เขตแดนลาวหลังสถาปนาอาณาจักรล้านช้าง ของ พระเจ้าฟ้างุ้ม

หลังพระเจ้าฟ้างุ้มปักปันเขตแดนแกวที่ภูไม้ล้มแบ่งแดนแกว (สายภูหลวง) จึงยกพลตีเมืองฝ่ายเหนือในเขตสิบสองจุไทและสิบสองพันนาลื้อได้คือ เมืองแถน เมืองไซ เมืองไล่ เมืองกว้าง เมืองโฮม เมืองกางล้าน เมืองสิงห้าว เมืองหุม เมืองวาด ให้เจ้าเมืองถวายราชบรรณาการแล้วเสด็จตีเมืองบูนใต้ เมืองบูนเหนือได้อาณาจักรเชียงรุ่ง เจ้าฟ้าคำเฮียวผู้เป็นอาวทราบข่าวว่าพระองค์ยกทัพตั้งที่ปากน้ำอูจึงเกณฑ์พลออกรบพ่าย ๓ ครั้งจึงละอายไพร่เมืองตัดสินพระทัยเสวยง้วนสาร (ยาพิษ) พร้อมพระมเหสีสวรรคต เสนาอำมาตย์ราชมนตรีพร้อมกันอัญเชิญพระเจ้าฟ้างุ้มเสวยราชย์นครเชียงทองในปีมะเส็ง จ.ศ. ๗๑๕ (ค.ศ. ๑๓๕๓, พ.ศ. ๑๘๙๖) เฉลิมพระนามพระยาฟ้าหล้าธรณีศรีศัตนาคนหุต ส่วนหัวเมืองลาวอีสานแต่หนองหานถึงเมืองร้อยเอ็ดเดิมขึ้นกับเขมร ครั้นสุโขทัยหมดอำนาจพระเจ้าอู่ทองตั้งอยุธยาขึ้นใน ค.ศ. ๑๓๕๐ (พ.ศ. ๑๘๙๓) ก่อนพระเจ้าฟ้างุ่มเสวยราชย์ ๓ ปี พระเจ้าฟ้างุ่มจึงลงไปตีเอาเมืองร้อยเอ็ดและเมืองอื่น ๆ ที่เคยขึ้นต่อเขมร หลังครองราชย์ ๑ ปีทรงมอบราชการเมืองให้พระนางแก้วเก็งยาส่วนพระองค์ยกพลตีเมืองเชียงแสนทางเรือโดยพายเรือทวนน้ำโขงขึ้นถึงท่าหัวเรือเมืองเหลือกยอมอ่อนน้อม แล้วเสด็จไปเมืองปากแบ่งจับล่ามเมืองลุนและเจ้าเมืองปากแบ่งได้ เสด็จประทับที่ปากทาตีเอาเมืองเซียง เมืองผา เมืองพัว เมืองพูคูน เมืองแหงได้ตั้ง ๔ เมืองนี้เป็นเมือง ๔ หมื่นทางบก ทรงประทับอยู่เมืองปากทาทรงทำบัญชีชายฉกรรจ์ในเขตที่ตีได้แล้วยกไปตีได้เมืองหิน เมืองงาว เสด็จประทับอยู่เมืองดอนมูนแขวงเมืองเชียงราย ไล่ตีเจ้าสามพระยา (ผายู) กษัตริย์ล้านนาไปถึงเมืองแพว เมืองเล็ม เมืองไร่ บ้านยู เมืองยวง เมืองพวง หัวฝาย ถึงเมืองเชียงแข็ง เจ้าสามพระยาพ่ายยอมอ่อนน้อมส่งส่วยข้าวเปลือกปีละ ๑,๐๐๐ หาบ ล้านนาและบางส่วนของรัฐฉานจึงตกเป็นเมืองส่วย[80] ทรงปักปันเขตแดนล้านนาตั้งแต่ผาไดลงมาเป็นของล้านช้างแล้วจึงยกทัพกลับ พร้อมสั่งให้กวาดพวกขอมเก่าที่หัวน้ำทา เมืองหล้า เมืองกอ ถึงแดนลื้อ (เชียงรุ่ง) ๑๐๐,๐๐๐ คนมาไว้แดนนครเชียงทอง เหลือไว้พูคูน พูจอมแจ้ง และพูคาอย่างละ ๒๐ ครัว สงครามกับหัวเมืองเหนือใช้เวลา ๒ ปีจึงเสด็จกลับนครเชียงทอง

ต่อมาพระมเหสีประสูติพระราชโอรสพระนามท้าวอุ่นเมือง ค.ศ. ๑๓๕๖ (พ.ศ. ๑๘๙๘) เสด็จทรงยกทัพตีนครเวียงจันทน์ได้ คราวเสด็จตีเมืองร้อยเอ็ดทรงหยุดประทับเลี้ยงพลที่นครเวียงจันทน์แล้วกำหนดตีเอาประเทศล้านเพีย (อยุธยา) โดยยกจากเวียงจันทน์ไปทางบึงพระงาม (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดพิจิตร) ตีได้เวียงบึงพระงามแล้วยกเข้าตีเมืองร้อยเอ็ดและเมืองเล็กเมืองน้อยได้หลายเมือคือเมืองพะสาด เมืองพะสะเขียน เมืองพะลิง เมืองพระนาราย เมืองพะนาเทียน เมืองเซซะนาด (เมืองเหล่านี้คงอยู่แถบร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ) เมืองสะพังสี่แจหรือเมืองสระสี่แจ่ง (คงเป็นเมืองสี่เหลี่ยมในเขตอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด)[81] เมืองโพนพิงแดดหรือเมืองโพนผึ่งแดด (คงเป็นเมืองในจังหวัดกาฬสินธุ์) จับเหล่าเจ้าเมืองเหล่านี้มาขังที่ร้อยเอ็ด ต่อมาโปรดฯ ส่งพระราชสารถึงพระรามาธิบดีอู่ทองเจ้าเมืองล้านเพีย (อยุธยา) ว่าจักรบหรือไม่ พระรามาธิบดีอู่ทองเกรงกลัวพระเดชานุภาพตอบพระราชสารยอมอ่อนน้อมถวายราชบรรณาการว่า ...เฮาหากเป็นพี่น้องกันมาตั้งแต่ขุนบรมปางก่อนพุ้นดาย เจ้าอยากได้บ้านได้เมืองให้เอาแต่เขตแดนดงสามเส้า (ดงพญาไฟ) เมือเท้าภูพะยาผ่อและแดนเมืองนครไทยเป็นเจ้าถ้อน อันหนึ่งข้อยจักส่งน้ำอ้อยน้ำตาลซู่ปี อันหนึ่งลูกหญิงข้าซื่อนางแก้วยอดฟ้าใหญ่มาแล้วจักส่งเมือให้ปัดเสื่อปูหมอนแก่เจ้าฟ้าแล… ดงสามเส้า (ดงพญาไฟ) ปัจจุบันคือดงพญาเย็นเขตแดนเมืองโคราชกับสระบุรี ภูพญาผ่อ (พญาฝ่อ) และแดนเมืองนครไทยคือเทือกเขาเพชรบูรณ์เส้นแบ่งภาคอีสานกับภาคเหนือและภาคกลางซึ่งลาวเรียกว่าเขาแดนลาว พระเจ้าฟ้างุ้มเมตตาสงสารไม่เสด็จตีอยุธยาเพราะอ้างความเป็นญาติ ต่อมาพระองค์จะทำพิธีปฐมกรรมประหารชีวิตเจ้าเมืองที่จับได้ทั้งหมดเพื่อฉลองชัยปราบดาภิเษกพระมหาปาสมันตเถระเจ้าผู้พระอาจารย์จึงขอบิณฑบาตชีวิตไว้ พระองค์โปรดฯ อภัยโทษปล่อยไปครองเมืองตามเดิมจากนั้นยกทัพกลับนครเวียงจันทน์[82][83]

ใกล้เคียง

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ