เมนูนำทาง
สารอาหารสำหรับพืช หน้าที่ของธาตุอาหารธาตุอาหารแต่ละตัวมีหน้าที่ต่างๆกัน[5]
พืชสร้างออกซิเจนขึ้นในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพื่อที่จะสร้างน้ำตาล แต่พืชก็ใช้ออกซิเจนในการกระบวนการหายใจเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลเป็น ATP
ฟอสฟอรัสเป็นส่วนสำคัญในระบบพลังงานของพืช เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ ATP.การขาดฟอสฟอรัสในพืช จะแสดงให้เห็นจาก การที่ใบพืชมีสีเขียวเข้มจัด ถ้าขาดรุนแรงใบจะผิดรูปร่างและแสดงอาการตายเฉพาะส่วน
โปแตสเซียมมีบทบาทในการควบคุมการเปิดปิดของรูใบสโตมา (Stoma) ดังนั้นโพแตสเซียมจึงช่วยลดการคายน้ำจากใบและเพิ่มความต้านทานสภาพแล้ง-สภาพร้อน-สภาพหนาวให้กับพืชได้การขาดโปแตสเซียม อาจทำให้เกิดการตายเฉพาะส่วน หรือเกิดการเหลืองระหว่างเส้นใบ (interveinal chlorosis)โพแตสเซียมสามารถละลายน้ำได้ดี จึงทำให้อาจโดยชะล้างออกไปจากดินโดยเฉพาะพื้นที่ลักษณะเป็นหินหรือทราย
ไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโปรตีนทุกชนิดการขาดไนโตรเจน ส่วนใหญ่แล้วจะแสดงออกมาโดยการชะงักการเติบโตของพืช การเติบโตช้า หรือว่าแสดงอาการใบเหลือง (chlorosis).ทั่วไปแล้ว ไนโตรเจนจะถูกดูดซึมเข้าทางดินในรูปของไนเตรต(NO-3)
กำมะถันเป็นส่วนประกอบโครงสร้างของกรดอะมิโนและไวตามีนหลายชนิด และจำเป็นในการกระบวนการสร้างคลอโรพลาสต์.แคลเซียมทำหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนย้ายของสารอาหารต่างๆเข้าสู่พืช และยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการทำงานของเอนไซม์พืชหลายชนิดการขาดแคลเซียม มีผลทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
แมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของคลอโรฟิลล์ และก็มีความสำคัญในกระบวนการสร้างATPโดยทำหน้าที่เป็นโคแฟกเตอร์ (enzyme cofactor).การขาดแมกนีเซียม อาจทำให้เกิดอาการเหลืองระหว่างเส้นใบ (interveinal chlorosis).
การขาดเหล็ก อาจทำให้เกิดอาการเหลืองตามเส้นใบ และ การตายเฉพาะส่วน
โมลิบดีนัมเป็นโคแฟกเตอร์ที่สำคัญสำหรับเอนไซม์ที่ใช้ในการสร้างกรดอะมิโนโบรอนทำหน้าที่สำคัญช่วยในการเชื่อมต่อของเพกตินเข้ากับRGII regionของผนังเซลล์หลัก และโบรอนยังทำหน้าที่ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล ในการแบ่งเซลล์ และในสร้างเอนไซม์หลายๆชนิดการขาดโบรอนทำให้เกิดการตายเฉพาะส่วนในใบใหม่และการชะงักการเติบโตของพืช
ทองแดงมีความสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสงการขาดทองแดงทำให้พืชแสดงอาการเหลือง (chlorosis)
แมงกานีสมีความสำคัญในการสร้างคลอโรพลาสต์การขาดแมกกานีส ทำให้พืชมีสีผิดเพี้ยน เช่น การมีจุดด่างบนใบ
โซเดียมเกี่ยวข้องกับการสร้างphosphoenolpyruvate]ของพืชที่เป็น CAM (Crassulacean acid metabolism plant) และ C4 (C4 carbon fixation plant)สังกะสีเป็นส่วนสำคัญสำหรับเอนไซม์หลายชนิดและเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการถอดรหัสพันธุกรรม (DNA transcription).การขาดสังกะสี โดยทั่วไปแล้วจะทำให้การเติบโตของใบชะงักงัน
สำหรับพืชมีท่อน้ำเลี้ยง (vascular plant) นิกเกิลมีความสำคัญในการทำงานของเอนไซม์ยูเรส (urease) ซึ่งพืชใช้ในการจัดการกับยูเรียสำหรับพืชไม่มีท่อน้ำเลี้ยง (non-vascular plant) นิกเกิลมีความสำคัญในการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด[6]คลอรีนมีความสำคัญในกระบวนการออสโมซิส (osmosis) และ การรักษาสมดุลของประจุ และยังทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสงด้วยชื่อธาตุอาหาร | สัญลักษณ์ | ปริมาณในพืช | หน้าที่ | ขาด/เกิน | อาการที่สังเกตได้ |
---|---|---|---|---|---|
ไนโตรเจน | N | 100 | ส่วนประกอบของ โปรตีนและกรดอะมิโน | ขาด | ใบเหลือง โดยเฉพาะใบแก่; การเติบโตของพืชชะงักงัน; ผลเติบโตไม่ดี |
เกิน | ใบเขียวเข้ม แต่อาจเสี่ยงกับอาการโคนต้นงอ (lodging) หรืออ่อนแอต่อภาวะแล้ง โรคพืช และแมลง; พืชอาจไม่ค่อยให้ผล | ||||
ฟอสฟอรัส | P | 6 | ส่วนประกอบของกรดนิวคลีอิกและATP | ขาด | ใบอาจเป็นสีม่วง; การเติบโตของพืชชะงักวันหรือช้า |
เกิน | พืชที่ได้รับฟอสฟอรัสในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดอาการขาดจุลสารอาหาร เช่น เหล็ก หรือ สังกะสี | ||||
โปแตสเซียม | K | 25 | ทำหน้าที่เป็น catalyst, ion transport | ขาด | ใบแก่จะเหลืองโดยเริ่มจากขอบใบก่อนแล้วใบจะตาย; ผลเติบโตไม่ปกติ |
เกิน | พืชที่ได้รับโปแตสเซียมในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดอาการขาดแมกนีเซียม หรืออาจขาดแคลเซียมด้วย | ||||
แคลเซียม | Ca | 12.5 | ส่วนประกอบของผนังเซลล์ | ขาด | พืชเติบโตช้าลง และหน่อใหม่ตาย; ผลเติบโตไม่ดี |
เกิน | พืชที่ได้รับแคลเซียมในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดอาการขาดแมกนีเซียมหรือโปแตสเซียม | ||||
แมกนีเซียม | Mg | 8 | ส่วนประกอบของคลอโรฟิลล์ | ขาด | จะเกิดอาการเหลืองที่ใบแก่ก่อนโดยจะเหลืองระหว่างเส้นใบ ต่อมาอาการจะลามไปที่ใบอ่อนด้วย; ผลเติบโตไม่ดีและออกน้อย |
เกิน | ปริมาณแมกนีเซียมที่ไม่สมดุลกับปริมาณโปแตสเซียมและแคลเซียมและทำให้พืชเติบโตช้า | ||||
กำมะถัน | S | 3 | ส่วนประกอบของกรดอะมิโน | ขาด | จะเกิดอาการเหลืองที่ใบอ่อนก่อนแล้วจะกระจายไปทั่วทั้งต้น; อาการจะคล้ายกับการขาดไนโตรเจน แต่จะเกิดกับส่วนที่เติบโตใหม่ก่อน |
เกิน | ใบร่วงก่อนเวลา | ||||
เหล็ก | Fe | 0.2 | ทำหน้าที่ในการสร้างคลอโรฟิลล์ | ขาด | อาการเกิดจุดเหลืองหรือขาวตามเส้นใบของใบอ่อน |
เกิน | ใบเป็นสีน้ำตาล หรือ เป็นจุดสีน้ำตาลขึ้น | ||||
โบรอน | B | 0.2 | ส่วนประกอบของผนังเซลล์ | ขาด | ยอดตาย; ใบผิดรูปร่างและมีรอยสีด่าง |
เกิน | ปลายใบจะเหลืองและอาจมีอาการตายเฉพาะส่วนตามมา; ใบไหม้และร่วง | ||||
แมงกานีส | Mn | 0.1 | ทำหน้าที่กระตุ้นเอนไซม์ | ขาด | ใบแก่จะมีวงด่างสีเหลืองหรือขาวขึ้น และ อาจมีจุดสีน้ำตาลขึ้นอยู่ในวงด่างด้วย |
เกิน | ใบอ่อนจะเหลืองระหว่างเส้นใบ; ใบจะมีขนาดเล็กกว่าปกติ | ||||
สังกะสี | Zn | 0.03 | ทำหน้าที่กระตุ้นเอนไซม์ | ขาด | อาการเหลืองระหว่างเส้นใบในใบอ่อน; ใบมีขนาดเล็กกว่าปกติ |
เกิน | พืชที่ได้รับสังกะสีในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดอาการเหล็กได้ |
หมายเหตุ ปริมาณในพืช แสดงเป็น เปอร์เซนต์เปรียบเทียบกับปริมาณไนโตรเจนในพืชที่ปรากฏในหน่อแห้ง และ ปริมาณสารอาหารในพืช อาจเปลี่ยนแปลงตามชนิดของพืช
เมนูนำทาง
สารอาหารสำหรับพืช หน้าที่ของธาตุอาหารใกล้เคียง
สารอาหารสำหรับพืช สารอาหาร สารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน สารนาถ สารภาพรักกับคุณคางุยะซะดี ๆ ~สงครามประสาทความรักของเหล่าอัจฉริยะ~ สารานุกรม สายอากาศ สารานุกรมบริแทนนิกา สารานุกรมหย่งเล่อแหล่งที่มา
WikiPedia: สารอาหารสำหรับพืช http://ag.arizona.edu/pubs/garden/az1106.pdf http://aesl.ces.uga.edu/publications/plant/Nutrien... http://www.cartage.org.lb/en/themes/Sciences/Botan...