ปัจจัยในการแพร่เชื้อ ของ ซูเปอร์สเปรดเดอร์

การแพร่กระจายของการติดเชื้อในชุมชนที่มีสมาชิกที่ได้รับวัคซีนภูมิคุ้มกันและที่ไม่ได้รับวัคซีน

มีการระบุว่าสิ่งขับถ่ายของซูเปอร์สเปรดเดอร์มีจำนวนเชื้อโรคที่สูงกว่าปกติในช่วงเวลาที่ติดเชื้อ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้รับเชื้อติดต่อจากพวกเขาจะสัมผัสกับไวรัส/แบคทีเรีย ในปริมาณที่สูงกว่าที่จะพบในการรับเชื้อติดต่อจากผู้ที่ไม่ได้เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ในการระบาดของโรคภายในช่วงเวลาเดียวกัน[7]

ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐาน

ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐาน R0 คือจำนวนเฉลี่ยของการติดเชื้อทุติยภูมิที่เกิดจากผู้ติดเชื้อทั่วไปในประชากรที่อ่อนไหวทั้งหมด[8] ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐานหาค่าได้โดยทำการ คูณค่าเฉลี่ยจำนวนผู้สัมผัสรับเชื้อ กับค่าเฉลี่ยความน่าจะเป็นที่บุคคลที่มีความไวต่อการติดเชื้อจะติดเชื้อ ซึ่งจะถูกเรียกว่าศักยภาพการแพร่กระจาย

R0 = จำนวนผู้สัมผัสรับเชื้อ × ศักยภาพการแพร่กระจาย[2]

ค่าระดับการติดเชื้อรายบุคคล

ค่าระดับการติดเชื้อรายบุคคลแสดงถึงจำนวนของการติดเชื้อทุติยภูมิ ที่เกิดจากบุคคลที่เฉพาะเจาะจงในช่วงเวลาที่บุคคลนั้นติดเชื้อ บุคคลบางคนมีค่าระดับการติดเชื้อรายบุคคลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และเป็นที่รู้จักกันในนามซูเปอร์สเปรดเดอร์ จากการติดตามการสัมผัสติดต่อ นักระบาดวิทยาได้ระบุซูเปอร์สเปรดเดอร์ในโรคหัด, วัณโรค, หัดเยอรมัน, ฝีดาษลิง, ไข้ทรพิษ, ไข้เลือดออกอีโบลา และโรคซาร์ส[2][9]

การติดเชื้อร่วมกับเชื้อโรคอื่น

ในชายหลายคนที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งติดเชื้อร่วมกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ อย่างน้อยหนึ่งอย่างเช่น โรคหนองใน, ไวรัสตับอักเสบซี และไวรัสเริม พบว่ามีอัตราการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีสูงกว่าถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ติดเชื้อร่วม อัตราการแพร่กระจายนี้คำนวณในผู้ชายที่มีปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวี ใกล้เคียงกัน เมื่อการรักษาการติดเชื้อร่วมเสร็จสิ้น อัตราการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวีก็กลับสู่ระดับที่เทียบเท่ากับผู้ที่ไม่มีการติดเชื้อร่วม[10][11]

การขาดภูมิคุ้มกันในประชากร

ภูมิคุ้มกันในกลุ่มประชากร หรือภูมิคุ้มกันหมู่ หมายถึงการป้องกันทางอ้อมที่สมาชิกในชุมชนที่ได้รับภูมิคุ้มกันให้กับสมาชิกที่ไม่ได้รับภูมิคุ้มกัน ในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อ ยิ่งมีจำนวนผู้มีภูมิคุ้มกันมากเท่าไหร่โอกาสที่การระบาดจะเกิดขึ้นก็น้อยลง เนื่องจากมีความไวต่อการติดเชื้อน้อยกว่า ในวิทยาการระบาด การปรากฏของภูมิคุ้มกันหมู่เป็นที่ทราบกันว่าเป็นผลสืบเนื่องภายหลังจากช่วงเวลาของการแพร่เชื้อ โดยเชื้อโรคได้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้รอดชีวิตส่งผ่านสู่ประชากรที่ไวต่อการติดเชื้อ ทำให้จำนวนผู้ที่ไวต่อการติดเชื้อลดลง แม้ว่าจะยังคงมีบุคคลที่ไวต่อการติดเชื้ออยู่ก็ตาม การสัมผัสเชื้อของพวกเขามีแนวโน้มที่จะได้รับภูมิคุ้มกัน ซึ่งป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อต่อไป[7][12] สัดส่วนของบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันในประชากรที่สูงกว่าที่โรคไม่อาจจะคงแพร่อยู่อีกต่อไป คือขีดเริ่มของภูมิคุ้มกันหมู่ ค่าของมันจะแตกต่างกันไปตามความรุนแรงของโรค, ประสิทธิภาพของวัคซีน และตัวแปรการสัมผัสเชื้อของประชากร[13] ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการระบาดจะไม่เกิดขึ้น แต่จะถูกจำกัด[12][14][15]

ใกล้เคียง

ซูเปอร์เซ็นไตซีรีส์ ซูเปอร์แมน ซูเปอร์จูเนียร์ ซูเปอร์ไบค์เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ซูเปอร์แดนเซอร์ออนไลน์ ซูเปอร์วิงส์ เหินฟ้าผู้พิทักษ์ ซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 51 ซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 50 ซูเปอร์สเปรดเดอร์ ซูเปอร์จิ๋ว

แหล่งที่มา

WikiPedia: ซูเปอร์สเปรดเดอร์ http://www.afpbb.com/articles/-/3030499 http://www.bbc.com/news/health-38955871 http://www.latimes.com/science/sciencenow/la-sci-s... http://adsabs.harvard.edu/abs/2005Natur.438..293G http://adsabs.harvard.edu/abs/2005Natur.438..355L http://www.ecdc.europa.eu/ //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1758225 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3322930 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/10615314 //www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15030693