ประวัติ ของ โรคอารมณ์สองขั้ว

จิตแพทย์ชาวเยอรมันเอมีล เครพอลีน (Emil Kraepelin) เป็นบุคคลแรกที่แยกแยะโรค manic-depressive illness (โรคอารมณ์สองขั้ว) กับ "dementia praecox" (โรคจิตเภท) ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19

ความต่าง ๆ ของอารมณ์และกำลังของมนุษย์เป็นเรื่องที่ได้สังเกตเห็นมาตลอดประวัติศาสตร์คำภาษาอังกฤษว่า melancholia ซึ่งเป็นคำโบราณสำหรับคำว่า depression (ความซึมเศร้า) และคำว่า mania ทั้งสองมาจากภาษากรีกโบราณคำว่า melancholia มาจากคำว่า melas (μέλας) แปลว่า ดำ และ chole (χολή แปลว่า น้ำดี[159])ซึ่งบ่งกำเนิดของคำในทฤษฎีก่อนสมัยฮิปพอคราทีส (humoral theory) ว่า ความไม่ปกติของน้ำสี่อย่างในร่างกายทำให้ป่วย ทฤษฎีนี้มองว่า อาการฟุ้งพล่านเกิดจากการมีน้ำดีเหลือง (yellow bile) เกิน หรือจากการมีน้ำดีเหลืองผสมกับน้ำดีดำแต่กำเนิดของคำว่า mania ไม่ชัดเจนเท่านี้แพทย์โรมันโบราณ Caelius Aurelianus ได้เสนอรากศัพท์หลายอย่าง รวมทั้งมาจากคำกรีกว่า ania แปลว่า ก่อความทุกข์ใจอย่างยิ่ง และจากคำว่า manos แปลว่า คลาย หรือหลวม ซึ่งรวม ๆ กันหมายถึงการปล่อยคลายจิตใจหรือจิตวิญญาณมากเกินไป[160]แต่ก็มีรากศัพท์ที่เป็นไปได้อย่างน้อยอีก 5 อย่าง และความสับสนส่วนหนึ่งมาจากการใช้คำต่าง ๆ กันในกวีนิพนธ์และในตำนานก่อนสมัยฮิปพอคราทีส[160]

ในต้นคริสต์ทศวรรษ 1800 จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศส คือ Jean-Étienne Dominique Esquirol ได้อธิบายอาการที่เขาเรียกว่า lypemania ซึ่งจัดเป็นความบ้าในเรื่องเดียวทางอารมณ์ (affective monomania) ซึ่งต่อมากลายเป็นภาวะซึมเศร้าดังในปัจจุบัน[161]แนวคิดเกี่ยวกับโรคอารมณ์สองขั้วในปัจจุบันอาจตามประวัติไปได้จนถึงคริสต์ทศวรรษ 1850ในปี 1850 จิตแพทย์ชาวฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ แฟลเค (Jean-Pierre Falret) ได้นำเสนอโรค "บ้าหมุนเวียน" (la folie circulaire, เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [la fɔli siʁ.ky.lɛʁ]) ต่อหน้าสมาคมจิตเวชในกรุงปารีสแล้วสรุปตีพิมพ์ในวารสาร Gazette des hôpitaux ในปี 1851[2]อีก 3 ปีต่อมาในปี 1854 จิตแพทยชาวฝรั่งเศส Jules Baillarger ได้นำเสนอต่อแพทยบัณฑิตสถานแห่งชาติฝรั่งเศสเรื่องความเจ็บป่วยทางจิตมีสองระยะ ที่สลับเกิดอาการฟุ้งพล่านและอาการซึมเศร้าอย่างซ้ำ ๆ ซึ่งเขาเรียกว่า folie à double forme (เสียงอ่านภาษาฝรั่งเศส: [fɔli a dubl fɔʀm] แปลว่า ความบ้ามีสองแบบ)[2][162]ผลงานดั้งเดิมของหมอคือ "De la folie à double forme" ก็ปรากฏในวารสารการแพทย์ Annales médico-psychologiques ในปี 1854[2]

ต่อมาจิตแพทย์ชาวเยอรมันเอมีล เครพอลีน ได้พัฒนาแนวคิดเหล่านี้เพิ่มขึ้น โดยใช้แนวคิดเกี่ยวกับโรคไซโคลไทเมียของจิตแพทย์ชาวเยอรมันอีกท่านคือ Karl Ludwig Kahlbaum[163]หมอได้จัดหมวดหมู่และศึกษาวิถีการดำเนินตามธรรมชาติของโรคในคนไข้โรคอารมณ์สองขั้วที่ไม่ได้รักษาและได้บัญญัติคำว่า manic depressive psychosis หลังจากสังเกตว่า ระยะที่เกิดโรค คือคราวฟุ้งพล่านและคราวซึมเศร้า ทั่วไปจะขัดจังหวะด้วยระยะที่ค่อนข้างไร้อาการที่คนไข้สามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ[164]

คำว่า "manic-depressive reaction" เริ่มใช้ใน DSM รุ่นแรกในปี 1952 โดยได้อิทธิพลจากงานของจิตแพทย์ชาวสวิส-อเมริกัน อดอล์ฟ ไมเออร์ (Adolf Meyer)[165]การแบ่งประเภทย่อยเป็นโรคซึมเศร้าขั้วเดียวและโรคอารมณ์สองขั้วเริ่มมาจากแนวคิดของจิตแพทย์ชาวเยอรมัน Karl Kleist ตั้งแต่ปี 1911 ที่แบ่งโรคเป็น unipolar affective disorder และ bipolar affective disorder ซึ่งจิตแพทย์ชาวเยอรมัน Karl Leonhard ใช้ต่อมาในปี 1957 เพื่อแบ่งคนไข้โรคซึมเศร้าออกเป็นสองพวก[160]ประเภทย่อยสองอย่างนี้ได้จัดเป็นโรคของตนเอง ๆ ตั้งแต่การตีพิมพ์ DSM-IIIส่วนแบบย่อยเป็นโรคประเภทที่ 2 และแบบสลับเร็วได้รวมเข้าตั้งแต่ DSM-IV โดยอาศัยงานที่ทำในคริสต์ทศวรรษ 1970[166][167][168]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรคอารมณ์สองขั้ว http://www.repositorio.ufc.br/handle/riufc/23654 http://d.plnk.co/ACNP/50th/Transcripts/David%20Dun... http://www.diseasesdatabase.com/ddb7812.htm http://www.emedicine.com/med/topic229.htm http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=296.... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=296.... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=296.... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=296.... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=296.... http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=296....