวงศ์ของพระราชบิดา-มารดา พระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล (กษัตริย์แห่งคาสตีล) และโจแอนนาแห่งอารากอน สมเด็จพระราชินีแห่งคาสตีล (กษัตริย์แห่งอารากอน)[6]
  4. ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีการเสกสมรสระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ กับเจ้าหญิงคาทอลิก เฮนเรียตตา มาเรียแห่งฝรั่งเศส เมื่อพระนางเฮนเรียตตาทรงประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแบบคาทอลิดอย่างเปิดเผยและยืนกรานที่จะคงผู้ติดตามชาวคาทอลิกของพระองค์ไว้ ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงขันติธรรมทางศาสนาในสังคมอังกฤษ ทำให้พระนางเป็นพระราชินีที่สาธารณชนไม่นิยมชมชอบ[12]
  5. เชื้อพระวงศ์รัสเซียมักเสกสมรสกับเจ้าหญิงต่างชาติก็ต่อเมื่อทรงเปลี่ยนมาเข้ารีตออร์โธดอกซ์รัสเซียเท่านั้น[14] เช่น เจ้าหญิงอลิกซ์แห่งเฮสส์ พระมเหสีในซาร์นิโคลัสที่ 2 ที่ทรงเปลี่ยนจากลูเทอแรน[15]
  6. ว่ากันว่าพระมเหสีจักรพรรดิจัสตินที่ 1 นามว่าพระนางยูเฟเมีย เคยเป็นทั้งทาสและอนารยชนมาก่อน[29] ส่วนพระเมสีของจักรพรรดิจัสติเนียนที่ 2 พระนางธีโอโดรา เคยเป็นนักแสดง บ้างก็อ้างว่าเป็นโสเภณีอีกด้วย[30]
  7. โดนัลด์ แมคกิลลิฟเรย์ นิคอล กล่าวไว้ในหนังสือ The Last Centuries of Byzantium 1261–1453 ว่า "บรรดาพระธิดาของจักรพรรดิอะเล็กซิออสที่ 2 แห่งเทรบิซอนด์ เสกสมรสกับเอมีร์แห่งซีโนปและเอร์ซินจาน ส่วนบรรดาพระนัดดาของพระองค์ก็เสกสมรสเอมีร์แห่งชาลิเบีย ในขณะที่บรรดาพระปนัดดาของพะรองค์ (พระธิดาในจักรพรรดิอะเล็กซิออสที่ 3 ผู้สวรรคตในปี พ.ศ. 1933) ก็ถวายตัวรับใช้จักวรรดิเช่นเดียวกัน"[34]
  8. ทั้งพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน ต่างก็เสกสมรสกับสมาชิกราชวงศ์กรีก ได้แก่ เจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก และเจ้าหญิงโซเฟียแห่งกรีซและเดนมาร์ก ตามลำดับ ในปี พ.ศ. 2536 เจ้าชายอาโลอิส รัชทายาทแห่งลิกเตนสไตน์ เสกสมรสกับดัชเชสโซฟีในบาวาเรีย สมาชิกราชวงศ์วิตเตลส์บาค[36] ซึ่งทั้งราชวงศ์กรีก (ราชวงศ์กลึคสบวร์ก) และราชวงศ์วิตเตลส์บาคต่างก็ไม่ได้ปกครองรัฐอธิปไตยเช่นในอดีต
  9. เจ้าชายคะนุด เจ้าชายรัชทายาทแห่งเดนมาร์ก เสกสมรสกับเจ้าหญิงคาโรไลน์-มาทิลด์แห่งเดนมาร์กในปี พ.ศ. 2476 ซึ่งทั้งสองพระองค์ต่างก็เป็นพระญาติชั้นที่หนึ่งของกันและกัน ทั้งยังเป็นสมาชิกราชวงศ์กลึคสบวร์กและพระนัดดาของสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 8 แห่งเดนมาร์กร่วมกัน[60]
  10. คาโรลีน เฟลอห์-ลอบบาน อธิบายในบทความ Islamic Law and Society in the Sudan ว่า "เป็นการดีกว่าที่สตรีชาวมุสลิมจะเปลี่ยนศาสนาไปเป็นอิสลามก่อนการสมรสกับชายชาวมุสลิม แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ถึงกับว่าจำเป็นต้องทำทุกครั้งเสมอไป ในขณะที่ชายที่ไม่ใช่มุสลิมกลับจำเป็นต้องเปลี่ยนศาสนาก่อนการสมรสกับสตรีชาวมุสลิมทุกครั้ง"[80]
  11. เชื้อพระวงศ์วิตเตลส์บาคหลายพระองค์ประสบกับภาวะวิกลจริต ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเสกสมรสในเครือญาติบ่อยครั้ง สมาชิกราชวงศ์หลายพระองค์ประสบกับทั้งภาวะผิดปกติทั้งทางร่างกายและทางจิตใจเช่นเดียวกับโรคลมชัก[95]

ใกล้เคียง

การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ การเสียชีวิตของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ การเสียกรุงคอนสแตนติโนเปิล การเสียชีวิตของไมเคิล แจ็กสัน การเสด็จออกมหาสมาคมในรัชกาลที่ 9 การเสียดินแดนของไทย การเสริมสร้างกองทัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเสียชีวิตของภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์

แหล่งที่มา

WikiPedia: การเสกสมรสระหว่างราชวงศ์ http://www.monarchie.be/royal-family/princess-astr... http://www.britannica.com/EBchecked/topic/107009/C... http://books.google.com/books?id=WjJ3THGG5iIC&pg=P... http://www.hellomagazine.com/royalty/2013080213898... http://articles.latimes.com/2002/dec/09/world/fg-b... http://articles.latimes.com/2004/dec/29/world/fg-j... http://ngm.nationalgeographic.com/print/2010/09/tu... http://nigerianecho.com/?p=7581 http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=9C0... http://www.msu.edu/course/lbs/333/fall/hapsburglip...