เมนูนำทาง
พระเจ้าซาร์บอริสที่_3_แห่งบัลแกเรีย ต้นรัชกาลบัลแกเรียในรัชสมัยของพระเจ้าซาร์เฟอร์ดินานด์ ทรงประสบความล้มเหลวทางด้านการทหาร ได้แก่
ประชาชนชาวบัลแกเรียได้หมดความศรัทธาในพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ ในที่สุดพระองค์ได้สละราชบัลลังก์ ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2461 เจ้าชายบอริสได้ครองราชสมบัติ พระนามว่า พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 แห่งบัลแกเรีย
มีทรงครองราชย์ลางร้ายเริ่มเกิดขึ้น พระองค์ทรงถูกแยกจากพระราชวงศ์ พระองค์ทรงไม่ได้พบกับพระขนิษฐาทั้ง 2 พระองค์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2464 และไม่ได้พบกับพระอนุชาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2469 ผลผลิตไม่ดีในปีพ.ศ. 2460 และพ.ศ. 2461 เกิดพวกฝ่ายซ้ายคือ สหภาพอกราเรียนและพรรคคอมมิวนิสต์บัลแกเรีย อย่างไรก็ตามพวกฝ่ายซ้ายได้ถูกกำจัดในปีพ.ศ. 2462 และยังคงระบอบกษัตริย์ไว้
1 ปีหลังจากทรงครองราชสมบัติ อเล็กซานเดอร์ สแตมบอลิยิสกี้จากพรรคสหภาพประชาชนบัลแกเรียได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าเขาจะได้รับคะแนนนิยมจากเหล่าเกษตรกรและชนชั้นกรรมาชีพ นายกรัฐมนตรีแสดงตนต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน ในไม่ช้าประธานคณะมนตรีได้จัดตั้งเผด็จการชาวนาขึ้นมาและแสดงตนเป็นปริปักษ์กับเหล่าผู้นำกองทัพระดับสูงและคนชนชั้นกลาง
พระเจ้าซาร์ทรงพยายามให้นายกรัฐมนตรีควรมีความเคารพ พระองค์ทรงพยายามเตือนถึงความทะเยอทะยานของสแตมบอลิยิสกี้ว่ายังคงมีกษัตริย์อยู่แต่ไม่มีอำนาจปกครอง พระองค์ทรงบอกความลับแก่พระญาติว่า "ฉันพบว่าตัวเองนั้นอยู่ในตำแหน่งเพียงเจ้าของร้านเครื่องแก้ว ที่ซึ่งเรานำช้างมา ซึ่งทำให้เกิดเศษกระด้างและสนับสนุนความเสียหาย"
ท้ายที่สุดในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2466 การรัฐประหารกลายเป็นสิ่งเลวร้ายและฝ่ายค้านรัฐบาลอกราเรียน หนึ่งในผู้นำการรัฐประหารบัลแกเรีย พ.ศ. 2466 อเล็กซานเดอร์ ซานคอฟ และจัดตั้งรัฐบาลเผด็จการขึ้นมาใหม่
ระหว่างรัฐบาลนี้เสถียรถาพของประเทศเริ่มดีขึ้น ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2466 เกิดการลุกฮือในเดือนกันยายนโดยฝ่ายคอมมิวนิสต์ล้มเหลว จึงเริ่มต้นยุคสมัย"หวาดกลัวขาว" ที่ซึ่งผู้ก่อการร้ายและผู้สนับสนุนกลายเป็นเหยื่อมากกว่า 20,000 คน นักการเมืองกว่า 200 คนถูกลอบสังหาร
ในขณะเดียวกันกรีซได้ประกาศสงครามกับบัลแกเรียจากเหตุการณ์ที่เพทริคที่เป็นกรณีพิพาทกัน และกรีซก็ได้รับการสนับสนุนจากสันนิบาตชาติ ซึ่งกรีซสามารถยึดครองเพทริคได้
ในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2468 พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 และพระสหายสี่คนได้กลับจากการล่าสัตว์ที่อราโบคอนัก ใกล้เมืองโอฮานี ในขณะที่ทางกลับ ทรงได้ยินเสียงกระสุนปืนจำนวนมาก คนเฝ้าสัตว์ป่าและพนักงานพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติถูกสังหาร กระสุนปืนทำให้คนขับรถได้รับบาดเจ็บ พระเจ้าบอริสทรงควบคุมรถไว้ได้แต่รถพระที่นั่งได้พุ่งชนกับเสา โชคดีที่มีรถบัสผ่นมาทำให้พระองค์และพระสหายอีกสองคนหลบหนีมาได้ และในวันเดียวกันอดีตนายพลและผู้แทนราษฎร คอนสแตนติน จอร์เจียฟ ได้ถูกลอบสังหาร
3 วันต่อมาที่มหาวิหารสเวตา-นาเดลยาในกรุงโซเฟีย มีพิธีฝังศพอดีตนายพลอาวุโสคอนสแตนติน จอร์เจียฟ ที่ซึ่งมีข้าราชการระดับสูงบัลแกเรียเข้าร่วมพิธีมากมาย เหล่าคอมมิวนิสต์และพวกอนาธิปัตย์ได้วางแผนที่จะฝังระเบิดที่มหาวิหารสเวตา-นาเดลยา เพื่อปลงพระชนม์พระเจ้าบอริสที่ 3 และสังหารคณะรัฐบาล ได้เกิดการระเบิดขึ้นในช่วงกลางพิธีและมีผู้เสียชีวิต 128 คน ซึ่งรวมทั้ง นายกเทศมนตรีแห่งโซเฟีย,นายพลทั้ง 11 คน,ข้าราชการระดับสูง 25 คน,หัวหน้ากองตำรวจและเหล่าเยาวชนหญิงที่เข้าร่วมพิธี พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 ซึ่งต้องเข้าร่วมพิธี บังเอิญในวันนั้นพระองค์ทรงมาสายเพราะทรงไปร่วมพิธีฝังศพพระสหายฮันเตอร์ ผู้ร่วมแผนการระเบิดครั้งนี้ถูกจับ 3,194 คน ถูกประหาร 268 คน
เมนูนำทาง
พระเจ้าซาร์บอริสที่_3_แห่งบัลแกเรีย ต้นรัชกาลใกล้เคียง
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถแหล่งที่มา
WikiPedia: พระเจ้าซาร์บอริสที่_3_แห่งบัลแกเรีย http://www.findagrave.com/cgi-bin/fg.cgi?page=gr&G... http://stara-sofia.com/dvorec.html http://en.wikipedia.org/wiki/Boris_III_of_Bulgaria