สงครามปฏิวัติอเมริกัน ของ จอร์จ_วอชิงตัน

ภาพวาดจอร์จ วอชิงตันในเครื่องแบบทหาร วาดโดย Rembrandt Pealeจอร์จ วอชิงตันข้ามแม่น้ำเดลาแวร์

หลังจากเกิดการปะทะกับอังกฤษในเดือนเมษายน ค.ศ. 1775 วอชิงตันปรากฏตัวดด้วยชุดเครื่องแบบทหารในการประชุมสภาอาณานิคมที่ 2 (Second Continental Congress) ซึ่งเป็นการบอกเหตุว่าเขาพร้อมแล้วที่จะรบ วอชิงตันมีทั้งศักดิ์ศรี ประสบการณ์ด้านการทหาร มีบุคลิกภาพที่งามสง่า มีประวัติในการเป็นผู้รักชาติ และเขาได้รับการสนับสนุนจากรัฐภาคใต้ในขณะนั้น โดยเฉพาะจากเวอร์จิเนีย ถึงแม้เขาไม่ได้ต้องการมีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้นำทัพ และเขายังกล่าวด้วยว่าเขาเองอาจไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง แต่ในที่ประชุมก็ไม่มีใครแข่งขันด้วย สภาฯ ได้ก่อตั้งกองทัพบกที่เรียกว่ากองทัพฝ่ายอาณานิคม (Continental Army) ในวันที่ 14 มิถุนายน ทั้งนี้จากการเสนอชื่อโดย จอห์น แอดัมส์ จากรัฐแมสซาชูเซตส์ วอชิงตันติดยศพลตรีและได้รับเลือกจากสภาฯ ให้เป็นผู้บัญชาการกองทัพบกฝ่ายอาณานิคม (Commander-in-chief) ในสงครามครั้งนี้[12]

ด้านการรบ วอชิงตันรับหน้าที่นำทัพให้กับกองทัพบกฝ่ายอาณานิคมในสนามรบที่เคมบริดจ์ (รัฐแมสซาชูเซตส์) ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1775[12] ระหว่างการเข้ายึดบอสตัน ด้วยความตระหนักว่ากองทัพขาดดินปืน วอชิงตันได้ขอการสนับสนุนเพิ่ม บางส่วนได้จากการยึดอาวุธของอังกฤษ รวมถึงบางส่วนในแคริบเบียน ได้มีความพยายามที่จะผลิตดินปืนกันเอง แต่ก็ไม่เพียงพอในการรบ (ซึ่งต้องการใช้ประมาณ 2.5 ล้านปอนด์) ซึ่งสามารถได้รับอย่างเพียงพอ ก็เมื่อสงครามกำลังจะจบแล้วและโดยส่วนใหญ่ได้มาจากฝรั่งเศส[37] วอชิงตันจัดกำลังกองทัพบกใหม่ หลังจากเสียเวลาไปนาน ก็สามารถผลักดันให้อังกฤษถอนทหารไปได้ด้วยการระดมยิงที่ Dorchester Heights ทหารอังกฤษล่นถอยออกจากบอสตัน และวอชิงตันได้นำกองทัพรุกรานนิวยอร์ก

แม้รัฐสภาฯจะมีทัศนะต่อนักรบผู้รักชาติที่ไม่มั่นใจนัก แต่หนังสือพิมพ์อังกฤษได้กล่าวสรรเสริญวอชิงตันว่าเป็นคนมีคุณลักษณะของความเป็นแม่ทัพ ยิ่งกว่านั้นในรัฐสภาของอังกฤษยังเห็นว่านายพลชาวอเมริกันผู้นี้มีความกล้าหาญ อดทน ตั้งใจ และเอาใจใส่ในกำลังพลของตนเอง และเป็นแบบอย่างให้อังกฤษซึ่งควรจะมีแม่ทัพที่มีคุณสมบัติในการรบเช่นนี้บ้าง[38] ในระหว่างนั้นวอชิงตันปฏิเสธที่จะเข้าเกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่เข้ายุ่งเกี่ยวและอยู่เหนือการเมืองที่มีฝักฝ่าย

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1776 นายพลวิลเลียม โฮว์ ของอังกฤษได้รุกทางเรือและทางบกขนานใหญ่ โดยหวังที่จะบุกยึดเมืองนิวยอร์กและเปิดเจรจาสงบศึก กองทัพฝ่ายอาณานิมภายใต้การนำของวอชิงตันเผชิญหน้ากับข้าศึกเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ประกาศอิสรภาพ โดยทำสงครามที่ ลอง ไอซ์แลนด์ อันเป็นการรบที่ใหญ่ที่สุด การรบในครั้งนี้ได้ทำให้วอชิงตันต้องหนีออกจากนิวยอร์ก และข้ามไปนิวเจอร์ซีย์ ปล่อยให้อนาคตของกองทัพมืดมัว ในคืนวันที่ 25 ธันวาคมปีเดียวกันนั้น วอชิงตันได้ตีกลับ นำกำลังทัพอเมริกันข้ามแม่น้ำเดลาแวร์ และสามารถจับกุมกำลังคนฝ่ายอังกฤษได้เกือบ 1,000 คน ในเทรนตัน, รัฐนิวเจอร์ซีย์[39]

วันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1777 วอชิงตันรบแพ้ในสงครามแบรนดี้ไวน์ และวันที่ 26 กันยายน กองทัพของโฮว์ ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่าฝ่ายของวอชิงตัน และได้เดินเข้าสู่เมืองฟิลาเดลเฟียโดยที่ไม่ได้รับการต่อต้าน การพ่ายแพ้ของวอชิงตันทำให้นักการเมืองในสภาหลายคนไม่พอใจ และวางแผนที่จะปลดวอชิงตัน แต่ความพยายามดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนที่หนุนหลังวอชิงตันได้รณรงค์สนับสนุนเขา.[40]

เดือนธันวาคม ค.ศ. 1777 กองทัพของวอชิงตันได้ตั้งค่ายที่ วอลเล่ย์ ฟอจ เป็นเวลา 6 เดือน ในช่วงฤดูหนาวนั้นทหารจำนวน 2,500 คนจากจำนวน 10,000 คนได้เสียชีวิตจากโรคและความหนาวเหน็บ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ กองทัพได้ฟื้นตัวขึ้นที่ วอลเล่ย์ ฟอจ ซึ่งเกิดจากการฝึกและการให้คำแนะนำทางการทหารของ บารอน วอน สติวเบน ผู้ชำนาญการชาวปรัสเซียนที่อยู่ในคณะทำงาน ในปี ค.ศ. 1779 ทหารอังกฤษได้ถอนออกจากเมืองฟิลาเดลเฟีย และกลับสู่เมืองนิวยอร์ก ในขณะนั้นวอชิงตันได้อยู่กับกองทัพของเขาในด้านนอกของนิวยอร์ก และในฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1780 ด้วยคำสั่งของวอชิงตัน นายพลจอห์น ซูวิลเลียน, ได้ตอบโต้ต่อการที่ Iroquois และ Tory โจมตีชาวอาณานิคมอเมริกันในช่วงต้นของสงคราม เป็นการรบชนะที่เด็ดขาด สามารถทำลายอย่างน้อย 40 หมู่บ้าน Iroquois ทั่วทั้งตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก เขาได้โจมตีครั้งสำคัญในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1781 หลังจากชัยชนะของกองทัพเรือฝรั่งเศส ทำให้กำลังทัพของอังกฤษต้องถูกกักอยู่ที่เวอร์จิเนีย ซึ่งนำไปสู่การยอมแพ้ที่ยอร์คเทาน์ และทำให้สงครามได้ยุติลง ถึงแม้ว่าจะเป็นชัยชนะในสงครามในชีวิตของเขา วอชิงตันได้ชนะสงคราม 3 ครั้งจากการสู้รบทั้งหมด 9 ครั้ง

ชัยชนะของเขาที่ได้มานั้น ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการรบ การจัดทีมงานเสนาธิการและกำลังรบ ความอดทน และความตั้งใจที่จะต่อสู้ของฝ่ายผู้รักชาติ ที่แม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ด้านการรบมาก่อน แต่ด้วยความพยายามและความกล้าหาญ เสียสละ จึงทำให้กองกำลังอาสาสมัครที่เริ่มจากคนหนุ่มจำนวนมากที่ไม่มีประสบการณ์ จนแข็งแกร่งขึ้น และสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ไปสู่ชัยชนะได้

จอร์จ วอชิงตัน กำลังลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพฝ่ายอาณานิคม

เดือนมีนาคม ค.ศ. 1783 วอชิงตันได้ใช้อิทธิพลและบารมีของเขาในการสลายกลุ่มนายทหารบกที่ขู่ว่าจะเผชิญหน้ากับสภาฯ เพื่อเรียกร้องเงินเดือนที่ยังค้างจ่าย เนื่องจากมีสนธิสัญญาสงบศึกกับอังกฤษ (Treaty of Paris) ที่ยอมรับในความเป็นเอกราชของประเทศสหรัฐอเมริกา วอชิงตันจึงได้สลายทัพบกในความรับผิดชอบของเขา และในวันที่ 2 พฤศจิกายน เขาได้กล่าวอำลาต่อทหารของเขา[41]

วันที่ 25 พฤศจิกายน อังกฤษถอนกำลังออกจากนิวยอร์ก วอชิงตันและผู้ว่าการรัฐจึงเข้ายึดพื้นที่ที่ Fraunces Tavern วันที่ 4 ธันวาคม เขากล่าวอำลานายทหารของเขา และวันที่ 23 ธันวาคม เขาลาออกจากการเป็นผู้บัญชากองทัพบกฝ่ายอาณานิคม (commander-in-chief) และเป็นต้นแบบของผู้นำประเทศสาธารณรัฐที่ปฏิเสธการใช้อำนาจ ในระหว่างนั้นประเทศสหรัฐมีการปกครองโดยบทบัญญัติว่าด้วยสมาพันธรัฐ (Articles of Confederation) ซึ่งยังไม่มีประธานาธิบดีและรัฐบาลอย่างที่มีในปัจจุบัน

หลังจากที่ลาออกจากกองทัพ เขาเกษียณกลับไปอยู่ที่เมานต์เวอร์นอน ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาเดินทางสำรวจดินแดนตะวันตกในปี ค.ศ. 1784[12] ก่อนที่จะได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงเอกฉันท์ให้เป็นประธานที่ประชุมฟิลาเดเฟียเมื่อช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1787 เขาได้มีส่วนอภิปรายไม่มากนัก แม้ว่าจะออกเสียงไม่เห็นด้วยกับกฎหมายในหลายมาตรา แต่ด้วยเกียรติคุณของเขา สัมพันธภาพของเขากับบรรดาตัวแทนในสภาฯ เป็นไปด้วยดีฉันท์มิตร บรรดาตัวแทนในสภาได้ออกแบบตำแหน่งประธานาธิบดีโดยมองเขาไว้ในใจ และอนุมัติให้เขากำหนดตำแหน่งหน้าที่เมื่อได้เข้ารับตำแหน่ง ในที่ประชุม เขาได้สนับสนุนและทำให้ตัวแทนจากเวอร์จิเนียออกเสียงรับร่างรัฐธรรมนูญที่มีการยอมรับทั้ง 13 รัฐ

แหล่งที่มา

WikiPedia: จอร์จ_วอชิงตัน http://books.google.ca/books?id=_xISAAAAYAAJ&pg=PA... http://marriage.about.com/od/presidentialmarriages... http://www.american-presidents.com/george-washingt... http://www.earlyamerica.com/review/2005_winter_spr... http://www.freemasons-freemasonry.com/tabbert1.htm... http://books.google.com/books http://books.google.com/books?id=5Q81AAAAIAAJ&prin... http://books.google.com/books?id=5Q81AAAAIAAJ&prin... http://books.google.com/books?id=RXgg4cbWhsUC&pg=P... http://books.google.com/books?id=dBQOAAAAIAAJ&pg=R...