เมนูนำทาง
ความผิดปรกติในความคิด การใช้คำในภาษาอังกฤษบทความในส่วนนี้อธิบายการใช้คำในภาษาอังกฤษที่ทำให้สับสนได้ง่ายเมื่ออ่านวรรณกรรมแพทย์ในภาษาอังกฤษ
อภิธานทางจิตเวช/จิตวิทยาเร็ว ๆ นี้ (2015, 2017) นิยาม thought disorder ว่าเป็นการคิดหรือปริชานที่เกิดปัญหาโดยมีผลต่อการสื่อสาร ภาษา หรือสิ่งที่คิดซึ่งรวมการมีข้อคิดน้อย (poverty of ideas), การสร้างคำใหม่ (neologisms), การพูดโดยไม่ดำเนินตามตรรกะ (paralogia), การพูดไม่ปะติดปะต่อ (word salad) และอาการหลงผิด (delusion)[3][4]ซึ่งรวมทั้งปัญหาในสิ่งที่คิดและรูปแบบความคิดแล้วเสนอคำที่เฉพาะเจาะจงกว่าสองคำคือ ความผิดปกติทางความคิดโดยเนื้อหา (content thought disorder) และความผิดปกติทางความคิดโดยรูปแบบ (formal thought disorder)[4]ความผิดปกติทางความคิดโดยเนื้อหานิยามว่าเป็นปัญหาความคิดที่มีอาการหลงผิดที่ไม่ประสานกันหลายอย่าง[50][51]ความผิดปกติทางความคิดโดยรูปแบบนิยามว่าเป็นปัญหาของรูปแบบหรือโครงสร้างความคิด[52][53]ยกตัวอย่างเช่น คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (DSM-5 ปี 2013) ใช้แต่คำว่า formal thought disorder โดยเป็นไวพจน์ของคำว่า disorganized thinking และคำว่า disorganized speech[54] เทียบกับบัญชีจำแนกทางสถิติระหว่างประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง (ICD-10) ซึ่งใช้แต่คำว่า thought disorder โดยจะใช้คำว่า delusion (อาการหลงผิด) และ hallucination (ประสาทหลอน) ติดตามแต่ต่างหากเสมอ ๆ[55]และพจนานุกรมแพทย์ทั่วไป (2002) ที่แม้จะนิยามคำว่า thought disorder คล้ายกับอภิธานทางจิตเวช[56]แต่ก็ใช้คำนี้ในการนิยามคำอื่น ๆ ในนัยเดียวกันกับที่ ICD-10 ใช้[57]
หนังสือจิตเวชเร็ว ๆ นี้ (2017) เมื่อกล่าวถึงความผิดปกติทางความคิดว่าอยู่ในกลุ่ม "อาการสับสน" (disorganization syndrome) ในบริบทของโรคจิตเภทว่า
| ||
– Phenomenology of Schizophrenia (2017), THE SYMPTOMS OF SCHIZOPHRENIA[11] |
หนังสือเล่มเดียวกันยังกล่าวถึงแพทย์ที่ใช้คำว่า formal thought disorder อย่างกว้าง ๆ โดยหมายถึงความผิดปกติของรูปแบบความคิดบวกอาการทางประชานที่เป็นอาการโรคจิต[58]และงานศึกษาต่าง ๆ ที่ตรวจสอบปริชานและอาการย่อยอต่าง ๆ ของโรคจิตเภทอาจเรียก formal thought disorder ว่า conceptual disorganization หรือ disorganization factor[11]อย่างไรก็ดี ก็ยังมีความเห็นแตกต่างรวมทั้ง
| ||
– The Mental Status Examination, The Medical Basis of Psychiatry (2016)[59] |
อาการพูดน้อย (alogia) ซึ่งรวมทั้งการพูดน้อย (poverty of speech) และการพูดมีเนื้อความน้อย (poverty of content of speech) ได้จัดว่าเป็นอาการบกพร่อง (negative symptom) ของโรคจิตเภท เช่น ที่พบในแบบวัดเพื่อประเมินอาการบกพร่องสำหรับโรคจิตเภท (SANS)[17]จึงจัดว่าเป็นความผิดปกติทางความคิดเชิงบกพร่อง (negative thought disorder)[16]งานศึกษาโดยวิเคราะห์ปัจจัยได้เริ่มจัดอาการเชิงบวกและอาการบกพร่องของโรคจิตเภทลงในมิติเกินกว่า 2 มิติเริ่มจาก 3 โดยปัจจุบัน (2017) ได้ถึง 5 มิติรวมทั้งอาการโรคจิต อาการบกพร่อง อาการสับสน (รวม TD) ความซึมเศร้าและความวิตกกังวล และความไม่สงบทางกายใจ (agitation)โดยได้ "ความสม่ำเสมอที่น่าทึ่ง" และคาดว่าจะมีมากกว่านี้ในอนาคต[60]เมื่อจัดหมวดหมู่เช่นนี้ การพูดมีเนื้อความน้อย โดยพูดเป็นปริมาณปกติ ก็จัดว่า "เป็นความสับสนทางความคิดและไม่ใช่อาการบกพร่อง และรวมลงในกลุ่มอาการสับสนได้อย่างเหมาะสม"การพูดน้อยเท่านั้นที่จัดว่าเป็นอาการบกพร่อง[16]
เมนูนำทาง
ความผิดปรกติในความคิด การใช้คำในภาษาอังกฤษใกล้เคียง
ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ ความผิดปกติทางอารมณ์ ความผิดปรกติในความคิด ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง ความผันแปรได้ทางพันธุกรรม ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ ความผิดทางพินัย ความผิดปกติทางจิตแหล่งที่มา
WikiPedia: ความผิดปรกติในความคิด http://www.sciencedirect.com/science/article/pii/0... //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5519298 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18297385 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/19521143 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/496551 http://www.who.int/entity/classifications/icd/en/b... //doi.org/10.1001%2Farchpsyc.1979.01780120045006 //doi.org/10.1007%2F978-1-4939-2528-5 //doi.org/10.1007%2Fs10803-007-0526-6 //doi.org/10.1037%2F14646-000