สังคมและวัฒนธรรม ของ โรคจิตเภท

ดูสารนิเทศเพิ่มเติมที่: ศาสนากับโรคจิตเภท
จอห์น แนช ผู้เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกันและผู้ร่วมรับรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ปี 1994 เป็นคนไข้โรคจิตเภทประวัติชีวิตของเขาได้ทำเป็นภาพยนตร์ "ผู้ชายหลายมิติ" ในปี 2001 ที่ได้รางวัลออสการ์

ในปี 2002 คำที่หมายถึงโรคจิตเภทในญี่ปุ่นคือ ญี่ปุ่น: 精神分裂病 โรมาจิseishin-bunretsu-byō ทับศัพท์"โรคจิตแยก" ได้เปลี่ยนเป็น ญี่ปุ่น: 統合失調症 โรมาจิtōgō-shitchō-shō ทับศัพท์"โรคบูรณาการ/โรคประสานการทำงาน" (integration disorder) เพื่อลดความเป็นมลทินทางสังคมของโรค[239]ชื่อได้รับแรงบันดาลใจจากแบบจำลองทางชีวภาพ-จิต-สังคม (biopsychosocial model) ซึ่งระบุว่าผลของโรคมาจากปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างปัจจัยทางชีวภาพ (เช่น ยีน ปัจจัยทางชีวเคมีเป็นต้น) ปัจจัยทางจิต (เช่น อารมณ์ บุคลิกภาพ พฤติกรรมเป็นต้น) และปัจจัยทางสังคม (เช่น วัฒนธรรม ครอบครัว ฐานะทางสังคมและเศรษฐกิจ เป็นต้น)การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้เพิ่มอัตราที่แพทย์แจ้งคนไข้ว่ามีโรคเช่นนี้เพิ่มขึ้นจาก 37% เป็น 70% ภายในสามปี[240]ประเทศเกาหลีใต้ก็ได้ทำการเช่นเดียวกันในปี 2012[241]ศาสตราจารย์จิตเวชชาวดัตช์ผู้หนึ่ง (Jim van Os) ได้เสนอเปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น "psychosis spectrum syndrome" (กลุ่มอาการสเปกตรัมโรคจิต)[242]

ในสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคจิตรวมทั้งค่าใช้จ่ายโดยตรง (คนไข้นอก คนไข้ใน ยา และการดูแลรักษาในระยะยาว) และค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล (การบังคับใช้กฎหมาย อัตราผลผลิตทางอาชีพที่ลดลง และการว่างงาน) ประเมินว่าถึง 62,700 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2002 (ประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท)[243]ภาพยนตร์ ผู้ชายหลายมิติ และหนังสือ A Beautiful Mind ได้บันทึกเหตุการณ์ชีวิตของจอห์น แนช ผู้เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ร่วมรับรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ และได้วินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภท

ความรุนแรง

คนไข้ที่เจ็บป่วยทางจิตใจ (mental illness) อย่างรุนแรงรวมทั้งโรคจิตเภทเสี่ยงเป็นเหยื่ออาชญากรรมทั้งแบบรุนแรงและไม่รุนแรงในอัตราสูงกว่าอย่างสำคัญ[244]โรคจิตเภทได้สัมพันธ์กับพฤติกรรมรุนแรงในอัตราที่สูงกว่า แต่โดยมากดูเหมือนจะเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติด[245]อัตราการฆ่าคนที่เชื่อมกับอาการโรคจิตคล้ายกับที่เชื่อมกับการใช้ยาเสพติด โดยจะเป็นเส้นขนานกันกับอัตราทั่ว ๆ ไปในภูมิภาคนั้น ๆ[246]บทบาทของโรคจิตเภทต่อความรุนแรงที่เป็นอิสระจาการใช้ยาเสพติดเป็นเรื่องที่ยังไม่ยุติ แต่ประวัติบางอย่างของบุคคลหรือสภาวะทางจิตใจอาจเป็นปัจจัย[247]นักโทษเรือนจำเพราะฆาตกรรม 11% มีโรคจิตเภทและ 21% มีความผิดปกติทางอารมณ์[248]ส่วนงานอีกงานหนึ่งพบว่าคนไข้โรคจิตเภท 8-10% มีพฤติกรรมรุนแรงภายในปีที่ผ่านมาเทียบกับกลุ่มประชากรทั่วไปที่มีแค่ 2%[248]

สื่อที่ออกข่าวเรื่องพฤติกรรมรุนแรงของคนไข้โรคจิตเภทเสริมความรู้สึกของคนทั่วไปว่าโรคจิตเภทสัมพันธ์กับความรุนแรง[245]ในงานศึกษาปี 1999 ที่มีตัวอย่างมาก คนอเมริกัน 12.8% เชื่อว่าคนไข้โรคจิตเภทมีโอกาสมีพฤติกรรมรุนแรงกับผู้อื่นมาก และ 48.1% กล่าวว่า มีโอกาสบ้างคนเกินกว่า 74% กล่าว่าคนไข้โรคจิตเภทไม่ค่อยสามารถหรือไม่สามารถโดยประการทั้งปวงในการตัดสินใจเรื่องการรักษาของตนเอง และ 70.2% กล่าวอย่างเดียวกันในเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับการเงิน[249]งานวิเคราะห์อภิมานงานหนึ่งระบุว่า ความรู้สึกว่าคนไข้โรคจิตเภทมีพฤติกรรมรุนแรงได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัวเทียบกับช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950[250]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรคจิตเภท http://www.clinicalevidence.bmj.com/x/systematic-r... http://www.diseasesdatabase.com/ddb11890.htm http://www.emedicine.com/emerg/topic520.htm http://www.emedicine.com/med/topic2072.htm http://www.emedicine.com/med/topic3113.htm http://www.emedicine.com/med/topic3113.htm# http://www.icd9data.com/getICD9Code.ashx?icd9=295 http://www.ijpsy.com/volumen3/num2/60/schizophreni... http://www.kluweronline.com/art.pdf?issn=1386-7423... http://pro.psychcentral.com/dsm-5-changes-schizoph...