ชุมชน ของ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์

นักศึกษา

สถิตินักศึกษา[152][290][291]
ระดับปริญญาตรีระดับบัณฑิตศึกษา
ชาวอเมริกันคนขาว34%40.8%
ชาวอเมริกันคนเอเชีย30%9.4%
ชาวอเมริกันเชื้อสายสเปนหรืออเมริกาใต้15%3.3%
คนแอฟริกันอเมริกัน10%2.1%
กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน1.0%0.4%
นักศึกษานานาชาติ8%44.0%

ในปีการศึกษา ค.ศ. 2011-2012 MIT มีนักศึกษาระดับปริญญาตรี 4,384 คน และระดับบัณฑิตศึกษา 6,510 คน[152] มีนักศึกษาหญิงร้อยละ 45 ในระดับปริญญาตรี[152][292] นักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษามาจากทั้ง 50 รัฐ และจาก 115 ประเทศอื่น[293]

มีผู้สมัคร 18,356 คนเพื่อเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีในรุ่นนักศึกษาปี ค.ศ. 2018 (ปีรับ 2014)ซึ่งสถาบันรับไว้ 1,447 คน (7.9% ของผู้สมัคร) และมีนักศึกษามาเข้าเรียน 1,043 (72.1% ของผู้ที่สถาบันรับ)มีผู้สมัคร 23,884 คนในระดับบัณฑิตศึกษารวมทุกคณะ ซึ่งสถาบันรับไว้ 3,390 คน (14.2% ของผู้สมัคร) และมีนักศึกษามาเข้าเรียน 2,168 คน (64% ของผู้ที่สถาบันรับ)[13]

ในปีรับนักศึกษา 2015 พิสัยระหว่างควอร์ไทล์ของคะแนน SAT ของนักศึกษา อยู่ระหว่าง 2,110-2,350 และ 97% ของนักศึกษาเรียนเก่งอยู่ในระดับท็อป 10% ของโรงเรียนมัธยมปลายที่จบมา[125] ร้อยละ 99 ของนักศึกษารุ่นปี ค.ศ. 2013 กลับมาเรียนต่อปี 2 ร้อยละ 81 ของนักศึกษารุ่นปี ค.ศ. 2008 เรียนจบปริญญาภายใน 4 ปี ร้อยละ 91 (90% ของผู้ชาย และ 92% ของผู้หญิง) เรียนจบปริญญาภายใน 6 ปี[125][294]

ในปี ค.ศ. 2012 ค่าหน่วยกิตและค่าธรรมเนียมของนักศึกษาระดับปริญญาตรีรวมเป็น 40,732 ดอลลาร์สหรัฐ (ต่อปี) และค่าใช้จ่ายแต่ละปีรวมกันทั้งหมดเป็นประมาณ 52,507 ดอลลาร์ 62% ของนักศึกษาได้รับความช่วยเหลือทางการเงินเหตุจำเป็นในรูปแบบของทุนการศึกษาจากรัฐบาลกลาง จากรัฐบาลรัฐ จากสถาบันต่าง ๆ และจากองค์กรภายนอกอื่น ๆ เฉลี่ยหัวละ 38,964 ดอลลาร์[295] นักศึกษาได้รับรางวัลทุนการศึกษารวมกัน 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมากมาจากผู้สนับสนุนสถาบัน (84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปีมีผลให้เกิดประเพณีนักศึกษา ที่จะทำ "จราจลค่าเล่าเรียน" (แบบซ่อนยิ้ม) เริ่มตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1960[296]

MIT เป็นสถาบันสหศึกษา (รับทั้งผู้หญิงผู้ชาย) อย่างน้อยในนาม ตั้งแต่รับนักศึกษาหญิงเอ็ลเล็น ริชาร์ดส ในปี ค.ศ. 1870 หลังจากนั้น ริชาร์ดสยังได้กลายเป็นอาจารย์หญิงคนแรกของสถาบันในสาขาเคมีอนามัย (sanitary chemistry) อีกด้วย[297] แต่นักศึกษาหญิงก็ยังเป็นชนส่วนน้อย (น้อยกว่า 3%) จนกระทั่งหอพักนักศึกษาหญิงแห่งแรกคือ McCormick Hall ได้สร้างเสร็จลงปีกหนึ่งในปี ค.ศ. 1963[298][299][300] ในระหว่างปี ค.ศ. 1993-2009 อัตราของนักศึกษาหญิงเพิ่มจาก 34% เป็น 45% ในระดับปริญญาตรี และจาก 20% เป็น 31% ในระดับบัณฑิตศึกษา[152][301] ในปัจจุบัน มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายในสาขาชีววิทยา วิทยาศาสตร์สมองและประชาน สถาปัตยกรรม การวางแผนเมือง และวิศวกรรมชีวภาพ[152][292]

การเสียชีวิตของนักศึกษาจำนวนหนึ่งในปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 มีผลให้สื่อมวลชนเกิดความสนใจในประเพณีและวิถีชีวิตของนักศึกษา[302][303] หลังจากการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดื่มสุราของนักศึกษาสก็อตต์ ครูเกอร์ ในปี ค.ศ. 1997 เมื่อเป็นสมาชิกใหม่ของ Phi Gamma Delta fraternity[304] สถาบันก็เริ่มนโยบายบังคับให้นักศึกษาปี 1 อาศัยอยู่ในระบบหอพักของสถาบัน[304][305]

อัตวินิบาตกรรมในปี ค.ศ. 2000 ของนักศึกษาปริญญาตรี (หญิง) อะลิซาเบ็ธ ชิน ทำให้สื่อเริ่มสนใจเรื่องการฆ่าตัวตายของนักศึกษาที่สถาบัน และสร้างข้อวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นว่า สถาบันมีอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงผิดปกติหรือไม่[306][307] ในปลายปี ค.ศ. 2001 ได้มีการดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้น ที่แนะนำให้ปรับปรุงบริการด้านสุขภาพจิตให้นักศึกษา[308][309] มีการเพิ่มทั้งจำนวนบุคคลากร ทั้งเวลาทำงานที่ศูนย์สุขภาพจิต[310] กรณีนักศึกษาฆ่าตัวตายเหล่านี้ และกรณีอื่น ๆ ที่ตามมาในภายหลังมีความสำคัญ เพราะบิดามารดาของนักศึกษายกสถาบันขึ้นฟ้องศาลตั้งใจจะแสดงความละเลยหน้าที่รับผิดชอบของผู้บริหารสถาบันโดยหลัก in loco parentis (ความรับผิดชอบของสถาบันแทนที่ผู้ปกครอง)[306]

คณะอาจารย์

ศาสตราจารย์สถาบันกิตติคุณผู้ได้รับรางวัลโนเบล (จากซ้ายไปขวา) Franco Modigliani (เสียชีวิตแล้ว) พอล์ แซมมุเอ็ลสัน (เสียชีวิตแล้ว) และรอเบิร์ต โซโลว์ (รูปถ่ายปี ค.ศ. 2000)

ในปี ค.ศ. 2015 MIT มีคณะอาจารย์ 1,021 คน 224 คนเป็นอาจารย์หญิง[3]อาจารย์มีหน้าที่ให้เล็กเช่อร์ ให้คำปรึกษากับนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและทั้งระดับบัณฑิตศึกษา ทำหน้าที่เป็นกรรมการทางการศึกษา และทำงานวิจัย

ในระหว่างปี ค.ศ. 1964-2009 อาจารย์และบุคคลากรอื่นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันรวมทั้งหมด 18 คน ได้รับรางวัลโนเบล (หรือ 14 คนใน 25 ปีที่ผ่านมา)[311] คณะอาจารย์ทั้งอดีตทั้งในปัจจุบันรวม ๆ กันได้รับรางวัลโนเบล 27 รางวัล โดยมากในสาขาเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์[312] ในปี ค.ศ. 2015 คณะอาจารย์และบุคคลากรผู้ยังสอนอยู่ในปัจจุบัน ได้รับรางวัลเป็น Guggenheim Fellow[lower-alpha 15] 65 คน, เป็นนักศึกษา Fulbright Scholar[lower-alpha 16] 5 คน และเป็น MacArthur Fellow 23 คน[3]อาจารย์ที่มีผลงานวิจัยที่ยอดเยี่ยมในสาขาของตน และได้ทำงานอุทิศให้แก่ชุมชนของ MIT จะได้รับตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์สถาบัน (Institute Professor อาจเหมือนกับศาสตราจารย์พิศิษฐ์) ในวาระดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่เหลือ

ในปี ค.ศ. 1998 มีการศึกษาที่สรุปว่า มีอคติอย่างเป็นระบบ กีดกันอาจารย์เพศหญิงในโรงเรียนวิทยาศาสตร์[313] แม้ว่าวิธีการศึกษาจะไม่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย[314][315] แต่ว่า หลังจากนั้น ผู้หญิงก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณบดีภายในโรงเรียนวิทยาศาสตร์และโรงเรียนวิศวกรรมศาสตร์ และสถาบันก็ได้แต่งตั้งรองอธิการบดีหญิงหลายท่าน แม้ว่า การกล่าวหาว่า มีการกีดกันโดยเพศ ก็ยังไม่หมดสิ้นไป[316] ศ.ซูซาน ฮ็อกฟิลด์ ผู้เป็นนักประสาทชีววิทยาระดับโมเลกุล ได้รับแต่งตั้งให้เป็นอธิการบดีหญิงคนแรกในระหว่างปี ค.ศ. 2004-2012

การตัดสินใจให้ (หรือไม่ให้) สิทธิในการดำรงตำแหน่ง (tenure) ของสถาบัน บางครั้งทำให้สื่อระดับชาติเกิดความสนใจ ในปี ค.ศ. 1984 การไล่ออกศาสตราจารย์ผู้ช่วยเดวิด โนเบิล ผู้เป็นนักประวัติศาสตร์ทางเทคโนโลยี กลายเป็นเรื่องดังในเรื่องเสรีภาพในการพูดที่ให้แก่อาจารย์ในมหาวิทยาลัย คือ การไล่ออกเกิดขึ้นหลังจากที่ ศ.โนเบิลพิมพ์หนังสือและเอกสารหลายฉบับที่วิพากษ์วิจารณ์ความที่ทั้ง MIT และมหาวิทยาลัยวิจัยอื่น ๆ ต้องอาศัยเงินสนับสนุนจากบริษัทธุรกิจและจากการทหาร[317]

ในปี ค.ศ. 1994 ศ.ญ. เกร็ตเช็น คาลอนจี ผู้เป็นอดีตศาสตราจารย์วัสดุศาสตร์ฟ้องสถาบันในศาลกล่าวหาว่า เธอถูกปฏิเสธสิทธิในการดำรงตำแหน่งเพราะมีการกีดกันทางเพศและหลายปีต่อมา ก็มีการยินยอมกันนอกศาลโดยมีการจ่ายค่าเสียหายที่ไม่เปิดเผยจำนวน และโดยตั้งโครงการเพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย พยายามเสาะหาตำแหน่งอาจารย์[316][318][319]

ในปี ค.ศ. 1997 คณะกรรมการต่อต้านการเลือกปฏิบัติของรัฐแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Commission Against Discrimination) ตีพิมพ์ผลค้นหาข้อเท็จจริงที่แสดงความอาจเป็นได้ว่า การกล่าวหาของศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์-บอสตัน เจมส์ เจ็นนิ่งส์ (ผู้มีเชื้อสายเป็นคนแอฟริกันอเมริกัน) ว่า มีการกีดกันโดยผิวพรรณ มีมูล หลังจากที่คณะกรรมการเสาะหาอาจารย์ชั้นอาวุโสในคณะศึกษาและวางแผนเมือง (Department of Urban Studies and Planning) ไม่ได้ให้สิทธิการดำรงตำแหน่งแบบข้ามสถาบัน (reciprocal tenure) แก่เขา[320]

ในระหว่างปี ค.ศ. 2006-2007 สถาบันปฏิเสธไม่ให้สิทธิการดำรงตำแหน่งแก่ ศ.เจมส์ เชอร์ลีย์ (ผู้มีเชื้อสายเป็นคนแอฟริกันอเมริกัน) เป็นการจุดไฟให้ใหม่กับข้อกล่าวหาว่ามีคตินิยมเชื้อชาติในกระบวนการมอบสิทธิ ซึ่งในที่สุดก็นำไปสู่การโต้เถียงกับคณะผู้บริหารสถาบันผ่านสื่อที่เป็นสาธารณะ การประท้วงด้วยการอดข้าวของ ศ.เชอร์ลีย์ และการลาออกประท้วงของ ศ.แฟรงก์ ดักลาส (ผู้เป็น ศ. แอฟริกันอเมริกัน อีกคนหนึ่ง)[321][322]หนังสือพิมพ์เสรีนิยม The Boston Globe รายงานในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 ว่า

คณะอาจารย์อ่อนอาวุโสของ MIT น้อยกว่าครึ่งจะได้รับสิทธิการดำรงตำแหน่งหลังจากที่เชอร์ลีย์ถูกปฏิเสธ มีการสอบสวนกรณีของเขาอีกสามครั้งก่อนที่มหาวิทยาลัยจะตกลงใจว่า ไม่มีทั้งการกีดกันโดยคตินิยมเชื้อชาติ ทั้งผลประโยชน์ที่ขัดกัน ในการตัดสินใจ (พิจารณาการมอบสิทธิ)ผู้ร่วมงานของเชอร์ลีย์ถึง 21 คนได้ออกความคิดเห็นทางสื่อว่า เชอร์ลีย์ได้รับความยุติธรรมในการตรวจสอบเพื่อให้สิทธิแก่เขา[323]

คณะอาจารย์ในโรงเรียนมักจะได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้นำที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในปี ค.ศ. 1869 อาจารย์รุ่นก่อตั้งโรงเรียนคือ ศ.ชาลส์ อีเลียต รับตำแหน่งอธิการบดีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่เป็นเวลานานถึง 40 ปี ซึ่งเขาได้มีอิทธิพลอย่างสูงต่อการศึกษาในระดับอุดมศึกษาและมัธยมศึกษาของสหรัฐอเมริกา ส่วนศิษยเก่าและอาจารย์คือ ศ.จอร์จ เฮล ได้ช่วยสร้างสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย ให้เป็นสถาบันวิจัยระดับแนวหน้า และอาจารย์อื่น ๆ ได้เป็นอาจารย์รุ่นจัดตั้งคนสำคัญของวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ Franklin W. Olin College of Engineering ในเมืองนีดแฮม รัฐแมสซาชูเซตส์ ที่อยู่ใกล้ ๆ

ในปี ค.ศ. 2013 อดีตรองอธิการบดีโรเบิร์ต บราวน์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยบอสตัน อดีตรองอธิการบดีมาร์ก ไรต์ตัน ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซนต์หลุยส์ อดีตผู้ช่วยรองอธิการบดี (associate provost) อัลลิซ แกสต์ ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยลีไฮ อดีตศาสตราจารย์ Suh Nam-pyo ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของสถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี อดีตคณบดีของโรงเรียนวิทยาศาสตร์โรเบิร์ต เบอร์เกนอ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (2004-2013) อดีตศาสตราจารย์จอห์น เมดา เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ (2008-2013) อดีตศาสตราจารย์เดวิด บัลติมอร์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (1997-2006 ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์สาขาชีววิทยา) และศิษย์เก่าและอดีตศาสตราจารย์ผู้ช่วยแฮนส์ มารค์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีของกลุ่มมหาวิทยาลัยเท็กซัส (1984-1992)

นอกจากนั้นแล้วคณะอาจารย์ในโรงเรียนก็มักจะได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้นำในองค์กรของรัฐด้วย ยกตัวอย่างเช่นอดีต ศ.ญ.มาเซีย แม็คนัตต์ ได้เป็นผู้อำนวยการขององค์กรสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ[324] ศาสตราจารย์การวางแผนเมืองซาเวียร์ เดอ ซูซา บริก์ส ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานการบริหารและการออกงบประมาณของทำเนียบขาว[325] และศาสตราจารย์สาขาชีววิทยาอีริก แลนด์เดอร์ เป็นประธานร่วมของคณะผู้ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประธานาธิบดี (สหรัฐ)[326] ในปี ค.ศ. 2013 ศ.เออร์เนสต์ โมนี ได้รับแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้เป็นเลขาธิการกระทรวงพลังงานประเทศสหรัฐอเมริกา[327][328] อดีตศาสตราจารย์แฮนส์ มารค์ ได้เป็นเลขาธิการของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริการะหว่างปี ค.ศ. 1979-1981 ศิษย์เก่าและศาสตราจารย์สถาบันหญิง ชีลลา วิดนอล์ ได้เป็นเลขาธิการของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1993-1997 เป็นเลขาธิการหญิงคนแรกของกองทัพอากาศ และเป็นหญิงคนแรกที่เป็นผู้นำของทั้งกองทัพ

MIT ติดอันดับ 7 ในรายการมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยสหรัฐที่น่าทำงานที่สุดในปี ค.ศ. 2013 สำรวจโดยการให้คะแนนของผู้ที่ทำงานในสถาบัน[329]ผลการสำรวจแสดงว่า MIT มีสิ่งแวดล้อมที่เด่นในด้านความ "ฉลาด" "มีความคิดสร้างสรรค์" "เป็นกันเอง" โดยมีความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานหนักไปทางด้าน "จริยธรรมในการทำงานที่เข้มแข็ง" แต่บ่นว่า "ให้เงินตอบแทนน้อย"[330]

ศิษย์เก่า

ในบรรดาศิษย์เก่าที่มีถึง 120,000 คน มีบุคคลเป็นจำนวนมากประสบความสำเร็จที่เห็นได้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ในการทำสาธารณประโยชน์ ในการศึกษา และในด้านธุรกิจ โดยปี ค.ศ. 2014 ศิษย์เก่า 27 คนได้รับรางวัลโนเบล 47 คนได้รับเลือกเป็นผู้รับทุนการศึกษาโรดส์ สคูลาร์ส และ 61 คนได้รับเลือกเป็นผู้รับทุนการศึกษา Marshall Scholar[331]

ศิษย์เก่าที่เป็นนักการเมืองหรือทำบริการสาธารณประโยชน์รวมทั้งอดีตประธานธนาคารเงินทุนสำรองรัฐบาลกลาง (ซึ่งเป็นธนาคารกลางของสหรัฐ) เบ็น เบอร์แนงกี, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาจากรัฐแมสซาชูเซตส์เขตที่ 1 จอห์น โอลเวอร์, อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐแคลิฟอร์เนียเขตที่ 13 พีท สตาร์ก, อดีตประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (United States National Economic Council) ลอเร็นซ์ ซัมเมอร์ส, และอดีตประธานหญิงของคณะกรรมการผู้ปรึกษาทางเศรษฐกิจ (Council of Economic Advisors) คริสตินา โรเมอร์

ศิษย์เก่าที่เป็นนักการเมืองในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน Ali Akbar Salehi, นายกรัฐมนตรีประเทศอิสราเอล Benjamin Netanyahu, ประธานธนาคารกลางสหภาพยุโรปมาริโอ ดรากี, ผู้ว่าการธนาคารกองทุนสำรองอินเดีย (ธนาคารกลางอินเดีย) Raghuram Rajan, อดีตเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศประเทศอังกฤษเดวิด มิลิแบนด์, อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศกรีซ ลูกัส ปาปาดีโมส, อดีตเลขาธิการสหประชาชาติโคฟี แอนนัน, อดีตรองนายกรัฐมนตรีประเทศอิรัก Ahmed Chalabi, และประธานาธิบดีสิงคโปร์ ดร. โทนี ตัน เค็ง ยัม

ศิษย์เก่าได้ตั้งหรือช่วยตั้งบริษัทที่น่าสนใจหลายบริษัทรวมทั้งบริษัทอินเทล (โดยโรเบิร์ต นอยซ์), บริษัทแมคดอนเนลล์ดักลาส (โดยเจมส์ แม็คดอนเนลล์ และโดนัลด์ ดักลาส), บริษัท Texas Instruments (โดยซีซิล กรีน), บริษัท 3Com (โดยโรเบิร์ต เม็ตคาล์ฟ), บริษัทควอลคอมม์ (โดย Andrew Viterbi), บริษัท Bose (โดย ศ.Amar Bose), บริษัท เรย์เธียน โดยรองอธิการบดีแวเนวาร์ บุช, บริษัท Koch Industries (โดยเฟร็ด คอช), บริษัท Rockwell International (โดยวิลลาด ร็อกเว็ลล์), บริษัท Genentech (โดยโรเบิร์ต สวอนสัน), บริษัท Dropbox (โดยดรู ฮูสตัน), และ บริษัท Campbell Soup (โดยจอห์น ดอร์เแรนซ์) หนังสือพิมพ์ประเทศอังกฤษ The Guardian ได้พิมพ์ข้อความไว้ว่า

งานสำรวจศิษย์เก่า MIT ที่ยังมีชีวิตอยู่พบว่า พวกเขาได้ช่วยตั้งบริษัทกว่า 25,800 บริษัท ว่าจ้างคนมากกว่า 3 ล้านคนรวมทั้งผู้รับจ้าง 1/4 ในย่านซิลิคอนแวลลีย์ บริษัทเหล่านี้ได้รายได้จากทั้งโลกรวมกัน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ถ้า MIT เป็นประเทศ ก็จะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เป็นประเทศที่ 11 ของโลก[332][333][334]

ศิษยเก่าของที่เป็นผู้นำสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษารวมทั้ง อธิการบดีซูบรา ซูเรชของมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน, อธิการบดีจอห์น เมดาของโรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์, อธิการบดี Joseph Aoun ของมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทอร์น, รองอธิการบดีอะดิล นาจัมของมหาวิทยาลัยวิทยาการจัดการแห่งลาฮอร์ (Lahore University of Management Sciences) ประเทศปากีสถาน, อธิการบดีหญิงเชอร์ลีย์ แจ็คสันของสถาบันโพลิเทคนิคเรนส์ซเลียร์, อธิการบดี Suh Nam-pyo ของสถาบันชั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกาหลี, คณบดีเพอร์เวซ ฮูดพอยของคณะฟิสิกส์ที่ Quaid-e-Azam University แห่งประเทศปากีสถาน, อดีตอธิการบดีเดวิด แซกซอนของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียเบิร์กลีย์, อดีตอธิการบดีลอเร็นซ์ ซัมเมอร์สของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, Provost ราแม็ต ชูเรชีของสถาบันเทคโนโลยีนิวยอร์ก, อดีตอธิการบดีวิลเลียม โบรดีของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์, อดีตอธิการบดีลาร์รี บาคาวของมหาวิทยาลัยทัฟส์, อดีตอธิการบดีอัลเบิร์ต ซีโมนของสถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์, อดีตอธิการบดี (และผู้ก่อตั้งสถาบัน) ยูเฮนิโอ ซาดาของสถาบันเทคโนโลยีและการศึกษาระดับสูงมอนเตร์เรย์, อดีตอธิการบดีมาร์ติน จิชของมหาวิทยาลัยเพอร์ดู, และอดีตอธิการบดีมาร์แชล ฮานของเวอร์จิเนียเทค

ในบรรดานักบินอวกาศสหรัฐที่ได้ขึ้นสู่อวกาศ เกินกว่า 1/3 ของเป็นศิษย์เก่าของสถาบัน (รวมทั้งนักบินอวกาศเอ็ดวิน "บัซ" อัลดริน ในภารกิจอะพอลโล 11 ที่ส่งคนไปดวงจันทร์ยานแรก) เป็นจำนวนคนมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั้งหมด ยกเว้นโรงเรียนทหารของรัฐบาลกลางของสหรัฐ[335] ศิษย์เก่าและอดีตศาสตราจารย์ Qian Xuesen มีส่วนช่วยในโครงการจรวดของสาธารณรัฐประชาชนจีน[336][337]

ศิษยเก่าที่มีชื่อเสียงในด้านอื่น ๆ รวมทั้งสถาปนิกไอ. เอ็ม. เพผู้ได้รับรางวัลพริตซ์เกอร์ (ซึ่งเรียกว่า เป็นรางวัลโนเบลของสถาปัตยกรรม)

ศิษยเก่าชาวไทยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, คุณพลอยไพลิน เจนเซน, ดร.โอฬาร ไชยประวัติ, รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์, ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล, ศาสตราจารย์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ , ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์, ท่านผู้หญิง นิรมล สุริยสัตย์ และ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา เป็นตัน

ใกล้เคียง

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันการบินพลเรือน สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ สถาบันวิทยาลัยชุมชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สถาบันพระบรมราชชนก

แหล่งที่มา

WikiPedia: สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ http://scitech.people.com.cn/GB/10294899.html http://news.163.com/09/1031/17/5MVIKNT90001124J.ht... http://www.american-school-search.com/safety/massa... http://www.bbc.com/news/business-29086590 http://www.bloomberg.com/news/2011-03-10/harvard-m... http://www.boston.com/lifestyle/articles/2008/07/1... http://www.boston.com/news/education/higher/articl... http://www.boston.com/news/globe/magazine/articles... http://www.boston.com/news/globe/magazine/articles... http://www.boston.com/news/local/articles/2007/02/...