สมาพันธรัฐไอร์แลนด์ (
ละติน: Hiberni Unanimes
อังกฤษ: Confederate Ireland หรือ Union of the Irish) เป็นช่วงเวลาที่ชาวไอริชซึ่งนับถือ
นิกายคาทอลิก ได้ปกครองตนเองระหว่าง ค.ศ. 1642 ถึง ค.ศ. 1649 ระหว่าง
สงครามสิบเอ็ดปี ในช่วงนี้ สองในสามของไอร์แลนด์ถูกปกครองโดย
สมาพันธรัฐคาทอลิกไอร์แลนด์ (
อังกฤษ: Irish Catholic Confederation
ไอริช: Cónaidhm Chaitliceach na hÉireann) หรือรู้จักกันอีกชื่อหนึ่งว่า
สมาพันธรัฐคิลล์เคนนี (
อังกฤษ: Confederation of Kilkenny) เพราะสมาพันธรัฐมีเมืองหลวงอยู่ที่
คิลล์เคนนี สมาพันธรัฐถูกก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มขุนนาง
เจ้าที่ดิน นักบวช และผู้นำทางทหารชาวไอริชที่นับถือนิกายคาทอลิก ภายหลัง
กบฎไอร์แลนด์ ค.ศ. 1641 (Irish Rebellion of 1641) ซึ่งมีทั้งผู้ที่เป็น
ชาวเกลล์และ
ชาวแองโกล–นอร์มัน กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการยุติความเกลียดชังนิกายคาทอลิกใน
ราชอาณาจักรไอร์แลนด์ สิทธิ์การปกครองตนเอง และยับยั้งการ
ตั้งถิ่นฐานของชาวโปรแตสแตนท์ พวกเขายังต้องการป้องกันไอร์แลนด์จากการรุกรานของ
ฝ่ายรัฐสภาและ
กลุ่มพันธสัญญาสกอต ซึ่งต่อต้านนิกายคาทอลิกและเป็นปรปักษ์กับ
พระเจ้าชาลส์ที่ 1 สมาชิกสมาพันธส่วนใหญ่ยังคงจงรักภักดีกับพระเจ้าชาลส์ และเชื่อว่าจะบรรลุข้อตกลงกับทางราชสํานักได้ก็ต่อเมื่อศัตรูของพระองค์ใน
สงครามกลางเมืองอังกฤษถูกกําราบลงแล้ว
[1] สมาพันธรัฐมีองค์กรเทียบเท่ารัฐสภา คือ "สมัชชาใหญ่" (General Assembly) และมีฝ่ายบริหาร เรียกว่า "อภิสภา" (Supreme Council) รวมไปถึงกองทัพเป็นของตนเอง สมาพันธยังสามารถผลิตเหรียญกษาปณ์ จัดเก็บภาษี และตั้งโรงพิมพ์ได้อีกด้วย
[1] นอกจากนี้สมาพันธรัฐยังมีการแต่งตั้งทูตและได้รับการรับรองจาก
ฝรั่งเศส สเปนและ
รัฐสันตะปาปา[1] ซึ่งช่วยสนับสนุนฝ่ายสมาพันธรัฐด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์กองทัพของสมาพันธต่อสู้กับทั้ง
ฝ่ายนิยมกษัตริย์ ฝ่ายรัฐสภา ชาวอัลสเตอร์โปรแตสเตนท์ และกองทัพของ
กลุ่มพันธสัญญาสกอต ซึ่งถูกส่งมายังอัลสเตอร์ กองกำลังเหล่านี้ยึดครองบริเวณ
เดอะเพล บางส่วนทางตะวันออกและทางเหนือของ
อัลสเตอร์ และอาณาเขตโดยรอบ
คอร์ก พระเจ้าชาลส์ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้เปิดการเจรจาลับกับฝ่ายสมาพันธรัฐ ส่งผลให้เกิดการสงบศึกระหว่างสมาพันธรัฐกับฝ่ายนิยมกษัตริย์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1643 และการเจรจาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ในปี ค.ศ. 1644
กองกําลังทหารของสมาพันธรัฐได้ขึ้นฝั่งที่สกอตแลนด์เพื่อช่วยสนับสนุนฝ่ายนิยมกษัตริย์ ขณะเดียวกันสมาพันธรัฐก็ยังรบกับฝ่ายรัฐสภาในไอร์แลนด์อย่างต่อเนื่อง และยังสามารถเอาชนะกลุ่มพันธสัญญาสกอตได้ที่
ยุทธการที่เบนเบอ (Battle of Benburb) เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1647 สมาพันธรัฐก็เริ่มเพลี่ยงพล้ำให้แก่ฝ่ายรัฐสภา เช่นการรบที่
ดุนแกนฮิลล์ (Dungan's Hill)
คาเซล (Cashel) และ
คน็อกนาส (Knocknanuss) ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทําให้สมาพันธรัฐยอมร่วมมือกับฝ่ายนิยมกษัตริย์ ความร่วมมือดังกล่าวก่อให้เกิดความแตกแยกภายในสมาพันธรัฐ และทําให้การป้องกันการรุกรานจากฝ่ายรัฐสภาล่าช้าลงเช่นกัน ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1649
กองทัพตัวแบบใหม่ซึ่งนําโดย
โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ได้
เข้ารุกรานไอร์แลนด์ เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1652 ครอมเวลล์ก็สามารถเอาชนะกองทัพผสมของฝ่ายนิยมกษัตริย์–สมาพันธรัฐได้อย่างเด็ดขาด ถึงแม้จะมีการทํา
สงครามกองโจรต่อไปอีกหลายปีก็ตาม