เมนูนำทาง
การแปลการพินิจภายในผิด ความเชื่อถือไม่ได้ของการพินิจภายในแต่ควรจะพิจารณาว่า เป็นกระบวนการที่เราใช้ส่วนประกอบ (content) ของจิตใจเพื่อสร้างคำอธิบายเกี่ยวกับตน (personal narrative)
ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงกับสภาพจิตใต้สำนึกก็ได้จากบทความ Self-Knowledge: Its Limits, Value, and Potential for Improvement (ความรู้ตน จุดจำกัด คุณค่า และโอกาสการพัฒนา)[7]
ในผลงานวิจัยปี ค.ศ. 1977 นักจิตวิทยาริชารด์ นิสเบ็ตต์ และทิมโมที วิลสัน คัดค้านความคิดว่า การพินิจภายในนั้นเข้าถึงกระบวนการจิตใจได้โดยตรง และเชื่อถือได้ซึ่งกลายเป็นผลงานวิจัยที่มีการอ้างอิงกันมากที่สุดในงานวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับจิตใจ[8][9] เป็นผลงานที่รายงานการทดลองที่ผู้ร่วมการทดลองต้องอธิบายทางปากว่า ทำไมจึงมีความชอบใจอย่างใดอย่างหนึ่งหรือว่า มีความคิดอย่างนี้ได้อย่างไรโดยอาศัยข้อมูลจากงานเหล่านี้ และงานวิจัยเกี่ยวกับการอ้างเหตุ (attribution หรือ การบ่งชี้เหตุ) อื่น ๆนักวิจัยทั้งสองสรุปว่า รายงานเกี่ยวกับกระบวนการทางจิตใจของตนเป็นเรื่องกุขึ้น (confabulated)โดยรายงานว่า ผู้ร่วมการทดลอง "ไม่มีหรือแทบไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทางประชาน (cognitive process) ในระดับสูงโดยการพินิจภายใน"[10] นักวิจัยแยกแยะระหว่าง ส่วนประกอบของจิตใจ (contents) เช่นความรู้สึก และกระบวนการของจิต (process)โดยอ้างว่า การพินิจภายในสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับส่วนประกอบของจิตได้ แต่กระบวนการนั้นเข้าถึงไม่ได้[8]
ผลงานวิจัยต่าง ๆ ยืนยันว่า มนุษย์มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับการพินิจภายในที่มีสมรรถภาพจำกัด รูปแสดงประสาทสัมผัสของมนุษย์แม้ว่าจะมีงานทดลองที่สืบมาจากงานของนิสเบ็ตต์และวิลสันมาบ้างแต่ความยากลำบากในการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับข้อมูลที่เข้าถึงได้โดยการพินิจภายใน มีผลให้ไม่มีการพัฒนาด้านผลงานวิจัยในประเด็นนี้[9] งานปริทัศน์ที่ทำ 10 ปีให้หลังคัดค้านงานวิจัยดั้งเดิมนั้นหลายอย่างรวมทั้งตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับนิยามของคำว่า "กระบวนการ" ที่ใช้ และเสนอว่า การทดสอบที่ชัดเจนไม่คลุมเครือ ว่าการพินิจภายในสามารถให้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับจิตใจได้ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก[3]
ในปี ค.ศ. 2002 วิลสันยอมรับว่า ข้ออ้างที่ได้ทำในปี ค.ศ. 1977 นั้นกว้างเกินไป[10] และได้เปลี่ยนมามีความเห็นว่า adaptive unconscious (กระบวนการจิตใต้สำนึก ที่เป็นการปรับตัวของมนุษย์ให้เข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อม) เป็นกระบวนการที่เป็นเหตุแห่งการรับรู้ (perception) และพฤติกรรม โดยมากและเมื่อให้เรารายงานถึงกระบวนการทางจิตใจของเราเอง เราจะไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการที่เป็นไปใต้สำนึกของจิตใจเหล่านี้ได้[11] แต่แทนที่เราจะยอมรับว่า ไม่รู้ เรากับกุคำอธิบาย (confabulate) ที่พอเป็นไปได้ขึ้นและดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าตนเองไม่รู้[12]
มีไอเดียทางปรัชญาบางอย่าง (eliminative materialism) ว่า มนุษย์อาจมีความเข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับการทำงานของจิตใจของตนและว่า แนวคิดในเรื่องบางเรื่องเช่น "ความเชื่อ" หรือว่า "ความเจ็บปวด" จะปรากฏความจริงทางวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างไปจากที่คิดกันทุกวันนี้
นักจิตวิทยาเรียกการเดาอย่างผิด ๆ ที่เราใช้อธิบายกระบวนการความคิดของตนเองว่า "causal theories" (ทฤษฎีเหตุผล)[13]คือว่า คำอธิบายของเรา (ที่นักจิตวิทยาเรียกว่าทฤษฎีเหตุผล) เกี่ยวกับเหตุของการกระทำที่ทำแล้ว มักจะใช้เพียงเพื่อแก้ต่างพฤติกรรมของตน เพื่อบรรเทาความไม่ลงรอยกันทางประชาน (cognitive dissonance)ซึ่งก็หมายความว่า เราอาจจะไม่ได้สังเกตเห็นเหตุจริง ๆ ของพฤติกรรมของตน แม้ว่ากำลังพยายามที่จะอธิบายอยู่ผลก็คือ คำอธิบายที่เรามีมักจะเป็นไปเพื่อความรู้สึกที่ดีขึ้นเกี่ยวกับตัวเราเท่านั้นตัวอย่างหนึ่งก็คือ ชายคนหนึ่งอาจจะมีการเลือกปฏิบัติต่อคนรักร่วมเพศ เพราะว่าตนจริง ๆ แล้วอายว่า มีความรู้สึกชอบใจผู้ชายอื่นเขาอาจจะยอมรับความจริงนี้แม้ต่อตัวเองก็ไม่ได้ แต่อธิบายความเดียดฉันท์ของตนว่า เป็นเพราะว่าการรักร่วมเพศไม่เป็นธรรมชาติ
มีงานวิจัยที่วัดขอบเขตความแม่นยำของการพินิจภายใน โดยรวบรวมรายงานจากหญิงคนหนึ่งที่สมมุติชื่อว่า เมลานี่เมลานี่จะพกวิทยุตามตัวตัวหนึ่ง ที่จะส่งเสียงโดยสุ่ม เพื่อให้เธอสังเกตว่า เธอกำลังรู้สึกและคิดอะไรอยู่แต่เมื่อทำการวิเคราะห์รายงานของเธอแล้ว นักวิจัยกลับมีความคิดต่าง ๆ กันเกี่ยวกับผลที่ได้เกี่ยวกับการตีความที่ถูกต้องของสิ่งที่เมลานี่อ้าง และเกี่ยวกับความแม่นยำของการพินิจภายในของเธอหลังจากการถกเถียงที่ไม่ได้จบลงในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นักวิจัยทั้งสองมีข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้แตกต่างกันคนหนึ่งมองในแง่ดี และอีกคนหนึ่งมองในแง่ร้าย ในประเด็นความแม่นยำของการพินิจภายใน[14]
นิสเบ็ตต์และวิลสันมีสมมติฐานเกี่ยวกับองค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อความแม่นยำของการพินิจทางประชานภายในที่รายงานด้วยตนเอง คือ[8]
นอกจากนั้นแล้ว นิสเบ็ตต์และวิลสันยังมีสมมติฐานที่อธิบายว่าทำไม่เราถึงไม่รู้ตัวถึงความคลาดเคลื่อนที่มีในการพินิจภายใน คือ[8]
เมนูนำทาง
การแปลการพินิจภายในผิด ความเชื่อถือไม่ได้ของการพินิจภายในใกล้เคียง
การแปลสิ่งเร้าผิด การแปลการพินิจภายในผิด การแปลงหน่วยอุณหภูมิ การแปรผันทางพันธุกรรม การแปลสิ่งเร้าผิดเชิงบวก การแปลสิ่งเร้าผิดว่าควบคุมได้ การแปลงฟูรีเย การแปลงพื้นที่เพื่อเปลี่ยนชนชั้น การแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค การแปลงโคไซน์ไม่ต่อเนื่องแหล่งที่มา
WikiPedia: การแปลการพินิจภายในผิด http://www.rotman.utoronto.ca/facbios/file/Djikic,... http://www.familyanatomy.com/2009/11/04/people-alw... http://www.msnbc.msn.com/id/9616467/ http://www.newscientist.com/article/mg20227046.400... http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S... http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S... http://www.ic.arizona.edu/ic/psyc358/358-Lect_6.ht... http://isites.harvard.edu/fs/docs/icb.topic67047.f... http://www.wjh.harvard.edu/~wegner/pdfs/Pronin,%20... http://mitpress.mit.edu/catalog/item/default.asp?t...