กรณีพิพาทหมู่เกาะคูริล หรือรู้จักในญี่ปุ่นว่า
กรณีพิพาทดินแดนตอนเหนือ เป็น
กรณีพิพาทเรื่องอาณาเขตระหว่าง
ญี่ปุ่นกับ
รัสเซียเหนือเกาะตอนใต้สุดของ
หมู่เกาะคูริล 4 เกาะ ได้แก่
เกาะอีตูรุป เกาะคูนาชีร์ เกาะชิโกตัน และ
เกาะฮาโบไม หมู่เกาะคูริลเป็นกลุ่มเกาะที่วางตัวระหว่างเกาะ
ฮกไกโดของญี่ปุ่นกับ
คาบสมุทรคัมชัตคาของรัสเซีย หมู่เกาะนี้แยก
ทะเลโอค็อตสค์จาก
มหาสมุทรแปซิฟิก เกาะที่พิพาท 4 เกาะรวมถึงเกาะอื่น ๆ ของหมู่เกาะคูริลถูกผนวกโดย
สหภาพโซเวียตใน
การบุกครองหมู่เกาะคูริลเมื่อสิ้น
สงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันเกาะเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ
เขตยุจโน-คูริลสกี (Yuzhno-Kurilsky)
แคว้นซาฮาลินของรัสเซีย ขณะที่ญี่ปุ่นอ้างสิทธิ์โดยเรียกเกาะเหล่านี้ว่าดินแดนตอนเหนือ (Northern Territories) หรือชิชิมะตอนใต้ (Southern Chishima) และถือเป็นส่วนหนึ่งของ
กิ่งจังหวัดเนมูโระ จังหวัดฮกไกโดของตน
สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก[1] ที่ลงนามระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตร (ยกเว้นสหภาพโซเวียต) กับญี่ปุ่นในค.ศ. 1951 ระบุให้ญี่ปุ่นต้องสละ "สิทธิ ตำแหน่ง และการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะคูริล"
[2] แต่กระนั้นสนธิสัญญาไม่ได้ยอมรับอำนาจอธิปไตยของสหภาพโซเวียตเหนือหมู่เกาะนี้
[3] ญี่ปุ่นกล่าวอ้างว่าอย่างน้อยบางส่วนของเกาะพิพาทไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะคูริล จึงไม่ได้อยู่ใต้ความครอบคลุมของสนธิสัญญาซานฟรานซิสโก
[4] ด้านรัสเซียยืนกรานว่าอำนาจอธิปไตยของสหภาพโซเวียตเหนือหมู่เกาะได้รับการยอมรับด้วยความตกลงหลังสงคราม
[5] ญี่ปุ่นและสหภาพโซเวียตยุติภาวะสงครามอย่างเป็นทางการเมื่อมีการลงนาม
คำประกาศร่วมโซเวียต–ญี่ปุ่น ค.ศ. 1956 แต่ไม่มีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพหลังจากนั้น ระหว่างการหารือเพื่อนำไปสู่คำประกาศร่วม สหภาพโซเวียตเสนอสองเกาะเล็กคือชิโกตันและฮาโบไมแลกกับการให้ญี่ปุ่นเลิกอ้างสิทธิ์เหนือสองเกาะใหญ่คืออีตูรุปและคูนาชีร์ แต่ญี่ปุ่นปฏิเสธข้อเสนอ ความไม่ลงรอยในข้อเสนอของสหภาพโซเวียตและการเรียกร้องให้คืนเกาะของญี่ปุ่นกลายเป็นหมุดหมายของข้อพิพาทที่ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
[6]