การปกครองในยุคเริ่มต้น ของ จักรวรรดิซาเซเนียน

พระเจ้าชาปูร์ หรือ พระเจ้าซาโปร์ที่ 1 (ค.ศ. 241-272) มีความกระตือรือร้นและมีทักษะฝีมือไม่ต่างจากพระบิดา พระองค์ได้รับการศึกษาชั้นดีและเป็นคนรักการเรียนรู้ พระองค์ให้อิสรภาพแก่ทุกศาสนาอย่างเปิดกว้าง ทั้งศาสนาโซโรอัสเตอร์ ศาสนามาณีกี ศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่นๆ ทรงสานต่องานเขียนคัมภีร์อเวสตะ โดยให้นักบวชใส่ความรู้ด้านอภิปรัชญา ดาราศาสตร์ และเวชกรรมที่ส่วนใหญ่หยิบยืมมาจากอินเดียและกรีซเข้าไปด้วย พระองค์ให้การอุปถัมภ์งานศิลปะ แม้จะไม่ใช่แม่ทัพที่เก่งกาจที่สุด แต่ทรงเป็นนักบริหารที่เก่งกาจในบรรดามวลหมู่กษัตริย์แห่งราชวงศ์ซาสซานิยะห์ ทรงสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ที่ตั้งชื่อตามพระองค์ว่ากรุงชาปูร์ซึ่งปัจจุบันยังมีซากปรักหักพังเหลืออยู่ และสร้างเมืองหลวงใหม่อีกแห่งคือกรุงชูชตาร์ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำการุน พระองค์ได้สร้างหนึ่งในงานวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคโบราณ คือ เขื่อนหินแกรนิต ซึ่งเป็นสะพานที่สร้างจากก้อนหินแกรนิต มีความยาว 1,710 ฟุต กว้าง 20 ฟุต ไว้ใช้เปลี่ยนทิศทางน้ำเป็นการชั่วคราว มีส่วนที่เป็นทางเดินพื้นแน่นหนาและประตูระบายน้ำขนาดใหญ่ยักษ์ไว้ควบคุมทิศทางน้ำ ตำนานเล่าว่าพระเจ้าชาปูร์ได้ให้วิศวกรชาวโรมันเป็นผู้ออกแบบและให้เชลยชาวโรมันเป็นผู้ก่อสร้าง

ในด้านการสงคราม พระเจ้าชาปูร์บุกรุกรานซีเรียไปจนถึงกรุงแอนติออก แต่พ่ายแพ้ต่อกองทัพโรมัน ทั้งสองฝ่ายตกลงสงบศึกกันในปี ค.ศ. 244 โดยกรุงโรมได้ดินแดนทั้งหมดที่ถูกพระเจ้าชาปูร์ยึดมากลับคืนไป เมื่ออาร์เมเนียจับมือเป็นพันธมิตรกับกรุงโรม พระชาปูร์ไม่พอใจจึงเข้าไปก้าวก่ายในอาร์เมเนียและตั้งราชวงศ์ใหม่ที่ฝักใฝ่เปอร์เซียขึ้นมาในปี ค.ศ. 252 สร้างความปลอดภัยให้แก่เปอร์เซียที่ได้ดินแดนกันชนแห่งใหม่ทางฝั่งขวา พระองค์จึงกลับมาทำสงครามกับกรุงโรมอีกครั้ง ทรงเอาชนะและจับกุมตัวจักรพรรดิวาเลริอานุสได้ในปี ค.ศ. 260 กรุงแอนติออกถูกปล้นทำลาย เชลยหลายพันคนถูกกวาดต้อนไปเป็นแรงงานในอิหร่าน อุไดนา ข้าหลวงแห่งพัลไมรา ยกทัพมาสมทบกับกรุงโรมและขับไล่พระเจ้าชาปูร์ให้ถอนร่นข้ามกลับไปทางแม่น้ำยูเฟรติสซึ่งเป็นแนวเขตที่กั้นระหว่างโรมันกับเปอร์เซีย

ผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อๆ มาในช่วงปี ค.ศ. 272-302 ไม่มีอะไรโดดเด่น ประวัติศาสตร์จึงกระโดดข้ามไปที่ยุคของพระเจ้าโฮร์มิซด์ที่ 2 (ค.ศ. 302-309) ผู้สืบสานความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุข พระองค์บูรณะซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างสาธารณะและบ้านเรือนประชาชนโดยเฉพาะผู้ยากไร้ ทรงตั้งศาลยุติธรรมใหม่ขึ้นมาเพื่อให้คนจนได้ร้องเรียนคนรวยและมักออกว่าความด้วยพระองค์เอง ไม่มีใครรู้ว่าพระองค์คิดจะกีดกันพระโอรสออกจากการสืบทอดบัลลังก์หรือไม่ แต่เมื่อพระเจ้าโฮร์มิซด์สวรรคต เหล่าขุนนางได้จับพระโอรสของพระองค์จองจำและยกบัลลังก์ให้พระโอรสอีกคนที่ยังไม่เกิด โดยตั้งชื่อให้ล่วงหน้าว่าพระเจ้าชาปูร์ที่ 2 ทารกในครรภ์ได้รับการทำพิธีแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ด้วยการวางมงกุฎลงบนครรภ์ของมารดา

ใกล้เคียง

จักรวรรดิออตโตมัน จักรวรรดิบริติช จักรวรรดิญี่ปุ่น จักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรวรรดิมองโกล จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จักรวรรดิรัสเซีย จักรวรรดิเยอรมัน จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล