เหตุการณ์นำ ของ สงครามท่าดินแดง

ในพ.ศ. 2328 หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯทรงสถาปนากรุงเทพฯเป็นราชธานีได้เพียงสามปี พระเจ้าปดุง (Badon Min) กษัตริย์พม่าราชวงศ์โก้นบองจัดทัพเข้ารุกรานอาณาจักรสยามจากหลายทิศทางทั้งหมดจำนวนเก้าทัพ โดยทัพขนาดใหญ่ที่สุดคือทัพหลวงของพระเจ้าปดุงยกมาทางด่านเจดีย์สามองค์เข้าโจมตีทางกาญจนบุรี โดยส่งแม่ทัพฝ่ายพม่าคือเมียนวุ่นและเมียนเมวุ่นยกทัพหน้าเข้ามาก่อน กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทพร้อมทั้งพระยากลาโหมราชเสนา พระยาจ่าแสนยากร และเจ้าพระยารัตนาพิพิธ (สน สนธิรัตน์) เสด็จยกทัพไปตั้งรับเมียนวุ่นและเมียนเมวุ่นทางกาญจนบุรีที่ทุ่งลาดหญ้า (ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี) นำไปสู่การรบที่ทุ่งลาดหญ้า การสู้รบใช้เวลาประมาณสองเดือน ฝ่ายพม่าประสบปัญหาขาดแคลนเสบียงทำให้ต้องปราชัยและถอยไปในที่สุด เมื่อทัพหน้าของเมียนวุ่นและเมียนเมวุ่นพ่ายแพ้พระเจ้าปดุงจึงทรงถอยทัพกลับไปยังเมืองเมาะตะมะ ทัพของพม่าที่เข้ารุกรานทางราชบุรีก็ไม่ประสบผลเช่นกันต้องถอยกลับไปยังเมืองทวาย

ทางแหลมมลายูภาคใต้นั้น แกงหวุ่นแมงยีแม่ทัพพม่ายกทัพยึดได้เมืองชุมพร เมืองไชยา และเมืองนครศรีธรรมราช กรมพระราชวังบวรฯเสด็จยกทัพลงทางใต้ ทรงให้พระยากลาโหมราชเสนาและพระยาจ่าแสนยากรเอาชนะทัพพม่าได้ที่เมืองไชยา ทำให้แกงหวุ่นแมงยีต้องถอยทัพกลับไปอยู่ที่เมืองมะริดในเดือนมีนาคมพ.ศ. 2329 แม้ว่าการรุกรานของพม่าในสงครามเก้าทัพจะประสบกับความล้มเหลว แต่พระเจ้าปดุงทรงไม่ยอมแพ้ มีพระราชโองการให้ทัพของแกงหวุ่นแมงยีที่เมืองมะริดถอยไปอยู่เมืองทวาย เพื่อพักค้างในฤดูฝน[1]เตรียมการสำหรับการรุกรานครั้งใหม่หลังจากฤดูฝนสิ้นสุดลง และให้ทัพเมืองทวายกลับไปอยู่ที่เมืองเมาะตะมะ ส่วนพระเจ้าปดุงนั้นยกทัพเสด็จกลับเมืองอังวะ

ใกล้เคียง

สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามเวียดนาม สงครามกลางเมืองอเมริกา สงครามแปซิฟิก สงครามเกาหลี สงครามอ่าว สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง สงครามครูเสด สงครามกัมพูชา–เวียดนาม