การบูชาและเทศกาล ของ พระคเณศ

เทศกาลเฉลิมฉลองพระคเณศโดยชุมชนชาวทมิฬในปารีส ประเทศฝรั่งเศส

พระคเณศเป็นนับถือบูชาในหลายโอกาสทางศาสนาและเชิงฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเริ่มกิจกรรมใด ๆ เช่นการซื้อพาหนะหรือเปิดกิจการธุรกิจใหม่[128] เค.เอ็น. โสมยะจี (K.N. Somayaji) กล่าวว่า "แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ในบ้าน[คนฮินดู][ในประเทศอินเดีย] ที่จะไม่มีเทวรูปของพระคเณศ; ... พระคเณศแป็นเทพเจ้ายอดนิยมในอินเดีย เกือบทุกวรรณะและทุกส่วนของประเทศ[อินเดีย]ล้วนบูชาพระองค์"[129] ผู้นับถือเชื่อว่าพระคเณศจะช่วยประทานความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง และปกป้องจากเคราะห์ร้ายทั้งปวง[130]

พระคเณศมิใช่เทพเจ้าที่แบ่งนิกาย ชาวฮินดูทุกลัทธิและนิกายล้วนสวดอ้อนวอนพระคเณศในการเริ่มสวดมนต์ กิจการสำคัญ และพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ๆ[131] นักเต้นและนักดนตรีโดยเฉพาะในอินเดียใต้จะเริ่มร่ายรำ เช่น ภารตนาฏยัม ไปพร้อม ๆ กับการสวดบูชาพระคเณศ[75] มักสวดมนตร์เช่น โอม ศรี คเณศายะ นะมะ (Om Shri Gaṇeshāya Namah) มนตร์ที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระเคณศ โอม คัม คณปตเย นะมะ (Om Gaṃ Ganapataye Namah)[132]

เครื่องถวายบูชาที่ผู้บูชานิยมถวายแด่พระคเณศคือ ขนมโมทกะและลาดู (laddu)[133] เช่นเดียวกันกับประติมานวิทยาของพระองค์ที่มักแสดงทรงถ้วยขนมหวาน เรียกว่า โมทกปาทร (modakapātra)[134] ด้วยเหตุที่ระบุว่าพระองค์มีพระวรกายสีแดง จึงนิยมบูชาด้วยผงจันทน์แดง (รักตจันทน์; raktachandana)[135] หรือด้วยดอกไม้สีแดง นอกจากนี้ยังใช้หญ้าทูรวา (Dūrvā grass) (Cynodon dactylon) และเครื่องสักการะอื่น ๆ บูชา[136]

เทศกาลสำคัญของพระคเณศคือคเณศจตุรถี ซึ่งตรงกับปักษ์ คือวันที่สี่ของข้างขึ้นในเดือนภตรปัท (สิงหาคม/กันยายน) และคเณศจตุรถี หรือวันประสูติของพระคเณศ ตรงกับปักษ์ในเดือน มาฆะ (มกราคม/กุมภาพันธ์)[137]

คเณศจตุรถี

ดูบทความหลักที่: คเณศจตุรถี
การฉลองคเณศจตุรถีบนท้องถนนในไฮเดอราบาด

เทศกาลบูชาพระคเณศประจำปีนนั้นกินเวลา 10 วัน เริ่มจากวันคเณศจตุรถีซึ่งมักตรงกับปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นกันยายนตามปฏิทินเกรเกอเรียน[138] เทศกาลเริ่มต้นด้วยการนำเทวรูปดินเหนียวของพระคเณศเข้าในบ้านหรือที่ตั้งธุรกิจ เป็นสัญลักษณ์การเสด็จมาของพระคเณศ และสิ้นสุดในวันอนันตจตุรทาษี (Ananta Chaturdashi) ซึ่งมีการนำมูรติ (เทวรูป) ดินเหนียวของพระคเณศไปจุ่มในแหล่งน้ำตามที่สะดวก[139] บางครอบครัวมีประเพณีจุ่มเทวรูปในวันที่ 2, 3, 5 หรือ 7 ของเทศกาล ในปี 1893 โลกมันยะ ติลก (Lokmanya Tilak) แปลงเทศกาลนี้จากเทศกาลส่วนบุคคลในครัวเรือนเป็นการเฉลิมฉลองอย่างอลังการสาธารณะ[140] โดยมีเป้าหมายเพื่อ "เชื่อมช่องว่างระหว่างพรหมินและผู้ที่ไม่ใช่พรหมิน และหาอันเหมาะสมที่จะสร้างความสามัคคีรากหญ้าขึ้นในพวกเขา" อันเป็นความพยายามแบบชาตินิยมเพื่อต่อต้านการปกครองของบริเตนในรัฐมหาราษฏระ[141] เขาเห็นว่าพระคเณศมีความดึงดูดกว้างขวางเป็น "เทพเจ้าของผองชน" จึงเลือกพระองค์มาเป็นจุดระดมสำหรับชาวอินเดียในการประท้วงการปกครองของบริเตน[142] ติลกเป็นผู้แรกที่ได้นำเทวรูปพระคเณศขนาดใหญ่ตั้งในศาลาสาธารณะ และเป็นผู้ริเริ่มวัตรการจุ่มเทวรูปสาธารณะทั้งหมดในวันที่สิบ[143] ปัจจุบันชาวฮินดูเฉลิมฉลองคเณศจตุรถีทั่วประเทศอินเดีย แต่มีความนิยมสูงสุดในรัฐมหาราษฏระ[144][145] ทั้งในมุมไบ ปูเน และในอัษฏวินายกโดยรอบ

เทวสถาน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: รายชื่อโบสถ์พระพิฆเนศ และ อัษฏวินายก
โบสถ์พระคเณศแห่งโมรคาว

ในโบสถ์พราหมณ์ต่าง ๆ มีการประดิษฐานพระคเณศในหลายรูปแบบทั้งเป็นเทพเจ้าองค์รอง (ปรรศวเทวดา; pãrśva-devatã) เป็นเทพเจ้าที่เกี่ยวเนื่องกับเทพเจ้าประธานของมนเทียร (บริวารเทวดา; parivāra-devatã) หรือเป็นเทพเจ้าประธาน (pradhāna)[146] ในฐานะเทพเจ้าแห่งการเปลี่ยนผ่าน พระองค์มักประดิษฐานอยู่ที่ทางเข้าของโบสถ์พราหมณ์หลายแห่งเพื่อกันผู้ไม่สมควร ซึ่งคล้ายกับบทบาทของพระองค์ที่เป็นผู้เฝ้าประตูพระปารวตี[147] นอกเหนือจากนี้ยังมีโบสถ์พระพิฆเนศโดยเฉพาะ เช่น อัษฏวินายก (สันสกฤต: अष्टविनायक; aṣṭavināyaka; ท. "(เทวสถาน) พระคเณศแปดองค์") ในรัฐมหาราษฏระ ที่ขึ้นชื่อเป็นพิเศษ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปูเนออกไป 100 กิโลเมตร เทวสถานแต่ละแห่งการบูชาพรคเณศในรูปปางต่าง ๆ กัน[148]

นอกจากนี้ยังมีเทวสถานสำคัญของพระคเณศในที่ต่อไปนี้: เมืองไว ในรัฐมหาราษฏระ; อุชเชน ในมัธยประเทศ; โชธปุระ, นาเคาร์ และไรปุระ (เมืองปาลี) ในราชสถาน; ไพทยนาถ ในพิหาร; พโรทา, โธลกา และวัลสัท ในคุชราต และธุนทุราชมนเทียร (Dhundiraj Temple) ในพาราณสี, อุตตรประเทศ ส่วนในอินเดียใต้มีที่กนิปกัม ในอานธรประเทศ; ร็อกฟอร์ตอุฉีปิลลยาร์มนเทียร ที่ติรุจิรปัลลี ในทมิฬนาฑู; โกตฏรักกร, ตริวันดรุม, กสรโคท ในเกรละ; หัมปี และอิทคุนจี ใน กรณาฏกะ; และภทรจลัม ใน เตลังคานา[149]

ที. เอ. โคปินาถ (T. A. Gopinatha) ระบุว่า "ทุกหมู่บ้านไม่ว่าใหญ่เล็กเพียงใดล้วนต้องมีเทวรูปพระพิฆเนศวรของตนไม่ว่าจะมีเทวสถานไว้ประดิษฐานหรือไม่ก็ตาม"[150] โบสถ์พระคเณศยังมีพบนอกประเทศอินเดียเช่นกัน ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เนปาล (เช่น “วินายกมนทเทียร” สี่แห่งในหุบเขากาฐมาณฑุ)[151] และในประเทศตะวันตกหลายประเทศ [152]