การผลิต ของ กาแฟขี้ชะมด

อีเห็นข้างลาย

เจ้าตัวลูวะก์ ซึ่งก็คือสัตว์เล็ก ๆ คล้ายแมว

หลังจากมืดแล้วจะออกมาหม่ำผลกาแฟที่สุกที่สุดที่ดีที่สุดของเรามันจะย่อยผลแล้วถ่ายเมล็ดออกมา ซึ่งคนไร่ของเราจะเก็บ ทำความสะอาด แล้วคั่ว เป็นของที่อร่อยมากกระบวนการอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการหมักโดยธรรมชาติที่เกิดในท้องของลูวะก์ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทำให้แตกต่างสำหรับคนชวาแล้ว นี่เป็นกาแฟที่ยอดที่สุดในบรรดากาแฟทั้งหมด เป็นโกปิ ลูวะก์ของเราเอง— นาย Doyo Soeyono Kertosastro, ผู้ทำไร่กาแฟชาวอินโดนีเซีย จากนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟิก ฉบับมีนาคม ค.ศ. 1981[20]

อีเห็นข้างลายเป็นสัตว์กินผลไม้โดยมาก มักกินเบอร์รี่และผลไม้มีเนื้อเช่นลูกไทรและลูกปาล์ม นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังกินสัตว์มีกระดูกสันหลังเล็ก ๆ แมลง ผลไม้สุก และเมล็ด[21]

การผลิตในยุคแรก ๆ เป็นการเก็บเมล็ดกาแฟในป่าในที่ที่อีเห็นจะถ่ายเพื่อแสดงอาณาเขตของตนส่วนในฟาร์ม อีเห็นจะถูกขังไว้หรือปล่อยไว้ให้อยู่ในเขตที่กั้นไว้[1]อีเห็นกินผลกาแฟเพื่อจะเอาเนื้อหลังจากประมาณวันครึ่งที่อยู่ในทางเดินอาหาร เมล็ดก็จะมีการถ่ายออกพร้อมกับมูลที่ออกมาเป็นพวง ๆโดยเมล็ดจะยังคงรูปร่างเหมือนเดิม และยังปกคลุมด้วยชั้นในของเนื้อกาแฟอยู่

แม้ว่าจะสัมผัสกับมูลและสิ่งมีชีวิตที่นำโรคได้อื่น ๆ แต่เมล็ดกลับมีสิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดโรคได้สืบเนื่องกับอุจจาระน้อยมากนอกจากนั้นแล้ว ผนังผลชั้นใน (endocarp) ที่หุ้มล้อมเมล็ด ก็จะไม่ได้มีการย่อยอย่างสิ้นเชิงดังนั้น หลังจากที่เก็บเมล็ดแล้ว ชาวไร่จะล้างให้สะอาด และเอาผนังผลชั้นในออกด้วย[22]

เกาะสุมาตราเป็นแหล่งผลิตกาแฟขี้ชะมดที่ใหญ่ที่สุดโดยใช้เมล็ดกาแฟอาราบิกา ที่ปลูกในกลุ่มเกาะอินโดนีเซียมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 แล้วเขตผลิตสำคัญอยู่ในจังหวัดลัมปุง จังหวัดเบิงกูลู และเขตปกครองพิเศษอาเจะฮ์โดยเฉพาะในเขตกาโยของเมือง Takengonส่วนกาแฟขี้ชะมดตากาล็อกมาจากชะมดที่กินเมล็ดกาแฟประเภทต่าง ๆ และขายในเขตจังหวัดบาตันกัสและในร้านขายของขวัญใกล้สนามบินต่าง ๆ ในประเทศฟิลิปปินส์

ส่วนประเทศเวียดนามมีไร่ 2 แห่งที่มีชะมดป่ากว่า 300 ตัวในจังหวัดดั๊กลัก ในขณะที่เกาะมินดาเนาในประเทศฟิลิปปินส์มีไร่ 2 แห่งที่มีชะมดป่า 200 ตัว (ในเมืองดาเวา) และ 100 ตัว (ในเมือง Cagayan de Oro)แต่หมู่เกาะอินโดนีเซียที่มีการค้นพบ "โกปิ ลูวะก์" ได้เป็นผู้นำการผลิตในตลาดโลกมาเกือบ 3 ศตวรรษแล้วโดยมีไร่กาแฟชะมดเล็ก ๆ ที่กำลังเกิดเพิ่มขึ้นอย่างมากมายในชนบท

ผลกาแฟที่ชะมดถ่ายออกมาแล้ว ในเกาะชวาตะวันออก

มีงานศึกษาหลายงานที่ตรวจสอบกระบวนการย่อยผลกาแฟโดยกรดและเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร และกระบวนการหมักเมล็ดกาแฟในทางเดินอาหารของชะมด[22][23][24] งานวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์โภชนาการมาซิโม มาร์โคนที่ University of Guelph ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา แสดงว่ามีสารคัดหลั่ง (secretion) จากระบบทางเดินอาหารของชะมดที่ซึมเข้าไปในเมล็ดกาแฟเป็นสารที่มีเอนไซม์ Protease ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนในเมล็ดกาแฟ ทำให้เกิดเพปไทด์ที่สั้นกว่าและจำนวนกรดอะมิโนอิสระที่มากกว่าโปรตีนเหล่านี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสีให้เข้มขึ้นผ่านปฏิกิริยาเมล์ลาร์ด (Maillard reaction) โดยไม่ใช้เอนไซม์ ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการคั่วเมล็ดกาแฟในภายหลังนอกจากนั้นแล้ว ในขณะที่อยู่ในตัวชะมด เมล็ดจะเริ่มงอกซึ่งช่วยลดความขม[4][25] มาร์โคนยังทำการวิเคราะห์สารประกอบระเหยง่ายที่ทำให้กาแฟมีรสและกลิ่นเหมือนกาแฟอีกด้วยแล้วพบว่า มีความแตกต่างโดยนัยสำคัญจากกาแฟธรรมดาเขาสรุปว่า[22]

  1. โครงสร้างโปรตีนเปลี่ยนไป ลดความขมและอาจจะมีผลต่อรสชาติ
  2. สารประกอบระเหยง่ายมีความแตกต่างที่สำคัญจากที่พบในกาแฟธรรมดา ซึ่งแสดงว่าจะมีกลิ่นที่เปลี่ยนไป

ดร. ดาวิลา คอร์เทส กล่าวว่า โครงสร้างโปรตีนที่เปลี่ยนไปจะทำลายความเป็นยาขับปัสสาวะของกาแฟ[26]

แหล่งที่มา

WikiPedia: กาแฟขี้ชะมด http://www.heritagetearooms.com.au/index.php?optio... http://abc.net.au/foreign/content/2007/s2027610.ht... http://www.abc.net.au/news/stories/2010/03/12/2844... http://www.cbc.ca/news/story/2002/09/13/catcoffee_... http://www.uoguelph.ca/news/archives/002065.html http://www.uoguelph.ca/news/archives/005780.html http://www.animalcoffee.com/process.php http://www.blackivorycoffee.com/#!faq/clas9 http://cluwak.com/kopi-luwak-cluwak-aboutus http://www.coffeestrategies.com/2011/12/07/kopi-lu...