อุทยานและสวน ของ วังเบลนิม

น้ำตกที่เกิดจากน้ำที่ไหลจากทะเลสาบ

ตัววังเบลนิมตั้งอยู่กลางอุทยาน สิ่งแรกที่แวนบรูห์เห็นภาพเมื่อเริ่มวางแผนวังในปี ค.ศ. 1704 ก็คือการออกแบบวังอันยิ่งใหญ่ โดยมีอุทยานใหญ่และมีลำธารเล็กใหลเลื้อยอยู่ท่ามกลางโดยมีสะพานที่สวยที่สุดในยุโรปข้าม ซึ่งขัดกับความคิดของคริสโตเฟอร์ เร็นที่ว่าควรจะแบ่งสายน้ำให้เป็นสามสายโดยมีสะพานเด่นใหญ่อยู่ตรงกลางที่ใหญ่พอที่จะจุห้องได้สามสิบห้อง สะพานนี้ใหญ่โตจนอเล็กซานเดอร์ โปปค่อนว่า

รู้สึกในบุญคุณของดัชเชส ปลาน้อยๆ เมื่อว่ายผ่านภายใต้สะพานโค้งใหญ่คงกระซิบกันว่าสะพานนี้คงใหญ่เช่นวาฬ "

แผนอุทยานอีกแผนหนึ่งของแวนบรูห์ก็คือการสร้างแปลงดอกไม้ (Parterre) ที่ยาวเกือบครึ่งไมล์และกว้างเท่ากับด้านใต้ นอกจากนั้นภายในอุทยานยังเป็นที่ตั้งของเสาแห่งชัยชนะของดยุกแห่งมาร์ลบะระ ที่มาสร้างภายหลังจากที่ท่านถึงแก่อสัญญกรรมไปแล้ว เสาที่ว่านี้สูง 134 ฟุตตั้งอยู่ตอนปลายถนนต้นเอ็ลมที่นำไปสู่ตัววัง แวนบรูห์ตั้งใจจะสร้างเสาโอบิลิสค์ (Obelisk) ให้เป็นที่หมายของวังเดิมที่เป็นของสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ซึ่งทำให้ดัชเชสกล่าวค่อนว่าถ้าขืนสร้างเสาโอบิลิสค์ให้เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ต่างๆ บ้านเมืองก็เห็นจะเต็มไปด้วยของแปลกๆ ฉะนั้นแวนบรูห์จึงไม่ได้สร้างเสาโอบิลิสค์ตามที่ตั้งใจเอาไว้

เสาแห่งชัยชนะของดยุกแห่งมาร์ลบะระ

ภายหลังที่ดยุกแห่งมาร์ลบะระถึงแก่อสัญญกรรมไปแล้วดัชเชสก็เพิ่มการลงแรงลงใจกับการสร้างวังเบลนิมให้เสร็จสิ้น ตัวอุทยานเกือบมิได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดตั้งแต่ลานเซลอต บราวน์ หรือ “บราวน์ผู้สามารถ” สร้างไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1764 ดยุกที่ 4 แห่งมาร์ลบะระ จ้างบราวน์ให้ออกแบบปรับปรุงอุทยานเป็นอุทยานแบบภูมิทัศน์ (Landscape Garden) โดยการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นและสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่ทำให้สวนงามขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทะเลสาบใหญ่ที่สร้างโดยการกักน้ำจากแม่น้ำ

จากทะเลสาบก็เป็นน้ำตกเป็นระยะๆ ทะเลสาบมาคอดตรงสะพานใหญ่ที่แวนบรูห์สร้างไว้และลำน้ำที่แต่เดิมเป็นสามสายมารวมกันกลายเป็นสายเดียว ความใหญ่โตของทะเลสาบเกิดจากการที่ลานเซลอต บราวน์จมชั้นล่างๆ ของสะพานลงไปในทะเลสาบซึ่งทำให้สะพานที่เคยใหญ่โตเตี้ยลง ภูมิทัศน์ซึ่งกลายมาเป็นลักษณะสำคัญของอุทยานภูมิทัศน์ของอังกฤษต่อมา นอกจากนั้นลานเซลอต บราวน์ก็ยังได้ปูหญ้าเป็นส่วนใหญ่บนส่วนที่เคยเป็นแปลงดอกไม้ และลานหน้าวัง แต่ลานหน้าวังมาถูกปูด้วยหินเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ต่อมาโดยดยุกที่ 5 แห่งมาร์ลบะระ ก็ตกแต่งสวนเพิ่มโดยการเพิ่มสิ่งก่อสร้างตกแต่งที่ทำให้ผู้มาเยือนสวนตื่นเต้นสนุกสนาน เช่นท่อนไม้ที่อยู่ดีๆ ก็กลิ้งข้ามสนามได้เป็นต้น

สถาปนิกเซอร์วิลเลียม เชมเบอร์สและผู้ช่วย จอห์น เย็นเป็นผู้สร้างกระท่อมฤดูร้อนที่เรียกว่า "เทวสถานไดแอนนา" บนฝั่งทะเลสาบซึ่งเป็นที่ที่วินสตัน เชอร์ชิลขอ เคลเม็นไทน์แต่งงานเมื่อปี ค.ศ. 1908 แต่สวนแบบอิตาลีและสวนน้ำออกแบบโดยดูเชนและดยุกแห่งมาร์ลบะระที่ 9 ทั้งหมด