อำนาจเต็มแห่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ของ พระเจ้าซาร์บอริสที่_3_แห่งบัลแกเรีย

ขึ้นสู่อำนาจ

พระเจ้าซาร์บอริสที่ 3 และเจ้าชายคิริล พระอนุชา

บัลแกเรียในยุคนี้เป็นยุคที่ต่างจากยุคอื่นมาก ถ้าสถานการณ์ความรุนแรงในประเทศสูงขึ้น จะส่งผลให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจจนถึงขั้นวิกฤต ผลผลิตลดลงถึง 40% ในเวลาเพียง 2 ปีและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นถึง 200,000 คนจากประชากรทั้งหมด 7 ล้านคน ได้มีการเลือกตั้งในปีพ.ศ. 2474 ประชาชนผิดหวังมากเพราะบุคคลที่เลือกไปไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ในการเลือกตั้งสภาเทศบาลในปีพ.ศ. 2475 พรรคคอมมิวนิสต์ได้คะแนนเสียงในเมืองหลวงโซเฟียแต่สภาถูกสลายอย่างรวดเร็วโดยรัฐบาล

สถานการณ์แย่ลงทุกวัน กลุ่มปัญญาชนและกลุ่มทหารซเวโน ได้ทำการรัฐประหารในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 พันเอกดาเมียน วาลเชฟและพันเอกจอร์เจียฟ คิมอน เป็นผู้ดำเนินการ พระเจ้าซาร์บอริสทรงถูกบีบบังคับให้ลงพระนามยอมรับรัฐบาลใหม่ รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเผด็จการทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและได้ประกาศเป็นศัตรูกับราชสำนักและสนับสนุนการจัดตั้งสาธารณรัฐ

พระเจ้าซาร์บอริสตัดสินใจที่จะนำอำนาจมาไว้ในพระหัตถ์ ในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2478 8 เดือนหลังจากจอร์เจียฟยึดอำนาจ พระเจ้าซาร์ได้แต่งตั้งนายพลเพนโช สลาเตฟ ทำหน้าที่ "ล่าพวกสาธารณรัฐ" และปฏิรูปรัฐบาลใหม่ พระองค์ได้เข้ามาในการเมือง ทำให้พระองค์ได้อำนาจที่แท้จริงในการปกครอง

การจัดตั้งพระราชอำนาจเผด็จการ

การครองอำนาจของพระเจ้าซาร์บอริสในช่วงต้น เป็นการก่อจั้งรัฐบาลของจอร์เจียฟ คิมอน รัฐบาลชุดใหม่นั้ได้ประกอบด้วย 3 นายพล ,สมาชิกจากพรรคต้องห้ามทั้ง 3 คือ พรรคเกษครกร,พรรคประชาธิบไตยแลสกอวอร์และพรรคAgreement และสมาชิกจาก 3 คณะพลเรือน

พระเจ้าซาร์ทรงลดอำนาจและบทบาททางการทหาร พระองค์ได้เสริมสร้างอำนาจแก่พระองค์เองและจัดตั้งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แผนใหม่ ซึ่งคือ เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบเผด็จการทหาร กลุ่มทหารซเวโนและรับอบรัฐสภาแบบดั้งเดิม

ในฤดูใบไม้ร่วง พ.ศ. 2479 เสรีภาพแห่งฝูงชนและสิทธิในการรวมกลุ่มทางการเมืองได้รับการฟื้นฟูแต่เสรีภาพในการตั้งพรรคการเมืองยังคงห้าม การเลือกตั้งเทศบาลพ.ศ. 2480 ได้ให้สิทธิการลงคะแนนเสียงแก่สตรีที่สมรสแล้วและเยาวชน ในปีพ.ศ. 2481 สมัชชาแห่งชาติบัลแกเรียได้รับการฟื้นฟูและมีการเลือกตั้งขึ้น แต่สมัชชาไม่ได้มีอำนาจที่แท้จริง ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของพระเจ้าซาร์บอริส ดังนั้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2481 พระองค์ปฏิเสธที่จะไว้วางใจคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี จอร์กี คียอเซอิวานอฟ ทำให้เขาจำเป็นต้องปรับคณะรัฐมนตรีของเขา


ใกล้เคียง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ