การประยุกต์ใช้ ของ เอ็นแอลพี

แพทย์ทางเลือก

เอ็นแอลพีได้โปรโมตว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ รวมทั้งโรคพาร์คินสัน เอชไอวี/เอดส์ และมะเร็ง[62]ซึ่งไม่มีหลักทางการแพทย์สนับสนุนโดยประการทั้งปวง[62]คนไข้ที่ใช้เอ็นแอลพีเพื่อรักษาเสี่ยงมีสุขภาพแย่ลงเพราะไปหาแพทย์ช้า[62]

จิตบำบัด

หนังสือยุคต้น ๆ เกี่ยวกับเอ็นแอลพีเล็งไปในเรื่องจิตบำบัดเพราะผู้ที่เป็นแบบจำลอง (model) ยุคต้น ๆ เป็นนักจิตบำบัดถ้าใช้เพื่อจิตบำบัด เอ็นแอลพีมีข้อสมมุติและมูลฐานที่คล้ายกับวิธีจิตบำบัดปัจจุบันที่ทำแบบสั้น ๆ (brief) หรือที่ทำเป็นระบบ (systemic)[63][64][65]เช่น solution focused brief therapy[66][67]โดยนักจิตบำบัดก็ยอมรับว่าได้รับอิทธิพลมาจากเอ็นแอลพี[65][68]เช่น เทคนิคการเปลี่ยนกรอบความคิด[69][70]ซึ่งมุ่งเปลี่ยนพฤติกรรมโดยเปลี่ยนบริบทหรือความหมาย[71]เช่น หาข้อคิดเชิงบวกสำหรับความคิดหรือพฤติกรรรมหนึ่ง ๆ ที่เกิด

การใช้เอ็นแอลพีเป็นจิตบำบัดหลัก ๆ มีสองอย่าง คือ (1) ใช้เป็นวิธีการเสริม (adjunct)[72]ในจิตบำบัดวิธีอื่น ๆฺ(2) ใช้เป็นวิธีจิตบำบัดโดยเฉพาะที่เรียกว่า Neurolinguistic Psychotherapy[73]ซึ่งสภาสหราชอาณาจักรเพื่อจิตบำบัด (United Kingdom Council for Psychotherapy) ซึ่งเป็นสมาคมทางอาชีพยอมรับ[74]โดยเริ่มแรกอาศัยการรับรองจากสมาคม Association for Neuro Linguistic Programming[75]แล้วต่อมาสมาคมที่สืบทอดมาคือ Neuro Linguistic Psychotherapy and Counselling Association[76]แต่องค์กรกระทรวงสาธารณสุขของประเทศคือ National Institute for Health and Care Excellence (NICE) ก็ไม่ได้อนุมัติให้ใช้ทั้งเอ็นแอลพีและ Neuro-Linguistic Psychotherapy เพื่อรักษาโรคใด ๆ[77]

ตามสโตลส์นาว (2010) "หนังสืออัปยศจากกบไปสู่เจ้าชาย และอื่น ๆ ของแบนด์เลอร์กับกรินเดอร์อวดว่า เอ็นแอลพีเป็นยาสารพัดโรคที่รักษาอาการทางกายและใจจำนวนมากรวมทั้งปัญหาการเรียนรู้ โรคลมชัก สายตาสั้น และภาวะเสียการอ่านเข้าใจเพราะสัญญาว่าสามารถรักษาโรคจิตเภท โรคซึมเศร้า ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ และเพราะดูถูกโรคทางจิตเวชว่าเป็นเพียงโรคกายเหตุจิต (psychosomatic) เอ็นแอลพีจึงคล้ายกับลัทธิ/ศาสนาคือ Scientology และ (องค์กรที่เกี่ยวข้องกันคือ) Citizens Commission on Human Rights (CCHR)"[18]งานทบทวนงานทดลองอย่างเป็นระบบปี 2012 สรุปว่า มีหลักฐานน้อยมากกว่า การรักษาด้วยเอ็นแอลพีปรับปรุงสุขภาพให้ดีขึ้นโดยประการใด ๆ[78]

นักจิตวิทยาทางคลินิก[upper-alpha 3]ชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงคือสตีเฟน บรายเออร์ส (Stephen Briers) ได้เขียนไว้ว่า เอ็นแอลพีไม่ใช้วิธีบำบัดที่ปะติดปะต่อกัน แต่เป็นการรวบรวมเทคนิคต่าง ๆ ที่ไม่มีมูลฐานทางทฤษฎีที่ชัดเจน... (และ) หลักฐานที่สนับสนุนวิธีก็เท่ากับไม่มี[79]ส่วนนักเขียนท่านหนึ่งกล่าวว่า เอ็นแอลพีดูเหมือนจะเป็นวิธีการผิว ๆ ที่เป็นเล่ห์กลเพื่อจัดการปัญหาสุขภาพจิตโชคไม่ดีว่า เอ็นแอลพีเป็นสัมมนาแรกในบรรดาสัมมนาต่อ ๆ มาที่วางตลาดขายต่อมวลชนที่อ้างว่า สามารถรักษาความผิดปกติทางจิตทุกอย่าง...เพราะเอ็นแอลพีไม่มีหลักฐานเชิงประสบการณ์หรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนหลักทฤษฎีหรือประสิทธิผลในการรักษาสิ่งที่หลงเหลือก็คือ เรื่องเหลวไหลเกี่ยวกับจิตที่วางตลาดขายต่อมวลชน"[80]

ตามผู้เชี่ยวชาญเรื่องสะกดจิตชาวฝรั่งเศส-อเมริกันแอนเดร มิวล์เลอร์ ไวเซ็นฮ็อฟเฟอร์[upper-alpha 1]ซึ่งเป็นเพื่อนและผู้เชี่ยวชาญเยี่ยงกันกับมิลตัน เอริกสัน ได้เขียนในปี 1989 ไว้ว่า "เอ็นแอลพีได้สรุปและดึงแก่นของวิธีบำบัดที่ได้ผลแล้วให้วิธีที่ใครก็ได้สามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเช่นวิตทิเกอร์ (Whittaker), เวอร์จิเนีย แซเทียร์ หรือเอริกสันหรือไม่... ความล้มเหลว (ของเอ็นแอลพี) ในกิจนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วเพราะปัจจุบันไม่มีคนเป็นจำนวนมากที่เก่งเท่ากับผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น ไม่มีใครสักคนเท่ากับวิตทิเกอร์, เวอร์จิเนีย แซเทียร์ หรือเอริกสันเวลา 10 ปีควรจะพอให้เกิดผลเช่นนี้เมื่อเห็นเช่นนี้ ผมจึงไม่สามารถถือเอาเอ็นแอลพีว่าเป็นจริงเป็นจังอะไรได้ สิ่งที่เอ็นแอลพีมอบให้แก่เราในเรื่องความเข้าใจและการใช้เทคนิคของเอริกสันก็น่าแคลงใจเช่นกัน Patterns I และ II เป็นผลงานที่เขียนได้แย่ มักใหญ่ใฝ่สูงเกินไป เป็นความพยายามอวดอ้างลดค่าการสะกดจิตให้เป็นเพียงวิทยาคมการใช้คำ"[81]

นักจิตวิทยาทางคลินิก[upper-alpha 3]สตีเฟน บรายเออร์ส ตั้งความสงสัยในคุณค่าของหลักเอ็นแอลพี ที่เรียกตามศัพท์เฉพาะทางคือ "presupposition" ที่ว่า "ไม่มีความล้มเหลว มีแต่การให้ข้อมูลกลับ"[82]เขาอ้างว่า การปฏิเสธการมีความล้มเหลวย่อมลดคุณค่าความเป็นบทเรียนของพวกมันเขาให้ตัวอย่างความล้มเหลวที่บุคคลนั้นยอมรับเองที่ชัดเจนของวอลต์ ดิสนีย์, ไอแซก นิวตัน และเจ. เค. โรว์ลิง ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ได้ความสำเร็จอย่างยิ่งต่อ ๆ มาตามบรายเออร์ส มันเป็น "ความล้มเหลวชนิดเหมือนกับละคร ไม่ใช่ความล้มเหลวที่ทำให้เบา ๆ แบบเอ็นแอลพี ไม่ใช่ความล้มเหลวที่เรียกว่าไม่ใช่ความล้มเหลว" ซึ่งผลักดันบุคคลเหล่านี้ให้ได้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เขายืนยันว่า การยึดหลักนี้นำไปสู่การดูถูกตนเองตามบรายเออร์ส ความอุตสาหะพยายามส่วนบุคคลเป็นผลของค่านิยมและปณิธานที่ดำรงไว้มั่น และดังนั้น การดูถูกความล้มเหลวส่วนตัวอันสำคัญว่าเป็นเพียงข้อมูลป้อนกลับ เท่ากับดูถูกสิ่งที่ตนให้คุณค่าเขาเขียนว่า "บางครั้งเราจำเป็นต้องยอมรับและเศร้าโศกไว้อาลัยกับความฝันของเรา ไม่ใช่เพียงปัดมันทิ้งง่าย ๆ ว่าไม่สำคัญอะไร"บรายเออร์สยังยืนยันด้วยว่า หลักของเอ็นแอลพีทำให้หลงตนเอง คิดถึงแต่ตนเอง และห่างจากความรับผิดชอบทางศีลธรรม[83]

การประยุกต์ใช้อื่น ๆ

แม้เทคนิคดั้งเดิมหลัก ๆ ของเอ็นแอลพีจะเป็นในแนวการบำบัด แต่ความทั่วไปของมันจึงทำให้ใช้ในการอื่น ๆ ได้รวมทั้งการโน้มน้าวผู้อื่น[42]การขายของ[84]การเจรจาต่อรอง[85]การฝึกการจัดการ[86]กีฬา[87]การสอน การโค้ช การสร้างทีม และการกล่าวปาฐกถา

แหล่งที่มา

WikiPedia: เอ็นแอลพี http://63.197.255.150/openaccesspublic/civil/caser... http://63.197.255.150/openaccesspublic/civil/caser... http://www.inspiritive.com.au/grinterv.htm http://users.telenet.be/merlevede/lawsuit.htm http://users.telenet.be/merlevede/nlpfaq35.htm http://altcommtechniques.com/publications/why_they... http://www.american-buddha.com/bandler.method.html... http://ebmh.bmj.com/content/early/2013/05/29/eb-20... http://www.chris-nlp-hall.com/galleries/docs/Summa... http://www.mheap.com/nlp1.pdf