ประวัติ ของ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

Giambattista Morgagni who made one of the earliest recorded descriptions of emphysema in 1769

คำว่า "emphysema" (โรคถุงลมโป่งพอง) ถูกผันมาจากคำว่า emphysan ในกรีก ἐμφυσᾶν ซึ่งแปลว่า"พองลม" ซึ่งเป็นคำที่ประกอบด้วยคำว่า ἐν en ซึ่งแปลว่า "ใน" และ φυσᾶν physan ซึ่งแปลว่า "หายใจ, ระเบิด"[115] คำว่าการอักเสบเรื้อรังของหลอดลมได้เริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1808[116] ส่วนคำว่า COPD นั้นเชื่อว่าถูกใช้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1965[117] ในอดีต โรคนี้มีชื่อต่างๆ กันมากมายหลายชื่อ ได้แก่: โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังบรองโคพัลโมนารี (chronic obstructive bronchopulmonary), โรคระบบการเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive respiratory disease), โรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง (chronic airflow obstruction disease), การจำกัดของทางเดินหายใจ (chronic airflow limitation), โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive lung disease), โรคปอดเรื้อรังที่ไม่เฉพาะเจาะจง (nonspecific chronic pulmonary disease), และกลุ่มอาการปอดอุดกั้นแพร่กระจาย (diffuse obstructive pulmonary syndrome) คำว่าโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและถุงลมโป่งพองนั้นได้รับการจำกัดความอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1959 ที่การประชุมสัมมนาของ CIBA และในปี ค.ศ. 1962 ที่การประชุมคณะกรรมการเรื่องมาตรฐานการวินิจฉัยโรคของ American Thoracic Society[117]

การอธิบายในช่วงเริ่มแรกของโรคที่อาจเป็นโรคถุงลมโป่งพอง ได้แก่: ในปี ค.ศ. 1679 โดย T. Bonet ว่าเป็นสภาวะของ "ปอดมีขนาดใหญ่" และในปี ค.ศ. 1769 โดย Giovanni Morgagni ว่าปอดนั้นมี "การบวมที่มีสาเหตุเนื่องจากอากาศโดยเฉพาะ"[117][118] ในปี ค.ศ. 1721 ภาพวาดภาพแรกของโรคถุงลมโป่งพองสร้างขึ้นโดย Ruysh[118] แล้วตามด้วยรูปภาพโดย Matthew Baillie ในปี ค.ศ. 1789 และคำอธิบายของลักษณะของสภาวะซึ่งเป็นการทำลาย ในปี ค.ศ. 1814 Charles Badham ได้ใช้คำว่า "เยื่อเมือกอักเสบ" เพื่ออธิบายการไอและเสหะที่มากผิดปกติในโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง René Laennec ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ประดิษฐ์หูฟังของแพทย์ได้ใช้คำว่า "โรคถุงลมโป่งพอง" ในหนังสือของเขาที่ชื่อว่า A Treatise on the Diseases of the Chest and of Mediate Auscultation (1837) เพื่ออธิบายสภาวะของปอดที่ไม่ยุบตัวเมื่อเขาผ่าหน้าอกในระหว่างการชันสูตรศพ เขาได้บันทึกว่าถุงลมเหล่านี้ไม่ยุบตัวตามปกติเนื่องจากเต็มไปด้วยอากาศและทางเดินหายใจนั้นเต็มไปด้วยเสมหะ ในปี 1842 John Hutchinson ได้ประดิษฐ์ เครื่องวัดปริมาตรอากาศหายใจ ซึ่งให้ความสามารถในการตรวจวัดความจุชีพของปอด อย่างไรก็ตาม เครื่องวัดปริมาตรอากาศหายใจของเขาสามารถวัดได้เพียงปริมาตร ไม่ใช่การไหลของอากาศ ในปี ค.ศ. 1947 Tiffeneau และ Pinelli ได้ทำการระบุรายละเอียดหลักการในการวัดการไหลของอากาศ[117]

ในปี ค.ศ. 1953 นายแพทย์ George L. Waldbott แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ชาวอเมริกัน เป็นบุคคลแรกที่ได้อธิบายถึงโรคใหม่ที่เขาตั้งชื่อว่า "smoker's respiratory syndrome" (กลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจของผู้สูบบุหรี่) ในวารสารของสมาคมแพทย์แห่งอเมริกา ปี ค.ศ. 1953 ซึ่งเป็นการรวมระหว่างการสูบบุหรี่กับโรคทางเดินหายใจเรื้อรังไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรก[119]

การรักษาในระยะแรก ที่นอกเหนือจากสิ่งอื่นๆ แล้ว ยังมีการใช้ กระเทียม อบเชย และอีเพ็คค่า อีกด้วย[116] การรักษาแผนใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นในระหว่างครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 หลักฐานสนับสนุนของการใช้สเตียรอยด์ใน COPD ได้รับการตีพิมพ์ในช่วงปี 1955-60 ในปี ค.ศ. 1960-70 ได้เริ่มมีการใช้ยาขยายหลอดลม หลังจากการศึกษาวิจัยยาไอโซพรีนาลีนที่มีความหวัง ต่อจากนั้นยาขยายหลอดลมอื่นๆ เช่น salbutamol จึงได้รับการพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1970-80 และการใช้ยาในกลุ่ม LABA ได้เริ่มต้นเมื่อช่วงกลางระหว่างปี ค.ศ. 1990-2000[120]

ใกล้เคียง

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดอักเสบจาก pneumocystis jirovecii โรคปอดอักเสบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า โรคปอดบวม โรคปอดเรื้อรังในทารกแรกเกิด โรคของปอด โรคอารมณ์สองขั้ว โรคอัลไซเมอร์ โรคจอตามีสารสี โรคออทิซึม

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง http://books.google.ca/books?id=0CXcUnr-0eoC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=1h6vu60L6FcC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=2F-DPG0c5IMC&pg=PT... http://books.google.ca/books?id=2sOJk-yKPpUC&pg=PT... http://books.google.ca/books?id=48gaALnXhcQC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=945lM1g_uQoC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=9bYbE87FbtMC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=D5n6lqqxkNUC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=DiTThQJkc0UC&pg=PA... http://books.google.ca/books?id=H4Sv9XY296oC&pg=PA...