เมนูนำทาง
วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา_2019 วัคซีนจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม ประเทศ 17 ประเทศ[upper-alpha 2]และสหภาพยุโรป[99]ได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคคือ tozinameran เป็นการฉุกเฉินบาห์เรนยังอนุมัติให้วางตลาดขายฉุกเฉินสำหรับวัคซีน BBIBP-CorV ของบริษัทไซโนฟาร์ม[83]โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อมาก็ได้ทำเช่นกัน[84]ในสหราชอาณาจักรจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม คน 138,000 คนได้รับ tozinameran ในอาทิตย์แรกของโปรแกรมการฉีดวัคซีนของประเทศ[100]ในวันที่ 11 ธันวาคม 2020 องค์การอาหารและยาสหรัฐได้อนุญาตให้ใช้ tozinameran เป็นการฉุกเฉิน[101]อีกอาทิตย์ต่อมา ก็ให้อนุญาตเช่นกันกับวัคซีน mRNA-1273 ของบริษัทโมเดิร์นา จึงเป็นประเทศแรกที่อนุญาตให้ใช้วัคซีน 2 อย่างเป็นการฉุกเฉิน[102][103][104]
เซพีจัดระยะการพัฒนาวัคซีนเป็นสามกลุ่ม คือ (1) ระยะการสำรวจ (exploratory) คือการวางแผนและออกแบบวัคซีนโดยไม่มีการประเมินในสิ่งมีชีวิต (2) พรีคลินิก (preclinical) คือการประเมินในสิ่งมีชีวิตและเตรียมตัวผลิตสารประกอบเพื่อจะทดสอบในมนุษย์ หรือ (3) ที่เริ่มทดสอบความปลอดภัยในมนุษย์อาสาสมัครที่สุขภาพดีระยะที่ 1 แล้ว[27]จนถึงกลางเดือนกันยายน มีวัคซีนแคนดิเดต 321 อย่างที่ได้ยืนยันแล้วว่ากำลังทดลองทางคลินิก หรือว่าเป็นโปรเจ็กต์สำรวจหรือพรีคลินิก[27]
การทดลองระยะที่ 1 โดยหลักทดสอบความปลอดภัยและขนาดยาเป็นเบื้องต้นโดยให้ยาแก่อาสาสมัครสุขภาพดีเป็นสิบ ๆ คน ระยะที่ 2 ซึ่งทำหลังประสบความสำเร็จในระยะที่ 1 จะตรวจปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกัน, ขนาดของยา (คือตรวจประสิทธิศักย์โดยใช้ค่าวัดของสารบ่งชี้ทางชีวภาพ คือ biomarker) และผลที่ไม่พึงประสงค์ ปกติทำกับคนเป็นร้อย ๆ คน[105][106]การทดลองระยะ 1-2 ทดสอบความปลอดภัยและการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในเบื้องต้นโดยจะกำหนดขนาดที่ได้ผลให้แม่นยำด้วย[106]ส่วนการทดลองระยะที่ 3 ปกติจะมีอาสาสมัครมากกว่า มีกลุ่มควบคุม และทดสอบประสิทธิผลป้องกันโรคของวัคซีน (เป็นการทดลองแบบแทรกแซง คือ interventional) และจะเฝ้าสังเกตผลที่ไม่พึงประสงค์เมื่อใช้ขนาดยาที่ดีสุด[105][106]นิยามของความปลอดภัยของวัคซีน ประสิทธิศักย์ จุดยุติทางคลินิก (clinical endpoint) ในการทดลองระยะที่ 3 อาจต่างกันระหว่างบริษัทต่าง ๆ เช่นการนิยามระดับผลข้างเคียง การติดเชื้อ หรือการแพร่เชื้อ และว่า วัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิดแบบรุนแรงหรือแบบปานกลาง[107][108][109]
วัคซีนแคนดิเดต ผู้พัฒนา/ผู้ให้ทุน | เทคโนโลยี | ระยะทดลองในปัจจุบัน (จำนวน) รูปแบบการทดลอง | ระยะทดลองที่เสร็จแล้ว[lower-alpha 1] (จำนวน) การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน/ผลไม่พึงประสงค์ | อนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉิน[lower-alpha 2] | อนุมัติให้ใช้ทั่วไป |
---|---|---|---|---|---|
Ad5-nCOV (Convidicea) แคนไซโนไบโอลอจิกส์, Beijing Institute of Biotechnology of the Academy of Military Medical Sciences[110] | เวกเตอร์เป็นอะดีโนไวรัสลูกผสมเซโรไทป์ 5[lower-alpha 3] | ระยะ 3(40,000) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก อำพรางทั้งสองฝ่าย ทำหลายศูนย์ทั่วโลก เพื่อตรวจประสิทธิศักย์ ความปลอดภัย และการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน แหล่ง: จีน อาร์เจนตินา ชิลี[111] เม็กซิโก[112] ปากีสถาน[113] รัสเซีย[110] ซาอุดีอาระเบีย[114][115] ช่วงเวลา: มี.ค. – ธ.ค. 2020 (จีน), ก.ย. 2020 – ธ.ค. 2021 (ปากีสถาน), ก.ย. 2020 – พ.ย. 2020 (รัสเซีย)[110] | ระยะ 2(508) ก่อสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์และการตอบสนองของลิมโฟไซต์ชนิด T cell ผลไม่พึงประสงค์ - ร้อยละ 74 เป็นไข้ ปวด และล้า มีอาการพอสมควรภายใน 7 วัน[116] | อนุมัติ | |
AZD1222[lower-alpha 4][lower-alpha 5][122][123][124] | อะดีโนไวรัสของชิมแปนซีที่แปลงเพื่อใช้เป็นเวกเตอร์ (ChAdOx1) | ระยะ 3(30,000) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอกเพื่อตรวจประสิทธิศักย์ ความปลอดภัย และการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน[125] ผลบวกที่พบจากการวิเคราะห์ในระหว่างการทดลองได้ประกาศเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2020 แล้วตีพิมพ์ในวันที่ 8 ธ.ค. 2020[126] ประสิทธิศักย์ทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 70 มีพิสัยระหว่างร้อยละ 62-90 ขึ้นอยู่กับขนาดการให้ โดยมีโพรไฟล์ความปลอดภัยที่ทบทวนโดยผู้รู้เสมอกัน[126] | ระยะ 1-2(543) เกิดสารภูมิต้านทานต่อโปรตีน spike ของไวรัสโดยเฉพาะเมื่อถึงวันที่ 28 เกิดสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์หลังจากให้วัคซีนครั้งที่สองในวันที่ 56 ผลไม่พึงประสงค์ - อาสาสมัครเกินร้อยละ 60 เจ็บที่จุดฉีด ปวดหัว เป็นไข้ หนาวสะท้าน ปวดกล้ามเนื้อ และละเหี่ย ให้พาราเซตามอลแก่บางคนเพื่อเพิ่มความทนรับได้[129] | อนุมัติ | |
BBIBP-CorV[145] ไซโนฟาร์มคือ Beijing Institute of Biological Products และ Wuhan Institute of Biological Products | ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว (เพาะใน vero cell[upper-alpha 3]) | ระยะ 3(48,000) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก อำพรางทั้งสองฝ่าย ทำคู่ขนาน เพื่อตรวจความปลอดภัยและประสิทธิศักย์ในการป้องกันโรค การวิเคราะห์ภายในบริษัทของไซโนฟาร์มระบุว่าวัคซีนมีประสิทธิศักย์ป้องกันโรคร้อยละ 79 แหล่ง: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน จอร์แดน[149]อาร์เจนตินา[150] โมร็อกโก[151] และเปรู[152] ช่วงเวลา: ก.ค. 2020-ก.ค. 2021 | ระยะ 1-2(320) เกิดสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์ในวันที่ 14 หลังจากฉีดยา 2 ครั้ง ผลไม่พึงประสงค์ - เจ็บที่จุดฉีด เป็นไข้ โดยมีอาการเบาและจำกัด ไม่มีผลร้ายแรง[153] แหล่ง: จีน ช่วงเวลา: เม.ย. 2020-มิ.ย. 2020 | อนุมัติ | อนุมัติ |
BBV152 (Covaxin) Bharat Biotech, Indian Council of Medical Research | ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว | ระยะ 3(25,800) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางผู้สังเกตการณ์ มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก[161] แหล่ง: อินเดีย ช่วงเวลา: พ.ย. 2020-มี.ค. 2021 | กำลังเฝ้าตรวจ | ||
CoronaVac[163][164][165] ไซโนแว็ก | ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว | ระยะ 3(33,620) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางสองฝ่าย มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก เพื่อตรวจประสิทธิศักย์และความปลอดภัย ผลบวกจากการวิเคราะห์ในระหว่างการทดลองที่มีตัวอย่างน้อยได้ประกาศในตุรกีเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2020 โดยมีประสิทธิศักย์ร้อยละ 91[166] ต่อมาอินโดนีเซียประกาศผลเพิ่มในวันที่ 11 มกราคม 2021 โดยมีประสิทธิศักย์ร้อยละ 65.3[167] การทดลองในบราซิลพบประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อที่ออกอาการร้อยละ 50.4[168] | ระยะ 2(600) ขนาดน้อยกระตุ้นการสร้างสารภูมิคุ้มกันที่ร้อยละ 92 ขนาดมากกระตุ้นร้อยละ 98 หลังจาก 14 วัน ผลไม่พึงประสงค์ - อาการเบา เจ็บที่จุดฉีด[172] แหล่ง: จีน ช่วงเวลา: พ.ค. 2020 - | อนุมัติ | |
EpiVacCorona [ru][177] State Research Center of Virology and Biotechnology VECTOR (Vector) | วัคซีนใช้แอนติเจนแบบเพปไทด์[lower-alpha 6][177] | ระยะ 3(40,000) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก อำพรางทั้งสองฝ่าย เพื่อประเมินประสิทธิศักย์ การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน และความปลอดภัย แหล่ง: รัสเซีย[178] ช่วงเวลา: พ.ย. 2020-ธ.ค. 2021 | ระยะ 1-2(100) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก แบบธรรมดา (simple) เพื่อศึกษาความปลอดภัย ผลไม่พึงประสงค์ และการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน[177] แหล่ง: รัสเซีย ช่วงเวลา: ก.ค. 2020[177]-ก.ย. 2020[179] | อนุมัติ | |
Gam-COVID-Vac (สปุตนิก 5) Gamaleya Research Institute of Epidemiology and Microbiology | เวกเตอร์เป็นอะดีโนไวรัสที่ไม่ขยายพันธุ์ | ระยะ 3(40,000) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางสองฝ่าย มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก เพื่อตรวจประสิทธิศักย์ การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน และความปลอดภัย[182] ประสิทธิศักย์ของวัคซีนระบุว่าอยู่ที่ร้อยละ 91.4 อาศัยการวิเคราะห์ข้อมูล ณ จุดควบคุมสุดท้ายการทดลองทางคลินิก ประสิทธิศักย์ป้องกันโรคแบบรุนแรงเต็มร้อย[183] แหล่ง: รัสเซีย เบลารุส[184] อินเดีย[185][186] เวเนซุเอลา[187] สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[188] ช่วงเวลา: ส.ค. 2020-พ.ค. 2021 | ระยะ 1-2(76) การตอบสนองของสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์และ T Cell ผลไม่พึงประสงค์ - เจ็บที่จุดฉีด เป็นไข้ ปวดหัว อ่อนล้า และปวดข้อ/กล้ามเนื้อ[189] แหล่ง: รัสเซีย ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020[189]-ก.ย. 2020 | อนุมัติ | |
mRNA-1273[201][202] โมเดิร์นา, NIAID, BARDA, เซพี | การแพร่กระจายของอนุภาคนาโนที่เป็นลิพิดและมีเอ็มอาร์เอ็นเอที่ดัดแปลงนิวคลีโอไซด์[lower-alpha 7] | ระยะ 3(30,000) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมที่ใช้ยาหลอกเพื่อทดสอบประสิทธิศักย์ ความปลอดภัย และการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ผลบวกที่พบจากการวิเคราะห์ในระหว่างการทดลองได้ประกาศเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2020[203] แล้วตีพิมพ์วันที่ 30 ธ.ค. 2020 โดยรายงานประสิทธิศักย์ของวัคซีนที่ร้อยละ 94.1[204] แหล่ง: สหรัฐ ช่วงเวลา: ก.ค. 2020-ต.ค. 2022 | ระยะ 1-2(720)[205][206] เกิดสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์หลังจากให้วัคซีนสองครั้งโดยขึ้นอยู่กับขนาด ยังไม่ได้กำหนดว่ามีฤทธิ์ป้องกันนานเท่าไร ผลไม่พึงประสงค์ - เป็นไข้ ล้า ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ และเจ็บปวดที่จุดฉีด[207][208][209] แหล่ง: สหรัฐ ช่วงเวลา: มี.ค. 2020-พ.ย. 2021 | อนุมัติ | อนุมัติ |
Tozinameran[lower-alpha 8][85][223][224] ไบโอเอ็นเทค, ไฟเซอร์, Fosun Pharma | เอ็มอาร์เอ็นเอที่ดัดแปลงนิวคลีโอไซด์[lower-alpha 7] หุ้มด้วยอนุภาคนาโนที่เป็นลิพิด | ระยะ 3(43,448)[225] การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก ผลบวกที่พบจากการวิเคราะห์ในระหว่างการทดลองได้ประกาศเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2020[226] แล้วตีพิมพ์ในวันที่ 10 ธ.ค. 2020 โดยรายงานประสิทธิศักย์ทั่วไปถึงร้อยละ 95[227][228] | ระยะ 1-2(45) การตอบสนองของสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์ (neutralizing) และแบบ IgG ที่ยึดกับ RBD อย่างมีกำลัง ซึ่งเกิดสูงสุด 7 วันหลังให้วัคซีนซ้ำ โดย T cell แบบ CD4+ และ CD8+ ก็ตอบสนองอย่างเข้มแข็ง ยังไม่ได้ระบุว่าการป้องกันคงยืนนานเท่าไร ผลไม่พึงประสงค์ - เกิดอาการภูมิแพ้ซึ่งอันตรายถึงชีวิตในบุคคลที่ไว[231] อาการอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับขนาดยาโดยเกิดในระดับพอสมควร (moderate) รวมทั้งเจ็บปวดที่ที่ฉีด ล้า ปวดหัว หนาวสะท้าน เจ็บปวดกล้ามเนื้อและข้อ เป็นไข้[232] | อนุมัติ
| อนุมัติ |
วัคซีนแคนดิเดต ผู้พัฒนา/ผู้ให้ทุน | เทคโนโลยี | ระยะทดลองในปัจจุบัน (จำนวน) รูปแบบการทดลอง | ระยะทดลองที่เสร็จแล้ว[lower-alpha 1] (จำนวน) การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน/ผลไม่พึงประสงค์ | รอการอนุมัติ |
---|---|---|---|---|
Ad26.COV2.S[254][255] Janssen Pharmaceutica (ส่วนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน), BIDMC | เวกเตอร์อะดีโนไวรัสที่ไม่ขยายพันธุ์ (เซโรไทป์ 26) | ระยะ 3(40,000) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางสองฝ่าย มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก หยุดการทดลองชั่วคราวเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2020 เพราะอาสาสมัครคนหนึ่งป่วยโดยอธิบายไม่ได้[256] ต่อมาวันที่ 23 ต.ค. จอห์นสันแอนด์จอห์นสันจึงประกาศว่ากำลังเตรียมตัวดำเนินการทดลองต่อในสหรัฐ[257][258] แหล่ง: สหรัฐ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี โคลอมเบีย เม็กซิโก เปรู ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ และยูเครน ช่วงเวลา: ก.ค. 2020-2023 | ระยะ 1-2(1,045) เกิดสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์ต่อไวรัสในอาสาสมัครเกินร้อยละ 90 ในวันที่ 29 หลังจากได้วัคซีนโดสที่ 1 แล้วเกิดเต็มร้อยในวันที่ 57 โดยสารภูมิต้านทานก็เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะใช้วัคซีนขนาดไหนหรือในกลุ่มคนอายุเท่าไร ระดับสารภูมิต้านทานคงยืนจนถึงอย่างน้อยวันที่ 71[259] | เป็นการฉุกเฉิน |
NVX-CoV2373[262] Novavax, เซพี | อนุภาคโปรตีน spike ลูกผสมของไวรัสโควิด-19 บวกกับตัวเสริม | ระยะ 3(15,000) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางผู้สังเกตการณ์ มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก[263] แหล่ง: สหราชอาณาจักร อินเดีย (15,000)[264] สหรัฐ เม็กซิโก (30,000)[265] ช่วงเวลา: ก.ย. 2020-ม.ค. 2021 (สหราชอาณาจักร อินเดีย), ธ.ค. 2020-มี.ค. 2021 (สหรัฐ เม็กซิโก) | ระยะ 1-2(131) การตอบสนองของสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์และ IgG เมื่อใช้ตัวเสริมและหลังจากฉีดยาเพิ่ม ผลไม่พึงประสงค์ - อาการเกิดในระยะสั้นและเบา คือเจ็บที่จุดฉีด ปวดหัว ล้า และปวดกล้ามเนื้อ[266] | |
ZF2001 (RBD-Dimer)[1] Anhui Zhifei Longcom Biopharmaceutical Co. Ltd. | วัคซีนหน่วยย่อยโปรตีนลูกผสม[lower-alpha 9] | ระยะ 3(29,000) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยยาหลอก อำพรางทั้งสองฝ่าย[267] แหล่ง: จีน เอกวาดอร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน อุซเบกิสถาน[268][269] ช่วงเวลา: ธ.ค. 2020-เม.ย. 2022 | ระยะ 2(900) การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยยาหลอก อำพรางทั้งสองฝ่าย[270] แหล่ง: ฉงชิ่ง ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-ก.ย. 2021 | |
Zorecimeran (CVnCoV)[271] CureVac, เซพี | วัคซีนอาร์เอ็นเอ[272] | ระยะ 3(36,500)[273] ระยะ 2b/3 ทดสอบประสิทธิศักย์และความปลอดภัย ทำในศูนย์หลายศูนย์ แหล่ง: อาร์เจนตินา เบลเยียม โคลอมเบีย สาธารณรัฐโดมินิกัน ฝรั่งเศส เยอรมนี เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ ปานามา เปรู สเปน ช่วงเวลา: พ.ย. 2020 – ? | ระยะ 1-2(944)[271][274] ระยะ 1 (284): การทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม อำพรางผู้สังเกตการณ์บางส่วน โดยเพิ่มขนาดยา (dose-escalation) เพื่อทดสอบการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและผลที่ไม่พึงประสงค์ ระยะ 2a (660): การทดลองแบบมีกลุ่มควบคุม อำพรางผู้สังเกตการณ์บางส่วน ทำที่ศูนย์หลายศูนย์ เพื่อยืนยันขนาดยา | |
ZyCoV-D[275] Cadila Healthcare | พลาสมิดของดีเอ็นเอที่แสดงออกโปรตีน S ของไวรัสโควิด-19 | ระยะ 3(26,000)[276] แหล่ง: อินเดีย[277] ช่วงเวลา: ม.ค. 2021 – ? | ระยะ 1-2(1,000) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางทั้งสองฝ่าย มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก[278][279] แหล่ง: อินเดีย ช่วงเวลา: ก.ค. 2020-ม.ค. 2021 | |
CoVLP[280] Medicago, แกล็กโซสมิธไคลน์ | อนุภาคคล้ายไวรัสที่ได้จากพืช ใช้ดีเอ็นเอลูกผสม[lower-alpha 10] และใช้ตัวเสริม AS03 จากแกล็กโซสมิธไคลน์ | ระยะ 2-3(30,612) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางผู้สังเกตการณ์ มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก และ event-driven[282] แหล่ง: แคนาดา ช่วงเวลา: พ.ย. 2020-เม.ย. 2022 | ระยะ 1(180) เกิดสารภูมิต้านทานแบบกำจัดฤทธิ์ในวันที่ 42 หลังการฉีดยาครั้งที่ 1 (วันที่ 21 หลังฉีดยาครั้งที่ 2) ในระดับเป็น 10 เท่าของผู้รอดชีวิตจากการติดโรคโควิด[283][284] | |
IIBR-100(Brilife)[285] สถาบันวิจัยชีวภาพอิสราเอล | Recombinant vesicular stomatitis virus | ระยะ 2(1,000)[286] แหล่ง: อิสราเอล ช่วงเวลา: ธ.ค. 2020-ฤดูใบไม้ผลิ 2021 | ระยะ 1(80)[285] อาสาสมัคร (อายุ 18-55 ปี) จัดโดยสุ่มให้ได้รับวัคซีนหนึ่งครั้งในขนาดน้อย กลาง หรือมาก หรือได้น้ำเกลือ หรือได้รับวัคซีนสองโดสในขนาดน้อย หรือน้ำเกลือ ห่างกัน 28 วัน แหล่ง: อิสราเอล ช่วงเวลา: ต.ค.-พ.ย. 2020 | |
INO-4800[lower-alpha 11][287][288] Inovio Pharmaceuticals, เซพี, สถาบันสุขภาพแห่งชาติเกาหลี, International Vaccine Institute | พลาสมิดของดีเอ็นเอส่งด้วยวิธี electroporation[lower-alpha 12] | ระยะ 1-2(40) แหล่ง: สหรัฐ เกาหลีใต้ ช่วงเวลา: เม.ย. – พ.ย. 2020 | ยังคอยรายงานการทดลองระยะ 1 | |
ยังไม่ได้ตั้งชื่อ[291] Chinese Academy of Medical Sciences | ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว | ระยะ 1-2(942) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางทั้งสองฝ่าย มีกลุ่มควบคุมโดยใช้ยาหลอก ทำที่ศูนย์เดียว แหล่ง: เฉิงตู ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-ก.ย. 2021 | ||
AG0301-COVID19[292] AnGes Inc.[293], Japan Agency for Medical Research and Development | พลาสมิดของดีเอ็นเอ[lower-alpha 13] | ระยะ 1-2(30) การทดลองไม่สุ่ม ทำที่ศูนย์เดียว ให้ยาสองครั้ง แหล่ง: โอซากะ ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020 – ก.ค. 2021 | ||
Lunar-COV19/ARCT-021[294][295] Arcturus Therapeutics | วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ | ระยะ 1-2(92) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางทั้งสองฝ่าย แหล่ง: สิงคโปร์ ช่วงเวลา: ส.ค. 2020-? | ||
VLA2001[296][297] Valneva | ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว | ระยะ 1-2(150) การทดลองแบบสุ่ม อำพรางทั้งสองฝ่าย ทำที่ศูนย์หลายศูนย์ แหล่ง: สหราชอาณาจักร ช่วงเวลา: ธ.ค. 2020-ก.พ. 2021 | ||
COVID-19/aAPC[298] Shenzhen Genoimmune Medical Institute[299] | Lentiviral vector with minigene modifying aAPCs | ระยะ 1(100) แหล่ง: เมืองเชินเจิ้น ช่วงเวลา: มี.ค. 2020 – 2023 | ||
LV-SMENP-DC[300] Shenzhen Genoimmune Medical Institute[299] | Lentiviral vector with minigene modifying DCs | ระยะ 1(100) แหล่ง: เมืองเชินเจิ้น ช่วงเวลา: มี.ค. 2020-2023 | ||
LNP-nCoVsaRNA[301] หน่วย Medical Research Council Clinical Trials Unit ที่อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน | วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ | ระยะ 1(105) การทดลองระยะที่ 1 แบบสุ่มโดยทดลองเพิ่มขนาดยา (15) แล้วขยายเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย (อย่างน้อย 200) แหล่ง: สหราชอาณาจักร ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-ก.ค. 2021 | ||
GRAd-COV2[302][303] ReiThera, Lazzaro Spallanzani National Institute for Infectious Diseases | อะดีโนไวรัสของชิมแปนซีดัดแปลง (GRAd) เพื่อใช้เป็นเวกเตอร์ | ระยะ 1(90)[304] อาสาสมัคร (มี 2 กลุ่มแบ่งตามวัยคือ 18-55 ปีและ 65-85 ปี) จัดโดยสุ่มให้ได้รับวัคซีนซึ่งให้เพิ่มขึ้น ๆ หนึ่งในสามอย่าง หรือให้ยาหลอก แล้วตรวจติดตามเป็นเวลา 24 สัปดาห์ อาสาสมัครร้อยละ 92.5 ที่ได้วัคซีนเกิดสารภูมิต้านทาน แหล่ง: กรุงโรม ช่วงเวลา: ส.ค.-ธ.ค. 2020 | ||
GX-19[305][306] Genexine consortium[307], International Vaccine Institute | วัคซีนดีเอ็นเอ | ระยะ 1(40) แหล่ง: กรุงโซล ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-มิ.ย. 2022 | ||
SCB-2019[308][309] Clover Biopharmaceuticals[310], แกล็กโซสมิธไคลน์, เซพี | spike protein trimeric subunit with GSK adjuvant | ระยะ 1(150) แหล่ง: เมืองเพิร์ท ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-มี.ค. 2021 | ||
COVAX-19[311] Vaxine Pty Ltd[312] | โปรตีนจากยีนลูกผสม[lower-alpha 14] | ระยะ 1(40) แหล่ง: เมืองแอดิเลด ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-ก.ค. 2021 | ||
ไม่ได้ตั้งชื่อ[313] PLA Academy of Military Science, Walvax Biotech[314] | วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ | ระยะ 1(168) แหล่ง: จีน ช่วงเวลา: มิ.ย. 2020-ธ.ค. 2021 | ||
HGC019[315] Gennova Biopharmaceuticals, HDT Biotech Corporation[316] | วัคซีนอาร์เอ็นเอ | ระยะ 1(120)[317] แหล่ง: อินเดีย ช่วงเวลา: ม.ค. 2021- | ||
ไม่ได้ตั้งชื่อ[318] Biological E. Limited, Baylor College of Medicine[319] | ไวรัสโควิด-19 ที่ฆ่าแล้ว | ระยะ 1-2(360)[320] การทดลองแบบสุ่ม มีกลุ่มขนาน แหล่ง: อินเดีย ช่วงเวลา: พ.ย. 2020-ก.พ. 2021 | ||
SARS-CoV-2 Sclamp/V451[321][322] มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์, Syneos Health, เซพี, Seqirus (ส่วนของ CSL Limited) | โปรตีน spike ทำให้เสถียรด้วย molecular clamp บวกกับตัวเสริม MF59 | Terminated(120) การทดลองแบบสุ่มและใช้ยาหลอก อำพรางทั้งสองฝ่าย ตรวจหาขนาดยา ได้ผลบวกลวงเมื่อตรวจไวรัสเอชไอวีในอาสาสมัคร แหล่ง: บริสเบน ช่วงเวลา: ก.ค.-ต.ค. 2020 |
ในเดือนเมษายน องค์การอนามัยโลกแถลงการณ์โดยเป็นตัวแทนของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มต่าง ๆ ทั่วโลกว่าจะร่วมมือกันเพื่อเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด[323]โดยชักชวนองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งองค์กรที่กำลังพัฒนาวัคซีนแคนดิเดต องค์กรควบคุมและตั้งนโยบายของรัฐ ผู้ให้เงินทุน องร์กรสาธารณสุข และรัฐบาล ให้ร่วมมือกันเพื่อให้สามารถผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิผลได้โดยมีปริมาณเพียงพอในการแจกจำหน่ายให้แก่เขตต่าง ๆ ทั้งหมดของโลกโดยเฉพาะเขตที่ยากจน[20]
เมื่อวิเคราะห์ประวัติของอุตสาหกรรมพัฒนาวัคซีนก็พบว่า การพัฒนาจะล้มเหลวในอัตราร้อยละ 84-90[20][78]อนึ่ง เพราะโควิดเป็นไวรัสใหม่ มีลักษณะต่าง ๆ ที่ยังไม่ชัดเจนทั้งหมด และต้องใช้กลยุทธ์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาวัคซีน ทุก ๆ ขั้นตอนจึงเสี่ยงไม่สำเร็จสูงมาก[20]
เพื่อประเมินประสิทธิผลที่วัคซีนหนึ่ง ๆ อาจมี ก็จะต้องพัฒนาแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์และสัตว์จำลองซึ่งเฉพาะเจาะจงต่อโควิดที่ไม่เคยมีมาก่อน และสิ่งจำลองเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถทดสอบยืนยันกับลักษณะต่าง ๆ ของไวรัสที่ยังไม่ปรากฏ เป็นสิ่งที่ต้องร่วมกันทำโดยกำลังจัดตั้งในปี 2020[20]ในบรรดาวัคซีนแคนดิเดตที่ยืนยันแล้วว่ากำลังพัฒนา บริษัทเอกชนเป็นผู้พัฒนาในอัตราร้อยละ 70 ที่เหลือนักวิชาการ รัฐบาล และองค์กรสาธารณสุขเป็นผู้พัฒนา[27]
ผู้พัฒนาวัคซีนโดยมากเป็นบริษัทเล็ก ๆ หรือทีมนักวิจัยในมหาวิทยาลัยผู้มีประสบการณ์น้อยในการออกแบบวัคซีนให้ประสบความสำเร็จ มีทุนจำกัดเพื่อทำงานทดลองทางคลินิกที่ซับซ้อนและเพื่อผลิตวัคซีนถ้าไม่ได้บริษัทเภสัชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ข้ามชาติเป็นหุ้นส่วน[27][20]ผู้กำลังพัฒนาวัคซีนรวมองค์กรในสหรัฐและแคนาดาซึ่งทั้งสองรวมกันมีงานวิจัยวัคซีนที่แอ๊กถีฟเป็นอัตราร้อยละ 46 ทั้งหมดของโลก เทียบกับเอเชียที่ร้อยละ 36 รวมทั้งประเทศจีน และกับยุโรปที่ร้อยละ 18[20]
วัคซีนแคนดิเดตที่กำลังออกแบบหรือพัฒนาในระยะพรีคลินิกสำหรับโควิดอาจไม่ได้รับอนุมัติให้ศึกษาในมนุษย์ช่วงปี 2020 เพราะเป็นพิษ ไม่มีประสิทธิผลชักนำให้ภูมิคุ้มกันตอบสนอง หรือล้มเหลวในด้านต่าง ๆ ในสัตว์ทดลอง หรืออาจไม่มีทุนพอ[324][325]สำหรับโรคติดเชื้อ โอกาสประสบความสำเร็จของวัคซีนแคนดิเดตในการฝ่าอุปสรรคระยะพรีคลินิกแล้วเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ระยะที่ 1 อยู่ในอัตราร้อยละ 41-57[324]
ค่าใช้จ่ายของการทดลองเบื้องต้นในมนุษย์ค่อนข้างสูงสำหรับผู้พัฒนาวัคซีน ประเมินอยู่ที่ 14-25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 440-786 ล้านบาท)สำหรับโปรแกรมการทดลองระยะที่ 1 ทั่วไป แต่ก็อาจถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) ได้เหมือนกัน[324][326]เมื่อเปรียบเทียบกับโรคไวรัสอีโบลาที่ระบาดทั่วระหว่างปี 2013-2016 ซึ่งมีวัคซีนแคนดิเดต 37 ชนิดที่พัฒนาอย่างเร่งด่วน มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นวัคซีน โดยมีค่าใช้จ่ายเพื่อยืนยันประสิทธิผลในการทดลองระยะที่ 2-3 ประมาณพันล้านดอลลาร์สหรัฐ (35,292 ล้านบาท)[324]
วัคซีนบางชนิดมีผลที่ไม่เฉพาะเจาะจง (non-specific effects)คืออาจมีประโยชน์เกินนอกเหนือจากโรคที่ป้องกัน[327]
แม้อ้างว่า (มี.ค., มิ.ย. และ ก.ค.) อัตราการตายเหตุโควิดจะต่ำกว่าในประเทศที่ฉีดวัคซีนบีซีจีเพื่อป้องกันวัณโรคเป็นปกติ[328][329][330][331]แต่องค์การอนามัยโลกก็กล่าวในเดือนเมษายนว่า ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนนี้มีผลต้านโควิด[332]ในเดือนมีนาคม 2020 ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้เริ่มการทดลองวัคซีนบีซีจีแบบสุ่มเพื่อลดการติดโรคโควิดโดยรับแพทย์พยาบาล 1,000 คน[333]ออสเตรเลียก็ทดลองแบบสุ่มเช่นกันโดยรับแพทย์พยาบาล 4,170 คน[334][335]
การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมโดยยาหลอกเพื่อตรวจว่าวัคซีนเอ็มเอ็มอาร์ (ป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน) สามารถป้องกันแพทย์พยาบาลจากโรคโควิดจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2020 ที่กรุงไคโรโดยรับอาสาสมัคร 200 คน[336]
นักวิจัยได้ศึกษาวัคซีนบีซีจีอันอาจมีผลที่ไม่เฉพาะเจาะจง (non-specific effects) เป็นการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากสังเกตการณ์ว่าอัตราตายและความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่าในประเทศกำลังพัฒนา (ที่มักใช้วัคซีนนี้)แต่องค์การอนามัยโลกก็เตือนว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจมีผลต่อข้อสังเกตเช่นนี้เช่น อัตราการตรวจโรคโควิดและภาระโรค (disease burden)[337]ในการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม วัคซีนนี้พบว่ามีผลไม่เฉพาะเจาะจงเป็นการป้องกันการติดเชื้อทางลมหายใจอื่น ๆ[338]
ปัจจุบัน ยังไม่มีหลักฐานพอสนับสนุนข้อสรุปว่า วัคซีนบีซีจีมีประสิทธิภาพป้องกันโควิด[339]ในเดือนตุลาคม มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ (อังกฤษ) ประกาศการทดลองนานาชาติขนาดใหญ่เพื่อศึกษาว่า การให้วัคซีนบีซีจีสามารถลดอันตรายของโควิดต่อบุคลากรทางแพทย์หรือไม่[340][341]ซึ่งเนเธอร์แลนด์ก็ประกาศเช่นเดียวกันในเดือนพฤษภาคมก่อนหน้านั้น[338]
จนถึงเดือนกันยายน 2020 วัคซีนแคนดิเดต 11 อย่างที่อยู่ในระยะการทดลองทางคลินิกใช้ตัวเสริมเพื่อเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน[27]ตัวเสริม หรือ immunological adjuvant เป็นสารที่เลือกใช้กับวัคซีนเพื่อเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจน เช่นต่อไวรัสโควิดหรือไข้หวัดใหญ่[342]ตรง ๆ ก็คือ ตัวเสริมอาจใช้กับวัคซีนโควิดเพื่อเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันและเพิ่มประสิทธิศักย์ในการลดหรือป้องกันการติดเชื้อโควิดในบุคคลที่ได้วัคซีน[342][343]ตัวเสริมอาจมีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในเทคโนโลยีที่ใช้ไวรัสโควิดที่ฆ่าแล้ว (inactivated) ในวัคซีนโปรตีนที่ได้จากยีนลูกผสม (recombinant protein) หรือในวัคซีนที่ใช้เวกเตอร์ (vector)[343]เกลืออะลูมิเนียม (aluminum salt, alum) เป็นตัวเสริมแรกที่ใช้ในวัคซีนซึ่งได้อนุมัติ โดยเลือกใส่ในวัคซีนที่ใช้ตัวเสริมเกินร้อยละ 80[343] และได้ใช้มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1920เป็นสารที่เริ่มกลไกทางโมเลกุลและเซลล์อย่างหลายหลากเพื่อเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน รวมทั้งการปล่อยไซโตไคน์ที่เสริมการอักเสบ[342][343]
เมนูนำทาง
วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา_2019 วัคซีนใกล้เคียง
วัคซีนโควิด-19 วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทค วัคซีนโควิด-19 ของออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า วัคซีนเชื้อลดฤทธิ์ วัคซีน วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา วัคซีนอาร์เอ็นเอ วัคซีนโควิด-19 สปุตนิกวี วัคซีนโควิด-19 BBIBP-CorV ของซิโนฟาร์ม วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแหล่งที่มา
WikiPedia: วัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา_2019 http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=5552... http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=5665... http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=6258... http://www.cloverbiopharma.com/index.php?m=content... http://scholar.google.com/scholar?q=Yasumura+Kawak... http://www.pmlive.com/pharma_news/gsk,_medicago_la... http://www.walvax.com/wosen/28.aspx http://xinhuanet.com/english/2021-01/03/c_13963778... http://www.fda.gov/ohrms/dockets/ac/00/backgrd/361... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14667748