แวร์เนอร์_ฟ็อน_บล็อมแบร์ค
แวร์เนอร์_ฟ็อน_บล็อมแบร์ค

แวร์เนอร์_ฟ็อน_บล็อมแบร์ค

แวร์เนอร์ เอดูอาร์ท ฟริทซ์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค (เยอรมัน: Werner Eduard Fritz von Blomberg) เป็นจอมพลเยอรมัน รัฐมนตรีว่าการสงครามแห่งไรช์และผู้บัญชาการทหารเหล่าทัพเยอรมันจนถึง ค.ศ. 1938เขาเข้าร่วมกองทัพเยอรมันใน ค.ศ. 1897 หลังจบหลักสูตรจากวิทยาลัยการทหารปรัสเซียใน ค.ศ. 1907 เขาก็ได้ขึ้นเป็นนายพลใน ค.ศ. 1908 และได้เข้าร่วมแนวรบด้านตะวันตกในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและได้รับเหรียญพัวร์เลอเมรีท เขาได้ไปเยือนสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1928 และมีความประทับใจในศักยภาพของกองทัพแดงอย่างมาก เขาเริ่มมีความเชื่อในระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จว่าจะนำมาซึ่งแสนยานุภาพทางการทหารที่แข็งแกร่ง[1] เขาเชื่อว่าสงครามโลกครั้งต่อไปจะเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ และระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จคือทางออกที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในเตรียมพร้อมด้านการทหาร เศรษฐกิจ และสังคมเยอรมันในยามก่อนสงครามปะทุ[2]ใน ค.ศ. 1933 เขาได้แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงไรชส์แวร์ในคณะรัฐมนตรีฮิตเลอร์และกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่อุทิศตัวให้ฮิตเลอร์มากที่สุด เขาเสริมสร้างและขยายกองทัพเยอรมัน เขาเป็นนายทหารที่ประธานาธิบดีฮินเดินบวร์คไว้วางใจให้ดูแลงานด้านกลาโหมและฮินเดินบวร์คหวังว่าเขาจะเข้ากันได้ดีกับฮิตเลอร์[3]ใน ค.ศ. 1935 กระทรวงไรชส์แวร์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงการสงคราม และได้ควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเหล่าทัพแวร์มัคท์ (Oberbefehl über die gesamte Wehrmacht) และใน ค.ศ. 1936 บล็อมแบร์คเป็นนายทหารคนแรกที่ฮิตเลอร์แต่งตั้งให้เป็นจอมพล อย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 1937 เขาเป็นหนึ่งในนายทหารไม่กี่คนที่วิจารณ์แผนการทำสงครามฮิตเลอร์ว่าไม่ควรจะเลยไปจาก ค.ศ. 1942 ทำให้ฮิตเลอร์เริ่มไม่พอใจในตัวบล็อมแบร์ค ซึ่งทำให้สองคนสนิทของฮิตเลอร์อย่าง แฮร์มัน เกอริง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการลุฟท์วัฟเฟอ กับไฮน์ริช ฮิมเลอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยเอ็สเอ็สและตำรวจเยอรมัน ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อขจัดบล็อมแบร์คให้พ้นทาง ในงานแต่งของบล็อมแบร์คกับแฟนสาว เกอริงได้บอกกับฮิตเลอร์ในงานแต่งว่า แฟนสาวของบล็อมแบร์คและมารดาของเธอนั้นมีประวัติเป็นหญิงขายบริการ ฮิตเลอร์ขอร้องบล็อมแบร์คล้มเลิกการแต่งงานเพื่อรักษาหน้าของกองทัพ บล็อมแบร์คปฏิเสธที่จะหย่ากับเธอ เกอริงจึงปูดประวัติของภรรยาบล็อมแบร์คให้สาธารณะรับรู้ บล็อมแบร์คถูกกดดันให้ลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพ และฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เกอริงดูแลการทหารทั้งหมดในไรช์ใน ค.ศ. 1938หลังลาออก บล็อมแบร์คได้ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับภรรยาใหม่ที่เกาะกาปรีในอิตาลี แต่พลเรือเอก เอริช เรเดอร์ มองว่าบล็อมแบร์คควรจะฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการชดใช้การแต่งงานของเขา เรเดอร์ส่งผู้พันวังเงินไฮม์ (Wangenheim) ไปอิตาลีเพื่อกดดันให้บล็อมแบร์คฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่สำเร็จ วังเงินไฮม์ถึงขนาดยัดปืนใส่มือของบล็อมแบร์คแต่บล็อมแบร์คก็ปฏิเสธที่จะฆ่าตัวตายและขอใช้ชีวิตอย่างสงบ[4]ปลายสงครามโลกครั้งที่สองใน ค.ศ. 1945 บล็อมแบร์คถูกกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรควบคุมตัว เขาร่วมให้การในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์คในฐานะพยานซึ่งทำให้ถูกอดีตนายพลเพื่อนร่วมงานที่ตกเป็นจำเลยดูถูกเหยียดหยามนอกจากนี้ยังถูกภรรยาบอกเลิก ระหว่างที่ถูกกักบริเวณในเนือร์นแบร์คนั้นสุขภาพเขาก็ย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว เขาตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1946[5] และเสียชีวิตในวันที่ 14 มีนาคม 1946 ร่างของเขาถูกฌาปนกิจโดยไม่มีพิธีใด ๆ ที่ชานเมืองเนือร์นแบร์ค ต่อมาได้มีการขุดเถ้าของเขาและนำไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านของเขาในเมืองบาทวีสเซ (Bad Wiessee)

แวร์เนอร์_ฟ็อน_บล็อมแบร์ค

บำเหน็จ พัวร์เลอเมรีท
ชั้นยศ จอมพล
ที่เกิด มณฑลพอเมอเรเนีย, ราชอาณาจักรปรัสเซีย, จักรวรรดิเยอรมัน
ชื่อเกิด แวร์เนอร์ เอดูอาร์ท ฟริทซ์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค
ประจำการ ค.ศ. 1897–1938
บังคับบัญชา กระทรวงการสงครามไรช์
การยุทธ์ สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สังกัด กองทัพบก
รับใช้  จักรวรรดิเยอรมัน
 เยอรมนี
 ไรช์เยอรมัน
ที่ตาย เนือร์นแบร์ค, ประเทศเยอรมนี

ใกล้เคียง

แวร์เนอร์ ไฮเซินแบร์ค แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค แวร์เนอร์ ฟ็อน ฟริทช์ แวร์เนอร์ ฟ็อน เฮ็ฟเทิน แวร์เดอร์ เบรเมน แวร์เนอร์ เมิลเดิร์ส แวร์เนอร์ ไฟมัน แวร์เฮาส์ (ไนต์คลับ) แวร์เนอร์ ก็อลท์แบร์ค แวร์เฮาส์