เมนูนำทาง
การเลือกตั้งในประเทศไทย การเลือกตั้งครั้งที่ [6] | วันที่ | วิธีการเลือกตั้ง | จำนวน ผู้สมัคร | จำนวน ส.ส. | ผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง | ผู้มาใช้สิทธิ เลือกตั้ง | ร้อยละ | จังหวัดที่มีผู้ใช้ สิทธิมากที่สุด | ร้อยละ | จังหวัดที่มีผู้ใช้ สิทธิน้อยที่สุด | ร้อยละ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 | ทางอ้อม | - | 78 | 4,278,231 | 1,773,532 | 41.45 | เพชรบุรี | 78.82 | |||
2 | 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 | แบ่งเขต | - | 91 | 6,123,239 | 2,462,535 | 40.22 | นครนายก | 80.50 | แม่ฮ่องสอน | 22.24 | |
3 | 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 | แบ่งเขต | - | 91 | 6,310,172 | 2,210,332 | 35.05 | นครนายก | 67.36 | ตรัง | 16.28 | |
4 | 6 มกราคม พ.ศ. 2489 | แบ่งเขต | - | 96 | 6,431,827 | 2,091,827 | 32.52 | บุรีรัมย์ | 54.65 | สุพรรณบุรี | 13.40 | |
5 | 5 สิงหาคม พ.ศ. 2489 | แบ่งเขต | - | 5,819,662 | 2,026,823 | 34.92 | สกลนคร | 57.49 | นราธิวาส | 16.62 | เลือกตั้งเพิ่มเติมตามจำนวนพลเมือง (รธน. 2489) | |
6 | 29 มกราคม พ.ศ. 2491 | รวมเขต | - | 99 | 7,176,891 | 2,177,464 | 29.50 | ระนอง | 58.69 | สมุทรปราการ | 15.68 | |
7 | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2492 | รวมเขต | - | 21 | 3,518,276 | 870,208 | 24.27 | สกลนคร | 45.12 | อุดรธานี | 12.02 | เลือกตั้งเพิ่มเติมตามจำนวนพลเมือง (รธน. 2492) |
8 | 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 | รวมเขต | - | 123 | 7,602,591 | 2,961,191 | 38.95 | สระบุรี | 77.78 | พระนคร | 23.03 | |
9 | 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 | รวมเขต | 699 | 160 | 9,859,039 | 5,668,666 | 57.50 | สระบุรี | 93.30 | |||
10 | 15 ธันวาคม พ.ศ. 2500 | รวมเขต | 813 | 160 | 9,917,417 | 4,370,789 | 44.07 | ระนอง | 73.30 | อุดรธานี | 29.92 | |
11 | 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 | รวมเขต | 1,253 | 219 | 14,820,400 | 7,289,837 | 49.16 | ระนอง | 73.95 | พระนคร | 36.66 | |
12 | 26 มกราคม พ.ศ. 2518 | แบ่งเขต รวมเขต | 2,199 | 269 | 20,243,791 | 9,549,924 | 47.17 | ภูเก็ต | 67.87 | เพชรบูรณ์ | 32.31 | |
13 | 4 เมษายน พ.ศ. 2519 | แบ่งเขต รวมเขต | 2,369 | 279 | 20,623,430 | 9,072,629 | 43.69 | นครพนม | 63.53 | เพชรบูรณ์ | 26.64 | |
14 | 22 เมษายน พ.ศ. 2522 | แบ่งเขต รวมเขต | 1,523 | 301 | 21,283,790 | 9,344,045 | 43.90 | ยโสธร | 77.11 | |||
15 | 18 เมษายน พ.ศ. 2526 | แบ่งเขต รวมเขต | 1,880 | 324 | 24,224,470 | 12,295,339 | 50.76 | ยโสธร | 79.62 | |||
16 | 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 | แบ่งเขต รวมเขต | 3,613 | 347 | 26,224,470 | 16,670,957 | 61.43 | ชัยภูมิ | 85.15 | |||
17 | 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 | แบ่งเขต รวมเขต | 3,612 | 357 | 26,658,638 | 16,944,931 | 63.56 | ยโสธร | 90.42 | |||
18 | 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 | แบ่งเขต รวมเขต | 2,851 | 360 | 31,660,156 | 19,622,322 | 61.59 | มุกดาหาร | 87.11 | |||
19 | 13 กันยายน พ.ศ. 2535 | แบ่งเขต รวมเขต | 2,417 | 360 | 31,660,156 | 19,622,322 | 61.59 | มุกดาหาร | 90.43 | |||
20 | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 | แบ่งเขต รวมเขต | 2,372 | 391 | 37,817,983 | 23,462,748 | 62.04 | มุกดาหาร | 83.80 | |||
21 | 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 | แบ่งเขต รวมเขต | 2,310 | 395 | 38,564,836 | 24,040,836 | 62.42 | สระแก้ว | 87.71 | |||
22 | 6 มกราคม พ.ศ. 2544 | แบ่งเขต บัญชีรายชื่อ | 2,276 940 | 400 100 | 42,759,001 | 29,904,940 29,909,271 | 69.94 69.95 | ลำพูน | 83.78 | |||
23 | 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 | แบ่งเขต บัญชีรายชื่อ | 1,707 582 | 400 100 | 44,572,101 | 32,337,611 32,341,330 | 72.55 72.56 | ลำพูน | 86.56 | หนองคาย | 62.55 | |
24 | 2 เมษายน พ.ศ. 2549 | แบ่งเขต บัญชีรายชื่อ | การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หมายเหตุ เนื่องจากพรรคไทยรักไทยได้ว่าจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กในลงรับสมัครรับเลือกตั้งโดยที่คะแนนเสียงเลือกไม่ถึง 20% ตามคำพิพากษาในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 และ พรรคไทยรักไทยโดยศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้งหมด 111 คน คนละ 5 ปี | |||||||||
25 | 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 | แบ่งเขต สัดส่วน | 3,894 1,260 | 400 80 | 44,002,593 | 32,775,868 32,792,246 | 74.49 74.52 | |||||
26 | 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 | แบ่งเขต บัญชีรายชื่อ | 2,422 1,410 | 375 125 | 46,939,549 | 35,220,377 35,220,208 | 75.03 | ลำพูน | 88.61 | หนองคาย | 68.59 | |
27 | 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 | แบ่งเขต บัญชีรายชื่อ | การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หมายเหตุ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ กำหนดให้เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถเลือกตั้งให้แล้วเสร็จทั่วประเทศได้ภายในวันเดียวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 วรรคสอง และเมื่อพระราชกฤษฎีกาในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งนี้จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไปด้วย[7] คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ (หรือเสมือนไม่เคยเกิดขึ้น) แต่ถือว่าการเลือกตั้งได้เกิดขึ้นแล้ว 1 ครั้ง [8] | |||||||||
28 | 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 | แบ่งเขต บัญชีรายชื่อ | 350 150 | 51,239,638 | 38,268,375 | 74.69 | ||||||
# | ปี | ผู้ชนะ | ลำดับที่สอง | ลำดับที่สาม | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|---|
ราชอาณาจักรไทย | ||||||
1 | พ.ศ. 2476 | - | - | การเลือกตั้งครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังที่เหตุการณ์กบฏบวรเดชยุติลง มีผู้มีสิทธิออกเสียงอยู่ทั้งหมด 4,278,231 คน มีผู้ออกไปใช้สิทธิทั้งหมด 1,773,532 คน คิดเป็นร้อยละ 41.45 หลังการเลือกตั้ง ได้มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลขึ้นมาใหม่ โดยเสียงส่วนใหญ่เลือกเอา พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง (เป็นสมัยที่ 2) | ||
2 | พ.ศ. 2480 | - | - | การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่เป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ซึ่งต่างจากการเลือกตั้งครั้งแรก ที่เป็นการเลือกตั้งทางอ้อม การเลือกตั้งมีขึ้นในวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2480 โดยมีจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 91 คน มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 6,123,239 คน และมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,462,535 คน คิดเป็นร้อยละ 40.22 ก่อนหน้านั้นไม่นาน พระยาพหลพลพยุหเสนา ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการมีกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎรถึงเรื่องการซื้อขายที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หลังการเลือกตั้งแล้ว ในวันที่ 21 ธันวาคม ปีเดียวกัน พระยาพหลพลพยุหเสนา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง | ||
3 | พ.ศ. 2481 | - | - | พันเอก พระยาพหลพลหยุหเสนา นายกรัฐมนตรีได้ประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรขึ้นเมื่อวันที่ 13 กันยายน ปีเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถที่จะควบคุมความวุ่นวายในสภาผู้แทนราษฎรได้ อันเนื่องจากรัฐบาลได้เสนออนุมัติต่อสภาฯ เรื่องขอรวมพระสงฆ์ธรรมยุติกนิกายและมหานิกายเข้าด้วยกัน และเสนอพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 (ส.ส.ประเภทที่ 1) หรือ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนหลายคน ผลการเลือกตั้ง มีการเลือก ส.ส. มาทั้งหมด 91 คน คิดเป็นร้อยละ 49.35 ของสภาฯ โดยมีผู้ออกมาใช้สิทธิร้อยละ 35.05 ได้มีการแต่งตั้ง พ.อ.หลวงพิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลชุดที่แล้ว เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยการลงนามของคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ | ||
4 | มกราคม พ.ศ. 2489 | สืบเนื่องจาก หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีได้ตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรขึ้น เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2488 เนื่องด้วยสภาฯชุดนี้มีอายุยาวนานมากพอสมควรแล้ว เนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งเพราะอยู่ในสภาวะสงคราม จึงกำหนดให้มีการเลือกตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2489 ผลการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 6,431,827 คน มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวน 2,091,788 คน คิดเป็นร้อยละ 32.52 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายควง ชนะเลือกตั้งไปด้วยคะแนนถล่มทลาย หลังจากนี้ ได้มีการโหวตกันในรัฐสภา ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เลือก นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นับเป็นสมัยที่ 2 ของนายควง ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี | ||||
5 | สิงหาคม พ.ศ. 2489 | จากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 5,819,662 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,026,823 คน คิดเป็นร้อยละ 34.92 เป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในสภาวะการเมืองเกิดความผันแปรอย่างรุนแรง เนื่องด้วยกรณีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 ซึ่งทำให้ นายปรีดี พนมยงค์ นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ท่ามกลางกระแสโจมตีและข่าวลือต่าง ๆ นานา หลังการเลือกตั้งพลเรือตรี ถวัลย์ ได้รับการเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรี เขาเป็นตัวแทนของนายปรีดี พนมยงค์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ | ||||
6 | พ.ศ. 2491 | พันตรี ควง อภัยวงศ์ | - | - | การเลือกตั้งกำหนดมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2491 ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับคะแนนมากที่สุดเป็นลำดับที่หนึ่ง โดยได้ทั้งสิ้น 53 ที่นั่ง ได้แกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดย นายควง ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน นับเป็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 4 แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ นับว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดด้วย โดยคิดเป็นร้อยละ 26 เท่านั้น ต่อมา ในวันที่ 6 เมษายน ปีเดียวกัน คณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ก็ได้ทำการบีบบังคับให้นายควง อภัยวงศ์ ลาออกจากตำแหน่ง | |
7 | พ.ศ. 2492 | - | - | เป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 7 ของประเทศไทย มีขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2492 เป็นการเลือกตั้งทางตรง โดยวิธีรวมเขตเรียงเบอร์ ผลการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 3,518,276 คน มีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 870,208 คน คิดเป็นร้อยละ 24.27 | ||
8 | พ.ศ. 2495 | - | - | มีขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 สืบเนื่องจากการที่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี รัฐประหารตัวเองในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ผลการเลือกตั้งทำให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 123 คน โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 7,602,591 คน มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวน 2,961,291 คน คิดเป็นร้อยละ 38.36 พรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีมติคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งนี้และไม่ร่วมสังฆกรรมกิจกรรมทางการเมืองใด ๆ กับรัฐบาลมาตั้งแต่รัฐประหาร | ||
9 | กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 | - | เป็นการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 9 มีขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีได้ประกาศจะจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้บริสุทธิ์ ถวายเป็น "พุทธบูชา" เนื่องในโอกาสครบรอบวาระกึ่งพุทธกาล การเลือกตั้งในครั้งกำหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ทั้งหมด 160 คน เป็นการเลือกตั้งแบบรวมเขตจังหวัด มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 9,859,039 คน ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง 5,668,566 คน คิดเป็นร้อยละ 57.50 หลังผลการเลือกตั้งออก สื่อมวลชนได้ประนามว่าเป็นการเลือกตั้งที่สกปรก แต่จอมพล ป.พิบูลสงครามได้แถลงต่อหนังสือพิมพ์ว่า อย่าเรียกว่าการเลือกตั้งสกปรกเลย[9] [10] ควรจะเรียกว่าเป็น “การเลือกตั้งไม่เรียบร้อย” แต่ต่อมาเหตุการณ์ได้ขยายตัวและบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มทหารและตำรวจที่สนับสนุน จอมพล ป. พิบูลสงคราม และ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก จนกลายเป็นการรัฐประหารในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ในที่สุด | |||
10 | ธันวาคม พ.ศ. 2500 | - | เป็น การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 10 ของประเทศไทย สืบเนื่องมาจากการที่ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ทำการรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน ปีเดียวกันนั้น และได้แต่งตั้งให้ นายพจน์ สารสิน ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า พรรคสหภูมิ เป็นพรรคที่ได้รับคะแนนมากที่สุด โดยได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 44 ที่นั่ง จากจำนวนเสียงทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร 160 ที่นั่ง การจัดตั้งรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ได้แนะนำให้ พลโท ถนอม กิตติขจร รองหัวหน้าพรรคพรรคชาติสังคม ร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ๆ จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา โดย พลโท ถนอม กิตติขจร ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรก ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 ในปีเดียวกัน จอมพล สฤษดิ์ ก็ได้ทำการรัฐประหารอีกครั้ง โดยประกาศให้ยกเลิกพรรคการเมืองทั้งหมด ยกเลิกรัฐธรรมนูญ และยกเลิกรัฐสภา พร้อมกับขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน | |||
11 | พ.ศ. 2512 | - | เป็น การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 11 ของประเทศไทย การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้คนตื่นตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศไทยว่างเว้นการเลือกตั้งมาอย่างยาวนานถึง 11 ปีเต็มด้วยกัน มีผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 14,820,180 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 7,285,832 คน คิดเป็นร้อยละ 49.10 ผลการเลือกตั้ง พรรคสหประชาไทย ที่มีจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นหัวหน้าพรรค และพลอากาศเอกทวี จุลละทรัพย์ เป็นเลขาธิการพรรค ได้รับเลือกมาเป็นที่หนึ่ง โดยได้ ส.ส.ทั้งหมด 74 คน ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค ได้ ส.ส.ทั้งหมด 55 คน ในวันที่ 7 มีนาคม ปีเดียวกัน ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ จอมพลถนอม กิตติขจร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี | |||
ในรัฐธรรมนูญฉบับปีพุทธศักราช 2560 ความส่วนหนึ่งคือจะมีคณะสรรหาคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา 250 คนและจะต้องผ่านการลงมติเห็นชอบจากทางสภาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจะมีเสียงในสภาโดยมีวาระ 5 ปี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ครั้งที่ | วันที่ | วิธีการเลือกตั้ง | จำนวน ผู้สมัคร | จำนวน ส.ว. | ผู้มีสิทธิ เลือกตั้ง | ผู้มาใช้สิทธิ เลือกตั้ง | ร้อยละ | จังหวัดที่มีผู้ใช้ สิทธิมากที่สุด | ร้อยละ | จังหวัดที่มีผู้ใช้ สิทธิน้อยที่สุด | ร้อยละ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 4 มีนาคม พ.ศ. 2543 | แบ่งเขต | - | 200 | ||||||||
2 | 19 เมษายน พ.ศ. 2549 | แบ่งเขต | 1,477 | 200 | ||||||||
3 | 2 มีนาคม พ.ศ. 2551 | รวมเขต | - | 76 | ||||||||
4 | 30 มีนาคม พ.ศ. 2557 | รวมเขต | 468 | 77 | 43,840,305 | 18,634,864 | 42.51 |
เมนูนำทาง
การเลือกตั้งในประเทศไทย การเลือกตั้งใกล้เคียง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2567 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2549 การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 การเลือกตั้งระบบสัดส่วน การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544แหล่งที่มา
WikiPedia: การเลือกตั้งในประเทศไทย http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1... http://www.dailynews.co.th/Content/politics/203374... http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?... http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1... http://www.ect.go.th/newweb/th/election/ http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?p... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/A/... https://www.ect.go.th/ect_th/more_news.php?cid=13