สุลต่านสุลัยมานที่ 1 (
ตุรกีออตโตมัน: سلطان سليمان اول ) พระองค์เป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกว่า
สุลัยมานผู้เกรียงไกร[3] และเป็นที่รู้จักในโลกตะวันออกว่า
สุลัยมานผู้ตรากฎหมาย ทรงเป็นประมุขของ
จักรวรรดิออตโตมันสมัย
ราชวงศ์ออสมันระหว่างปี
ค.ศ. 1520 จนเสด็จสวรรคตเมื่อต้นเดือนกันยายนปี
ค.ศ. 1566 เป็นสุลต่านพระองค์ที่ 10 และเป็นสุลต่านที่ทรงราชย์นานที่สุดของ
จักรวรรดิออตโตมัน เป็นเวลานานถึง 46 ปีสุลต่านสุลัยมานเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่
6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1494 ที่ทราบซอนใน
ประเทศตุรกี เป็นพระราชโอรสใน
สุลต่านเซลิมที่ 1 และฮาฟซา ฮาทุน (Hafsa Hatun) ทรงเสกสมรสตามกฎหมายกับ
ร็อกเซลานา หรือ
เฮอร์เรมสุลต่าน พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อราววันที่
5/
6 กันยายน ค.ศ. 1566 ที่ Szigetvár ใน
ประเทศฮังการีปัจจุบัน หลังจากพระองค์เสด็จสวรรคต พระราชโอรสของพระองค์กับเฮอร์เรมสุลต่านก็ขึ้นครองราชย์เป็น
สุลต่านเซลิมที่ 2สุลต่านสุลัยมานเป็นพระมหากษัตริย์องค์สำคัญของคริสต์ศตวรรษที่ 16 ผู้มีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ในจักรวรรดิออตโตมันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงท
ทวีปยุโรปด้วย พระองค์มีพระบรมราชานุภาพอันยิ่งใหญ่ทางการทหารและทางเศรษฐกิจ ทรงเป็นผู้นำทัพด้วยพระองค์เองในการสงครามหลายครั้งและทรงได้รับชัยชนะในสงครามหลายครั้งที่รวมทั้งต่อ
เบลเกรด โรดส์ และ
ฮังการีเกือบทั้งหมด แต่มาทางพ่ายแพ้ใน
การล้อมกรุงเวียนนาในปี ค.ศ. 1529 สุลัยมานทรงทำการขยายดินแดนของจักรวรรดิโดยการผนวกดินแดน
ตะวันออกกลาง (เมื่อทรงมีข้อขัดแย้งกับ
เปอร์เชีย) และดินแดนส่วนใหญ่ทางตอนเหนือของ
แอฟริกาไปจนถึง
แอลจีเรีย ภายใต้การปกครองของพระองค์อำนาจทางทะเลครอบคลุมตั้งแต่
ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแดง อ่าวเปอร์เซีย ไปจนถึง
มหาสมุทรอินเดีย[4]พระราชกรณียกิจหลักในการปกครองคือการที่ทรงเปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายที่เกี่ยวกับสังคม การศึกษา ภาษี และกฎหมายอาญา กฎหมายที่พระองค์ทำการปฏิรูป (Kanuns) เป็นกฎหมายที่ใช้ต่อมาในจักรวรรดิเป็นเวลาอีกหลายร้อยปีหลังจากที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว นอกจากความสามารถในด้านการปกครองและการทหารแล้ว สุลต่านสุลัยมานยังทรงเป็นกวีฝีปากเอกและช่างทองฝีมือดี และทรงเป็นผู้อุปถัมภ์
วัฒนธรรม สมัยของพระองค์ถือกันว่าเป็น “ยุคทอง” ของจักรวรรดิออตโตมันในทาง
วรรณคดี ศิลปะ และ
สถาปัตยกรรมอีกด้วย
[5]