ราชวงศ์เจิ่น ของ ประวัติศาสตร์เวียดนาม

ยุทธนาวีแม่น้ำบักดั่ง (Battle of Bạch Đằng River) ทัพไดเวียดสามารถเอาชนะทัพเรืองมองโกลได้ด้วยวีรกรรมของแม่ทัพเจิ่นฮึงเด่า (Trần Hưng Đạo)

ในรัชสมัยของจักรพรรดินี้ลี้เจียวฮว่างขุนนางเจิ่นทึโดะเรืองอำนาจขึ้นและผลักดันให้ตระกูลเจิ่นขึ้นมามีอำนาจ ในค.ศ. 1225 เจิ่นทึโดะให้จักรพรรดินีลี้เจียวฮว่างอภิเษกสมรสกับนายเจิ่นกั๋ญ (Trần Cảnh, 陳煚) ซึ่งเป็นหลานชายของเจิ่นทึโดะเอง ในปีเดียวกันนั้นเจิ่นทึโดะให้จักรพรรดินีลี้เจียวฮว่างสละราชสมบัติให้แก่เจิ่นกั๋ญ ทำให้การปกครองของราชวงศ์ลี้สิ้นสุดลงและเป็นจุดเริ่มต้นของราชวงศ์เจิ่น (Trần dynasty) เจิ่นกั๋ญขึ้นครองราชย์เป็นพระจักรพรรดิเจิ่ญไท้ตง (Trần Thái Tông, 陳太宗) อำนาจการปกครองที่แท้จริงอยู่ที่เจิ่นทึโดะ ในค.ศ. 1258 เจ้าชายกุบไลข่านส่งทูตเข้ามายังเมืองทังลองเพื่อให้อาณาจักรไดเวียดยอมสวามิภักดิ์เป็นเมืองขึ้นของมองโกล เมื่อไม่เป็นผลกุบไลข่านจึงส่งแม่ทัพชื่อว่าอูรียังคาได (Uriyangkhadai) ยกทัพมองโกลเข้าบุกไดเวียด ทัพมองโกลสามารถยึดเมืองทังลองได้แต่ทัพมองโกลไม่ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและโรคภัยไข้เจ็บจึงถอนทัพกลับไป หลังจากที่กุบไลข่านยึดจีนภาคใต้จากราชวงศ์ซ่งใต้และปราบดาภิเษกตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวนแล้ว ในค.ศ. 1282 จักรพรรดิกุบไลข่านส่งแม่ทัพโซเกอตู (Sogetu) เข้าโจมตีอาณาจักรจามปาสามารถยึดเมืองวิชัยราชธานีของจามปาได้ ในค.ศ. 1285 ไดเวียดจึงเผชิญกับการรุกรานของมองโกลครั้งที่สองทั้งจากทางเหนือนำโดยแม่ทัพโตคน (Toghon) และทางใต้จากจามปาโดยโซเกอตู แต่ฝ่ายเวียดนามสามารถต้านทานการรุกรานจากทั้งสองฝั่งได้ ในค.ศ. 1288 แม่ทัพโตคนยกทัพมองโกลเข้ารุกรานไดเวียดเป็นครั้งที่สาม นำไปสู่ยุทธนาวีแม่น้ำบักดั่ง (Battle of Bạch Đằng River) ปรากฏเป็นวีรกรรมของแม่ทัพเจิ่นฮึงเด่า (Trần Hưng Đạo, 陳興道) สามารถเอาชนะทัพเรือมองโกลได้ด้วยการวางเหล็กแหลมไว้ใต้น้ำ เมื่อน้ำลดทำให้เรือมองโกลถูกเหล็กแหลมทิ่มแทง

หลังจากสงครามกับมองโกลสิ้นสุดลง อาณาจักรดั่ยเหวียดสมัยราชวงศ์เจิ่นหันมาทำสงครามกับอาณาจักรจามปาทางทิศใต้ พระจักรพรรดิเจิ่นอัญตงทรงส่งพระขนิษฐาคือเจ้าหญิงเฮวี่ยนเจิน (Huyền Trân) ไปอภิเษกเป็นพระมเหสีของพระชัยสิงหวรมันที่ 3 (Jaya Simhavarman III) หรือพระเจ้าเจ๊เมิน (Chế Mân) แห่งอาณาจักรจามปาในค.ศ. 1306 โดยอาณาจักรจามปายอมยกดินแดนให้แก่ดั่ยเหวียดกลายเป็นจังหวัดทัญฮว้า ปีต่อมาค.ศ. 1307 พระเจ้าเจ๊เมินสวรรคตตามธรรมเนียมของศาสนาฮินดูเจ้าหญิงเฮวี่ยนเจินต้องเข้าพิธีสตีกระโดดเข้าพระจิตกาธานสิ้นพระชนม์ตามพระสวามี เจ้าหญิงเฮวี่ยนเจินจึงทรงขอความช่วยเหลือไปยังดั่ยเหวียด จักรพรรดิเจิ่นอัญตงทรงส่งทูตมานำองค์เจ้าหญิงเฮวี่ยนเจินกลับมายังดั่ยเหวียด กษัตริย์แห่งจามปาองค์ต่อมาประสงค์ดินแดนจังหวัดทัญฮว้าคืนให้แก่จามปาจึงนำทัพเข้ารุกรานดั่ยเหวียดสองครั้งแต่ไม่สำเร็จ ทัพฝ่ายดั่ยเหวียดสามารถเอาชนะทัพจามได้ทั้งสองครั้งและอาณาจักรจามปากลายเป็นเมืองขึ้นของดั่ยเหวียดอยู่ระยะหนึ่ง ในค.ศ. 1371 พระเจ้าเจ๊บ่งงา (Chế Bồng Nga) แห่งจามปายกทัพเข้ายึดนครทังลองได้สำเร็จ ทำให้พระจักรพรรดิเจิ่นเหงะตงพร้อมทั้งขุนนางในราชสำนักต้องหลบหนีออกจากนครทังลองชั่วคราวหลังจากทัพจามกลับไปแล้วจึงคืนสู่นครทังลอง จักรพรรดิเจิ่นเหวะตงสละราชสมบัติให้แก่พระจักรพรรดิเจิ่นเซวะตง จักรพรรดิเจิ่นเซวะตงทรงยกทัพเข้ารุกรานจามปาแต่พ่ายแพ้ให้แก่ทัพของพระเจ้าเจ๊บ่งงาพระจักรพรรดิเจิ่นเซวะตงสวรรคตในที่รบ วิกฤตการณ์ในสงครามกับอาณาจักรจามปาทำให้ราชวงศ์เจิ่นเสื่อมลงและขุนนางชื่อว่าโห่กวี้ลี (Hồ Quý Ly, 胡季犛) เรืองอำนาจขึ้น ในค.ศ. 1388 โห่กวี้ลีปลดพระจักรพรรดิเจิ่นเฟ๊เด๊ออกจากราชสมบัติแล้วตั้งพระจักรพรรดิเจิ่นถ่วนตงเป็นหุ่นเชิด ในค.ศ. 1390 พระเจ้าเจ๊บ่งงารุกรานดั่ยเหวียดอีกครั้งแต่พ่ายแพ้ให้แก่ทัพของเจิ่นคัตจัน (Trần Khát Chân) พระเจ้าเจ๊บ่งงาสวรรคตในที่รบ

ราชวงศ์โห่

ป้อมปราการเตยโดสมัยราชวงศ์โห่

ท้ายเถื่องฮหว่างเด๊จักรพรรดิเจิ่นเหงะตงเสด็จสวรรคตในค.ศ. 1394 เปิดโอกาสให้โห่กวี้ลีเรืองอำนาจขึ้นอย่างเต็มที่ โห่กวี้ลีย้ายราชธานีของราชวงศ์เจิ่นไปยังเมืองเต็ยโด (Tây Đô) ในจังหวัดทัญหว้า ในค.ศ. 1398 โห่กวี้ลีสำเร็จโทษปลงพระชนม์จักรพรรดิเจิ่นถ่วนตงรวมทั้งสังหารแม่ทัพเจิ่นคัตจันและกวางล้างสมาชิกราชวงศ์เจิ่นไปจำนวนมาก ในค.ศ. 1400 โห่กวี้ลีปราบดาภิเษกตนเองขึ้นเป็นฮหว่างเด๊หรือพระจักรพรรดิ เป็นการสิ้นสุดราชวงศ์เจิ่นและก่อตั้งราชวงศ์โห่ จักรพรรดิโห่กวี้ลีทรงเปลี่ยนชื่อประเทศจากดั่ยเหวียดเป็นดั่ยงู (Đại Ngu, 大虞) อย่างไรก็ตามในค.ศ. 1403 เจิ่นเทียมบิ่ญ (Trần Thiêm Bình, 陳添平) ผู้อ้างการสืบทอดจากราชวงศ์เจิ่นได้เข้าเฝ้าพระจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิงที่เมืองหนานจิงทูลขอให้ราชวงศ์หมิงส่งทัพไปช่วยเหลือคืนราชสมบัติเวียดนามให้แก่ราขวงศ์เจิ่น จักรพรรดิหย่งเล่อทรงมีราชโองการลงมายังเวียดนามพร้อมกับเจิ่นเทียมบิ่ญแต่ทว่าพระจักรพรรดิโห่กวี้ลีทรงสังหารเจิ่นเทียมบิ่ญและคณะทูตราชวงศ์หมิง พระจักรพรรดิหย่งเล่อจึงทรงส่งทัพขนาดใหญ่จำนวนกว่าสองแสนนายนำโดยแม่ทัพจางฟู่ (Zhang Fu, 張輔) และ หมู่เฉิง (Mu Sheng, 沐晟) แม่ทัพจีนทั้งสองสามารถเข้ายึดเมืองทังลองได้และในค.ศ. 1407 สามารถยึดเมืองเต็ยโดได้ พระจักรพรรดิโห่กวี้ลีทรงถูกจับองค์ไปยังนครหนานจิงเป็นการสิ้นสุดราชวงศ์โห่ซึ่งปกครองเวียดนามเพียงเจ็ดปีเท่านั้น นำไปสู่การปกครองของจีนครั้งที่สี่

ใกล้เคียง

ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสนาพุทธ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ประวัติศาสตร์จีน ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์สหรัฐ ประวัติศาสตร์สเปน ประวัติศาสตร์เยอรมนี ประวัติการบินไทย