โยพ วิลเฮ็ล์ม เกออร์ค แอร์ทมัน แอร์วีน ฟ็อน วิทซ์เลเบิน (
เยอรมัน: Job Wilhelm Georg Erdmann Erwin von Witzleben) เป็นจอมพลเยอรมันในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง เขาเป็นหนึ่งในผู้นำใน
แผนลับ 20 กรกฎาคม ในปี 1944 เพื่อสอบสังหาร
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โดยถูกวางตัวให้เป็น
ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแวร์มัคท์คนใหม่ถ้าแผนการสำเร็จ วิทซ์เลเบินถูก
ศาลประชาชนตัดสินให้ประหารชีวิตวิทซ์เลเบินเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต่อต้านระบอบนาซีตั้งแต่ที่ฮิตเลอร์เริ่มก้าวขึ้นสู่อำนาจ ยามที่พลเอก
ควร์ท ฟ็อน ชไลเชอร์และพลตรีเบรโดถูกสังหารใน
คืนมีดยาวโดยพวกนาซีอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ เขาและเพื่อนทหารอย่าง
มันชไตน์,
เลพ และ
รุนท์ชเต็ท เข้าชื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์ฮิตเลอร์ที่ข่มเหงรังแกจอมพล
บล็อมแบร์คและนายพล
ฟริทช์ด้วยข้อกล่าวหาอื้อฉาว ด้วยเหตุนี้เอง วิทซ์เลเบินจึงถูกให้เกษียณก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์จำเป็นต้องเรียกตัววิทซ์เลเบินกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อเตรียมการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองก่อนปี 1938 วิทซ์เลเบินเป็นสมาชิกของกลุ่มโอสเทอร์ หรือที่เรียกว่าแผนสมคบเดือนกันยายน (Septemberverschwörung) สมาชิกในกลุ่มนี้มีทั้งพลเอกอาวุโส
ลูทวิช เบ็ค, นายพล
เอริช เฮิพเนอร์, นายพล
คาร์ล-ไฮน์ริช ฟ็อน ชตึลพ์นาเกิล, นายพลเรือ
วิลเฮ็ล์ม คานาริส และพันโท
ฮันส์ โอสเทอร์ ทั้งหมดร่วมวางแผนรัฐประหารโค่นล้มฮิตเลอร์ วิทซ์เลเบินเริ่มจัดแจงคนของตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆในย่านที่ทำการรัฐบาลของกรุงเบอร์ลินกันยายน 1939 พลเอกอาวุโสวิทซ์เลเบินได้บัญชาการกองทัพที่ 1 ประจำ
แนวรบด้านตะวันตก และได้มีส่วนร่วมใน
ยุทธการที่ฝรั่งเศส หน่วยทหารของเขาซึ่งสังกัดกองทัพบกกลุ่ม C ได้ข้าม
แนวพรมแดนมาฌีโนในวันที่ 14 มิถุนายน 1940 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะยอมจำนนในสามวันให้หลัง ด้วยความชอบนี้ วิทซ์เลเบินได้รับ
กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก[1] และได้เลื่อนยศขึ้นเป็นจอมพลในวันที่ 17 กรกฎาคม 1940ในปี 1941 เขาได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ตะวันตก (Oberbefehlshaber West) ต่อจาก
จอมพลรุนท์ชเต็ท อย่างไรก็ตาม เขาดำรงตำแหน่งเพียงสิบเดือนเศษก็ขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ บางแหล่งข่าวระบุว่า เขาถูกบีบให้เกษียณในเวลานี้เนื่องจากได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการบุกสหภาพโซเวียตใน
ปฏิบัติการบาร์บาร็อสซา