ลักษณะตัวละคร ของ เชอร์ล็อก_โฮมส์

เชอร์ล็อก โฮมส์ กับหมอวอตสัน ภาพวาดโดยซิดนีย์ แพจิต ในนิตยสารสแตรนด์

นิสัยและบุคลิก

เชอร์ล็อก โฮมส์ เป็นชาวอังกฤษ เกิดวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1854 มีนิสัยรักสันโดษ แต่ก็ยังไม่สันโดษเท่าพี่ชาย คือ ไมครอฟต์ โฮมส์ ที่คอยช่วยเหลือเขาในบางคดี เชอร์ล็อก มีรูปร่างผอมสูง จมูกโด่งเป็นสันเหมือนเหยี่ยว มีความรู้รอบตัวในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเคมี ฟิสิกส์ และความรู้เกี่ยวกับพืชมีพิษตระกูลต่าง ๆ และเขายังเก่งเรื่องเล่นไวโอลิน แต่เขาไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับดาราศาสตร์เลย

โฮมส์มีอารมณ์แปลก ๆ บางครั้งก็เศร้าซึม พูดน้อย บางครั้งก็ร่าเริง หมอวอตสัน เพื่อนคู่หูของเชอร์ล็อก โฮมส์ ได้บรรยายถึงลักษณะต่าง ๆ ของโฮมส์เอาไว้ในบันทึกคดีคราวต่าง ๆ กัน เช่น ในเวลาที่กำลังครุ่นคิดเรื่องคดี โฮมส์จะไม่ทานข้าวเช้า (จาก ตอน ช่างก่อสร้างเจ้าเล่ห์ (the Norwood Builder) ) โฮมส์ชอบทำการทดลองเคมี แล้วทิ้งข้าวของในห้องกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ (จาก ตอน ปริศนาลายแทง (Musgrave Ritual)) โฮมส์สูบไปป์จัดมาก มักกลั่นแกล้งตำรวจโดยการให้ข้อมูลปลอมหรือปกปิดหลักฐานบางอย่าง แต่ก็มีความเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติแก่สตรีอย่างสูง (จากตอน นายหน้าขู่กิน (Charles Augustus Milverton)) แต่นิสัยที่หมอวอตสันเห็นว่าเลวร้ายและยอมรับไม่ได้เลย คือ การที่โฮมส์ชอบเสพโคเคนกับมอร์ฟีน ซึ่งวอตสันเห็นว่าเป็นความชั่วประการเดียวของโฮมส์[5]

โฮมส์ยังเป็นนักแสดงที่เก่งกาจ ดังปรากฏในตอน ซ้อนกล (the Dying Detective) และ จดหมายนัดพบ (the Reigate Squires) และตอนอื่น ๆ อีกหลายตอน เพื่อหันเหความสนใจของผู้ต้องสงสัย มิให้ตระหนักถึงความสำคัญของหลักฐานบางอย่าง ในตอน สัญญานาวี (the Naval Treaty) โฮมส์ได้แสดงให้เห็นว่าเขาชื่นชมนักอาชญวิทยาชาวฝรั่งเศส อัลฟองเซ เบอทิลลอง ผู้คิดค้นทฤษฎีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเพื่อช่วยระบุตัวตนของอาชญากร นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า โฮมส์เป็นนักอ่าน นักศึกษา มีความรู้ด้านอาชญวิทยาอย่างกว้างขวาง และให้ความนิยมนับถือบรรดานักสืบผู้ชำนาญเป็นอย่างมาก[6]

แม้โฮมส์จะชอบกลั่นแกล้งตำรวจ แต่เขาก็เป็นมิตรที่ดีของสกอตแลนด์ยาร์ดโดยเฉพาะสารวัตรเลสเตรด และมักยกความดีความชอบในคดีให้แก่ฝ่ายตำรวจอยู่เสมอ ในตอน สัญญานาวี โฮมส์เคยบอกว่า ในบรรดาคดีที่เขาสะสาง 53 คดี เขายกความสำเร็จให้เพื่อนตำรวจไปเสีย 49 คดี คงมีแต่เพียงหมอวอตสันที่บรรยายถึงความสามารถของเขาผ่านทางบันทึกเท่านั้น

โฮมส์มีศัตรูตัวฉกาจ ชื่อ ศาสตราจารย์เจมส์ มอริอาร์ตี ผู้มีมันสมองปราดเปรื่องในด้านอาชญากรรม อีกทั้งยังเป็นตัวการเบื้องหลังในบางคดีที่เกิดขึ้นอีกด้วย คำพูดของโฮมส์ที่ติดปากกันดี คือ "ถ้าเราตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมดออกไป สิ่งที่เหลืออยู่ ไม่ว่ามันจะดูเหลือเชื่อเพียงใด แต่มันก็เป็นความจริง"

ความรู้และทักษะ

โคนัน ดอยล์ ได้บรรยายถึงพื้นฐานการศึกษาและทักษะของโฮมส์ไว้ในนิยายตอนแรก แรงพยาบาท ว่า เขาเคยเป็นนักศึกษาสาขาเคมี ที่มีความสนอกสนใจไปสารพัด โดยเฉพาะวิชาความรู้ที่สามารถช่วยเหลือในการคลี่คลายคดีอาชญากรรม บันทึกคดีแรกของโฮมส์ที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร คือ เรือบรรทุกนักโทษ (Gloria Scott) ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทำให้โฮมส์หันมายึดถืออาชีพนักสืบ เขามักใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตรรกศาสตร์ การสังเกตและการทดลอง มาใช้ประกอบในการพิจารณาคดีอาชญากรรมเสมอ แม้ว่าเขาจะชอบเก็บงำผลลัพธ์เอาไว้ และสร้างความประหลาดใจแก่ผู้อื่นโดยค่อย ๆ เผยปมของคดีให้ทราบทีละเล็กละน้อย

ในเรื่องยาว แรงพยาบาท (A Study in Scarlet) หมอวอตสันเคยประเมินทักษะต่าง ๆ ของโฮมส์ไว้ ดังนี้

  1. ความรู้ด้านวรรณกรรม — น้อยมาก
  2. ความรู้ด้านปรัชญา — ไม่มี
  3. ความรู้ทางดาราศาสตร์ — ไม่มี
  4. ความรู้ด้านการเมือง — น้อยมาก
  5. ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ — ไม่แน่นอน ชำนาญพิเศษด้านพืชมีพิษและฝิ่น แต่ไม่รู้ด้านการทำสวน
  6. ความรู้ด้านธรณีวิทยา — ชำนาญ แต่มีข้อจำกัด สามารถบอกความแตกต่างระหว่างดินแต่ละชนิด เช่นหลังจากออกไปเดินเล่น สามารถระบุตำแหน่งที่ได้รับรอยเปื้อนดินบนกางเกงได้ว่ามาจากส่วนไหนของลอนดอน โดยดูจากสีและลักษณะของดิน
  7. ความรู้ด้านเคมี — ยอดเยี่ยม เชอร์ล็อก โฮมส์เป็นตัวละครที่ได้รับตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์จากสมาคมเคมีแห่งราชสำนักอังกฤษ[7]
  8. ความรู้ด้านกายวิภาค — แม่นยำ แต่ไม่เป็นระบบ สันนิษฐานได้ว่ามาจากการศึกษาด้วยตนเอง[8]
  9. ความรู้ด้านอาชญวิทยา — กว้างขวาง ดูเหมือนจะรู้จักเหตุสะเทือนขวัญอย่างละเอียดทุกเรื่องในรอบศตวรรษ[6]
  10. ความรู้ด้านดนตรี — เล่นไวโอลินได้ดีมาก และยังเป็นเจ้าของไวโอลินสตราดิวาเรียส อันมีชื่อเสียง[9]
  11. เป็นนักมวยและนักดาบ
  12. มีความรู้กฎหมายอังกฤษเป็นอย่างดี

ในตอน ความลับที่หุบเขาบอสคูมบ์ (The Boscombe Valley Mystery) โฮมส์ได้แสดงให้เห็นถึงความรู้เกี่ยวกับยาสูบเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในตอน รหัสตุ๊กตาเต้นรำ (The Dancing Man) โฮมส์ได้แสดงถึงทักษะและไหวพริบในการถอดรหัส ส่วนความสามารถในการปลอมแปลงตัวของโฮมส์ได้ใช้ประโยชน์หลายครั้ง เช่น การปลอมเป็นกะลาสีในตอน จัตวาลักษณ์ (The Sign of the Four) เป็นนักบวชผู้ถ่อมตนใน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย (A Scandle in Bohemie) เป็นคนติดยาใน ชายปากบิด (The Man with the Twisted Lip) เป็นพระชาวอิตาลีใน ปัจฉิมปัญหา (The Final Problem) หรือแม้แต่ปลอมเป็นผู้หญิงในตอน เพชรมงกุฎ (The Mazarin Stone) เป็นต้น

อย่างไรก็ดี มีบางเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า หมอวอตสันประเมินโฮมส์ผิดไปบ้าง เช่น เหตุการณ์ในตอน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย ซึ่งโฮมส์สามารถตระหนักถึงความสำคัญของเคานต์ฟอนแครมได้ทันที หรือในหลาย ๆ คราวที่โฮมส์มักเอ่ยอ้างถึงถ้อยคำในพระคัมภีร์ไบเบิล เชกสเปียร์ หรือเกอเธ่ แต่กระนั้น โฮมส์กลับเคยบอกกับหมอวอตสันว่า เขาไม่สนใจเลยว่าโลกหรือดวงอาทิตย์จะหมุนรอบใครกันแน่ เพราะมันไม่มีประโยชน์ต่อการคลี่คลายคดีสักนิด

โฮมส์มีความสามารถในการวิเคราะห์หลักฐานทางกายภาพอย่างถูกต้องแม่นยำ กระบวนการตรวจสอบหลักฐานของเขามีหลายกรรมวิธี เช่น การเก็บรอยรองเท้า รอยเท้าสัตว์ หรือรอยล้อรถจักรยาน เพื่อวิเคราะห์การกระทำใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเกิดอาชญากรรม (เช่น ตอน แรงพยาบาท หรือ หมาผลาญตระกูล) หรือการวิเคราะห์ประเภทของยาสูบเพื่อระบุตัวตนของอาชญากร (เช่น ตอน จองเวร (The Resident Patient) หรือ หมาผลาญตระกูล) โฮมส์เคยตรวจสอบร่องรอยผงดินปืน และเปรียบเทียบกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุ ทำให้แยกแยะได้ว่าฆาตกรมีสองคน (จาก ตอน จดหมายนัดพบ และ บ้านร้าง (The Empty House) ) นอกจากนี้ โฮมส์ยังเป็นคนแรก ๆ ที่มีแนวคิดในการตรวจสอบลายนิ้วมืออีกด้วย (จาก ตอน ช่างก่อสร้างเจ้าเล่ห์)

ในช่วงปีหลัง ๆ ระหว่างที่โฮมส์หยุดพักผ่อนที่ซัสเซกซ์ดาวน์ (ในตอน รอยเปื้อนที่สอง (The Second Stain) ) เขาได้เขียนหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งเพื่อบันทึกการสังเกตเรื่องวิถีชีวิตของผึ้ง ชื่อ "Practical Handbook of Bee Culture" นอกจากนี้ ยังมีงานเขียนด้านวิชาการอื่น ๆ ของโฮมส์อีกหลายเล่ม เช่น "Upon the Distinction Between the Ashes of the Various Tobaccos" (การแยกแยะรายละเอียดระหว่างขี้เถ้าของยาสูบชนิดต่าง ๆ) หรือ บทความสองเรื่องเกี่ยวกับ "หู" ที่ได้เผยแพร่ใน Anthropological Journal เป็นต้น[4]

ถิ่นที่อยู่

บ้านเลขที่ 221 บี ถนนเบเกอร์

ตามท้องเรื่อง โฮมส์และหมอวอตสันรู้จักกันครั้งแรก เนื่องจากต่างต้องการหาผู้ร่วมเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันในกรุงลอนดอนเพื่อลดค่าใช้จ่าย ห้องพักที่ทั้งสองเช่าเป็นบ้านของมิสซิสฮัดสัน ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 221 บี ถนนเบเกอร์ โดยพวกเขาเช่าพื้นที่ชั้นสองของบ้าน ส่วนมิสซิสฮัดสันอาศัยอยู่ชั้นล่าง และทำหน้าที่จัดเตรียมอาหารเช้าให้พวกเขาด้วย หมอวอตสันเคยย้ายออกจากบ้านเช่านี้ไปเมื่อคราวแต่งงาน ทว่าหลังจากภริยาเสียชีวิต หมอวอตสันก็ย้ายกลับมาอยู่กับเชอร์ล็อก โฮมส์อีก

การงานอาชีพ

โฮมส์ทำงานเพียงอย่างเดียว คือ เป็นนักสืบเชลยศักดิ์ หมายถึง เป็นนักสืบเอกชนที่ทำงานตามการว่าจ้างเป็นคราว ๆ ไป อย่างไรก็ดี มีหลายครั้งที่โฮมส์ทำคดีเพื่อช่วยเหลือเพื่อนตำรวจที่สก๊อตแลนด์ยาร์ด หรือเพื่อความบันเทิงส่วนตัว ลูกค้าส่วนใหญ่ของโฮมส์เป็นผู้มีสตางค์ โฮมส์จึงได้รับค่าจ้างอย่างงามจนสามารถใช้ชีวิตอย่างสบาย หมอวอตสันเคยเล่าไว้ในตอน ซ้อนกล เมื่อตอนที่เขาย้ายออกไปจากบ้านเช่า และโฮมส์อาศัยอยู่เพียงลำพังว่า เงินค่าเช่าที่โฮมส์จ่ายมิสซิสฮัดสันนั้นมากพอจะซื้อตึกหลังนั้นได้เลยทีเดียว

ในตอน แผนผังเรือดำน้ำ โฮมส์ได้รับของรางวัลจากการคลี่คลายคดีให้แก่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย เป็นเข็มกลัดมรกต คราวหนึ่งเขาได้รับเหรียญทองคำเป็นที่ระลึกจากไอรีน แอดเลอร์ (ตอน เหตุอื้อฉาวในโบฮีเมีย) อีกคราวหนึ่งในตอน โรงเรียนสำนักอธิการ (the Priory School) โฮมส์ถึงกับถูมือด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเห็นตัวเลขในเช็คที่ท่านดยุคสั่งจ่าย ที่หมอวอตสันเองยังตื่นเต้นตกใจ แต่แล้วโฮมส์ก็ตบเช็คใบนั้นแล้วร้องว่า "กันยากจนจริงหนอ"

ครอบครัวและความรัก

โฮมส์มีพี่ชายหนึ่งคน คือ ไมครอฟต์ โฮมส์ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง แต่ไม่มีข้อมูลอื่นเกี่ยวกับครอบครัวของเขา นอกจากในเรื่องสั้นตอน ล่ามภาษากรีก ซึ่งโฮมส์เอ่ยถึงย่าของตนว่าเป็นน้องสาวของเวอร์เน่ต์ (Vernet) ศิลปินชาวฝรั่งเศส โฮมส์ไม่ได้แต่งงาน เขามองว่าความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ที่จะทำให้การพิเคราะห์เหตุผลเกิดสับสนผิดพลาดได้ กระนั้นเขาก็เคยแสดงความชื่นชมต่อสตรีผู้หนึ่ง...และเพียงผู้เดียวเท่านั้น อดีตนักแสดงชูโรงอุปรากรชาวอเมริกันผู้เคยมีสัมพันธ์ลับกับมกุฎราชกุมารแห่งโบฮีเมีย ที่โฮมส์ต้องนำหลักฐานที่เธอถืออยู่ไว้กลับคืนแก่เจ้าชายผู้เป็นลูกความ ทว่าเธอสามารถรู้ทันแผนของโฮมส์และซ้อนแผนของเขาโดยทิ้งไว้เพียงรูปถ่ายของเธอเองเพียงรูปเดียวให้กับเจ้าชาย ซึ่งต่อมาโฮมส์ได้ขอพระราชทานมาแทนรางวัล และสำหรับโฮมส์แล้วเธอคือยอดหญิงเสมอ ซึ่งโฮมส์มองว่าเธอนั้นอยู่เหนือและบดบังสตรีเพศเดียวกันทั้งปวง เธอผู้นั้นคือ ไอรีน แอดเลอร์

ใกล้เคียง

เชอร์ล็อก โฮมส์ เชอร์รีบุลเลต เชอร์รี เชอร์ล็อค โฮล์มส์ ดับแผนพิฆาตโลก เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เกมพญายมเงามรณะ เชอร์ล็อก (ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์) เชอร์รีสเปน เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ลาโรง เชอร์ลีย์ แม็กเลน เชอร์ลีย์ โจนส์

แหล่งที่มา

WikiPedia: เชอร์ล็อก_โฮมส์ http://168.144.50.205/221bcollection/canon/index.h... http://www.angelfire.com/ks/landzastanza/publicati... http://members.aol.com/_ht_a/shbest/ref/beetons-ch... http://bakerstreetdozen.com/coca.html http://www.bakerstreetdozen.com/furtheradvent.html http://www.bluebookski.com/bluebook9/Switzerland_M... http://www.channel4.com/science/microsites/S/scien... http://my.core.com/~jcnash/sherlock_graphic.html http://writer.dek-d.com/zeezayuiwoy/story/viewlong... http://www.henryzecher.com/sherlock_holmes.htm